ตำบลบ้านแข้ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ


Wat Pa Weluwan

Ban Khae Subdistrict, Uthumphon Phisai District, Sisaket Province

ความเป็นมา

    วัดป่าเวฬุวัน หรือ วัดป่าบ้านแข้ ได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ มีเนื้อที่ ๘๔ ไร่ โดยมีหลวงปู่เผือ ฐานิสฺสโร พระวิปัสสนาจารย์ เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัด (หลังจากที่ออกเดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมกลับมาที่บ้านแข้ และได้มาปักกลดในป่าช้าบ้านแข้) เพื่อให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานโดยใช้ชื่อว่า “วัดป่าแสนสุขอารมณ์” ครั้นเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ) ขณะสมณศักดิ์ที่ พระพิมลธรรม ได้มาพักปฏิบัติธรรม ณ ที่แห่งนี้ เห็นว่ามีกอไผ่เป็นจำนวนมากและเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้ประทานนามว่า “วัดป่าเวฬุวัน” ในการนี้หลวงปู่ผือ ฐานิสฺสโร และหลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท ได้ดำเนินการก่อสร้างวัดให้มีเสนาสนะเพียงพอต่อพระภิกษุสามเณร และผู้ปฏิบัติธรรม โดยมีสอนกรรมฐานเรื่อยมา จน พ.ศ.๒๕๒๙ หลวงปู่เผือ ฐานิสฺสโร ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชราวัย ๙๔ ปีจึงมีหลวงปู่เลื่อม ญาณวีโร ได้สืบทอดเจตนารมณ์ปณิธานการปฏิบัติธรรม โดยได้มีการจัดงานปฏิบัติธรรมปริวาสกรรมมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๙ หลวงปู่เลื่อม ญาณวีโร ถึงแก่การมรณภาพลง มีพระอาจารย์บุญเส็ง อาภสฺสโร สานงานต่อในเจนารมณ์ และสร้างเสนาเสนะหลายอย่าง จนถึงปี พ.ศ.๒๕๔๙ พระอาจารย์คำหมาย คนฺธวํโส ได้เป็นผู้ดูแลวัดต่อมา

    เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประกาศตั้งวัด จึงมีพระอธิการคำหมาย คนฺธวํโส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และในปี พ.ศ.๒๕๕๕ ม่านได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทในราชทินนามที่พระครูวิจิตรสุคันธาภิรม (คำหมาย คนฺธวํโส)

    วัดป่าเวฬุวันได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๓๐ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ขนาด ๒๕ เมตร ยาว ๔๐ เมตร โดยเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านแข้โนนเปือย น้ำท่วม โนนขามป้อม ชาวอำเภออุทุมพรพิสัย

ผู้ปกครองวัดปัจจุบัน

  • พระครูวิจิตรสุคันธาภิรม

เจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน/เจ้าคณะตำบลก้านเหลือง 

 น.ธ.เอก ประโยค ๑-๒ พธ.บ.

  • พระปลัดธนาทิพย์ ธนวิชฺโช

รองเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน/เลขานุการเจ้าคณะอำเภออุทุมพรพิสัย

 น.ธ.เอก ประโยค ๑-๒ พธ.บ.

  • พระบุญสอน ฐิตมโน

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน  น.ธ.เอก

เวฬุวันไพรสถานบ้านแข้นี้        มีสิ่งดีอยู่มากมายให้ค้นหา

หากท่านใดได้พักอยู่สักครา        จะรู้ว่าเงียบสงบร่มเย็นดี

เป็นสถานที่อบรมบ่มเพราะจิต        ทั่วทุกทิศชาวประชาได้อาศัย

ทั้งพระเณรและนักเรียนอยู่ใกล้ไกล    ต่างได้ใช้ที่แห่งนี้บำเพ็ญธรรม

เวฬุวันเป็นสถานที่อันร่มรื่น        สงัดเงียบทั้งกลางวันกลางคืนหนา

เหมาะแก่การเจริญสมถะวิปัสสนา    พาชีวามีความสุขพ้นทุกข์ภัย

เป็นที่ให้บำเพ็ญธรรมตามดูจิต        ทำชีวิตให้มีค่ามหาศาล

ทำจิตให้หลุดพ้นจากบ่วงมาร        เป็นสถานอันสงบพบพระธรรม