ตำบลสระดู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

Wat Sawang Pho Thong

Sa Doo Subdistrict, Suvarnaphumi District, Roi Et Province

ประวัติและความเป็นมา

              วัดสว่างโพธิ์ทอง ก่อขึ้นตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งที่ ๑ เมื่อปี

พ.ศ.๒๔๒๔ ครั้งที่ ๒ วันที่ ๒๓ เดือน มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ ชาวบ้านเรียกว่า วัดสว่าง หรือ วัดโพธิ์ มีเนื้อที่ ๘ ไร ๑๕ เศษ ๙ ส่วน ๑๐ ตารางวา ตั้งอยู่เลขที่ ๑๖ หมู่ที่ ๔ ตำบลสระดู อำเภอสุวรรณภูมิ ผู้นำในการก่อตั้งวัด คือ หลวงปู่คำภา

ประวัติหลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์

             พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือ หลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระเจ้าองค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูป

ที่มีหน้าตักกว้าง ๔.๕ นิ้วสูงจากฐานถึงยอดพระเกศ ๕ นิ้ว สร้างในสมัยใด ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดแต่พิจารณาดูตามพุทธลักษณะแล้วคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปในสมัยล้านช้าง

ประวัติความเป็นมา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือ หลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์

             ได้มาจาก วังพระเจ้าที่ หรือลำน้ำเสียว ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดสว่างโพธิ์ทอง ประมาณ ๒ กิโลเมตร ในวันหนึ่งเมื่อประมาณ ๑๕o ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านออกไปหาปลาตามปกติที่ลำน้ำเสียว

ชาวบ้านคนหนึ่งได้ทอดแห่ไปในน้ำ แหของชาวบ้านขนนั้นก็ไปเกี่ยวเอาวัตถุหนักอย่างหนึ่งที่อยู่ในน้ำชาวบ้านคนนั้นก็พยายามที่จะดึงแห่ของตนขึ้นจากน้ำแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงได้ดำน้ำลงไปดูว่า เป็นอะไรที่มาติดหรือเกี่ยวกับแหของตน เมื่อดำน้ำลงไปแล้วก็เอามือไปจับดูจึงรู้ว่าเป็น พระพุทธรูป และแหก็ไปเกี่ยวพันที่

 พระกรรณ (หู) ของพระพุทธรูป ชาวบ้านคนนั้นก็พยายามอยู่หลายครั้งที่จะพยายามที่จะยกพระพุทธรูปขึ้นจากน้ำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ชาวบ้านคนนั้นจึงได้บอกเพื่อน ๆ ที่ไปหาปลาด้วยกันมาช่วยกันยกขึ้นจากน้ำก็ไม่สามารถทำได้ หลังจากนั้น จึงได้ตกลงกันว่าควรจัดเครื่องสักการะบูชาอัญเชิญขึ้น จึงได้ช่วยกันตระเตรียม 

ขัน (ขัน ๘ บูชา) และเครื่องสักการะบูชาต่าง ๆ เท่าที่หาได้ แล้วก็ได้เชิญชวนชาวบ้าน ชาวคุ้มวัดสว่างโพธิ์ทองจำนวนมาก พากันไปอาราธนาพระพุทธรูปขึ้นจากน้ำเป็นผลสำเร็จ ชาวบ้านทั้งหลายเห็นเหตุอัศจรรย์เช่นนั้น จึงได้พากันขนานนามพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวว่า หลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระเจ้าองค์ศักดิ์สิทธิ์ และเรียกสถานที่ที่พบพระพุทธรูปแห่งนั้นว่า วังพระเจ้า  มาจนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นก็พากันนำไปประดิษฐานที่วัดสว่างโพธิ์ทอง จนถึงทุกวันนี้

เหตุอัศจรรย์และความศักดิ์สิทธิ์

               หลังจากที่ได้หลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานไว้ที่วัดสว่างโพธิ์ทอง หมู่ที่ ๔ ตำบล

อำเภอสุรรณฎมิ จังหวัดร้อยเอ็ด แห่งนี้แล้วปรากฏว่าหลวงพ่อองค์ศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นที่รู้จักของ

พุทธสนิกชนทั่วไป ที่ได้มากราบไหว้ขอพรอยู่เป็นประจำไม่ได้ขาด บางคนมาขอพรให้ได้ทำงาน ต่างจังหวัด และกรุงเทพ ฯ ก็ได้มาขอพรให้ตนสามารถหางานทำได้และให้ประสบผลสำเร็จ และมีเรื่องเหตุอัศจรรย์และความศักดิ์สิทธิ์อีกมายมายขอกล่าวเท่านี้