วัดโนนสำเริง (ภูดินแดง)
สาขาวัดหนองป่าพงที่ ๓
ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
Wat Non Samroeng (Phu Din Daeng)
Nam Om Subdistrict, Kantharalak District,
Sisaket Province
วัดโนนสำเริง ตั้งอยู่ที่บ้านโนนสำเริง เลขที่ ๑๓๖ หมู่ที่ ๙ ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๔๖ ไร่
อาณาเขต
- ทิศเหนือ จดถนนสาธารณประโยชน์
- ทิศใต้ จดถนนสาธารณประโยชน์
- ทิศตะวันออก จดถนนสาธารณประโยชน์
- ทิศตะวันตก จดถนนสาธารณประโยชน์
- ที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๕ แปลง มีเนื้อที่ ๘๓ ไร่ ๒ งาน ๙๐ ตารางวา
บารมีหลวงปู่ชาสร้างวัด
ภูดินแดง เมื่อห้าสิบปีก่อนเป็นป่าดงดิบอุดมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และสิงสาราสัตว์มากมายจึงไม่มีผู้คนสัญจรเข้าสู่บริเวณนี้ ในระยะต่อมาภูดินแดงได้มีผู้คนอพยพมาตั้งถิ่นฐาน มีการทำไร่และหาของป่าขาย อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเป็นเนินเขาเล็ก ๆ ๓ ลูกติดกัน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ภูก้อม”
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ นายโถน ผู้นำหมู่บ้านได้อพยพมาตั้งถิ่นฐาน มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้ปรึกษากับนายหนอน นายขวัญ นายพิมพ์ นางบู๋ นางบุญ นายทา นายเคน นายเชื้อ นายคุณ โดยส่วนใหญ่เป็นสานุศิษย์ของหลวงปู่ชา สุภทฺโท ประธานสงฆ์วัดหนองป่าพง เพื่อจัดหาที่ดินในการสร้างแหล่งที่พึ่งทางใจเห็นว่าภูก้อมเหมาะแก่
การปฏิบัติธรรม จึงได้ร่วมกันสร้างกุฏิชั่วคราว ๒ หลัง เพื่อเป็นที่พักของพระกรรมฐานที่ผ่านไปมาและยังไม่ทราบว่าเป็นที่ดินของใคร
พ.ศ. ๒๕๐๘ นายโถนได้รวบรวมญาติโยมชาวบ้านภูก้อม ไปกราบนิมนต์หลวงปู่ชามาแสดงธรรม ในขณะนั้นไม่มีเสนาสนะจึงอาศัยร่มเงาจากต้นไม้ ต่อมาได้ทราบว่าที่ดินผืนนี้เป็นของนายสำเริง ประสิทธิ์ศักดิ์ และเป็นผู้บริจาคที่ดิน ๒๕ ไร่เพื่อสร้างที่พักสงฆ์ ชื่อว่า “ที่พักสงฆ์สำเริงป่าเลไลย์
พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้ก่อสร้างเสนาสนะและมีพระจำพรรษา ได้รื้อกุฏิหลังเดิมและสร้างใหม่ ๓ หลัง สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล ๑ หลัง ต่อมาไม่พระจำพรรษาจึงนิมนต์หลวงตาทาจากหนองศาลามาปกครองวัด เมื่อออกพรรษาท่านลาไปอยู่ที่อื่น จึงนิมนต์หลวงตาชัยมาแทน ไม่นานท่านก็จากไป
พ.ศ. ๒๕๑๐ ประชุมครั้งใหญ่เพื่อกำหนดขอบเขตวัด นายอำเภอได้ประกาศว่าจะสงวนที่ดินทั้งหมดของภูก้อมข้าวไว้เป็นที่ของวัด เนื้อที่ประมาณ ๙๙ ไร่ ในปีนี้หลวงปู่ชาได้ส่งพระภิกษุมาจำพรรษา ๔ รูป มี พระคำปุ่น ญาณวีโร เป็นประธานสงฆ์ และจัดตั้งกุฏิชั่วคราวขึ้นอีก ๒ หลัง
พ.ศ. ๒๕๑๒ ลงมือสร้างศาลาการเปรียญจากความศรัทธาของชาวบ้าน กว้าง ๒๓ เมตร ยาว ๔๓ เมตร
พ.ศ. ๒๕๑๓ หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ผู้นำวัดเริ่มพัฒนาในขณะได้มาจำพรรษาอยู่ โดยเริ่มสร้างศาลาการเปรียญต่อจากเดิมและขุดดินเพื่อถมพื้นศาลา สร้างหอฉัน มีพระวิฑูรย์(วัดถ้ำแสงเพชร) ผู้เป็นหัวแรงสำคัญ
พ.ศ. ๒๕๑๔ – ๒๕๑๗ ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะเพิ่มเติม ในช่วง ๒-๓ ปีนี้มีการสร้างกุฏิถาวรเพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของพระสงฆ์ขึ้นอีก ๗ หลัง ส่วนศาลาการเปรียญยังสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่การก่อสร้างยังดำเนินต่อไป ใช้ศาลาชั่วคราวเป็นที่ปฏิบัติธรรม
๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้รับอนุญาตกำหนดเขตวัดกว้าง ๑๑๘ ไร่ และเปลี่ยนชื่อที่พักสงฆ์เป็น “วัดภูดินแดง”
พ.ศ. ๒๕๑๙ – ๒๕๒๒ เป็นช่วงที่ศรัทธาญาติโยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการหลั่งไหลของอุบาสกอุบาสิกาชาวอำเภอกันทรลักษ์และใกล้เคียงมุ่งเข้าสู่ธรรมสถานไม่ขาดสาย และได้สร้างศาลาการเปรียญแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ รวมถึงสร้างโรงครัวคอนกรีตขึ้นใน พ.ศ. ๒๕๒๑
พ.ศ. ๒๕๒๓ – ๒๕๒๔ สร้างเมรุเผาศพ และมีผู้สร้างกุฏิถวายอีก ๒ หลัง ระหว่างกลางปี ๒๕๒๓ นี้ได้มีกำหนดสำนักชีขึ้นภายในวัด
พ.ศ. ๒๕๒๖ – ๒๕๓๐ สร้างเสนาสนะเพื่อทำสังฆกรรม โดยนายเกษ ศรีหาบุตร ปวารณาปัจจัยเป็นทุนเริ่มต้นในการสร้างพระอุโบสถ ๑๐๐,๐๐๐ บาท และปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้เริ่มก่อสร้างซุ้มประตูโดยร้านเย็นเจริญ อำเภอกันทรลักษ์
๑. พระอธิการยนตร์ตระการ อนาลโย ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมวิเวก สาขาที่ ๑๓๕
๒. คุณยายวันนา นิยมวงศ์
๓. คุณสุภาวดี นิยมวงศ์
๔. เด็กหญิงวรางคนาง นิยมวงศ์
๕. เด็กหญิงวิภาดา นิยมวงศ์
๖. คุณแม่สมนึก เหรียญรักวงศ์
ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้มีการก่อสร้างฌาปนสถานสำหรับประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อพระครูสิริภาวนาพิธาน(หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ธูตธมฺโม) ภายหลังจากเสร็จพิธีในวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ แล้ว สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นอนุพุทธมณฑล คือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางลีลา สูงประมาณ ๙ เมตร
๑. พระครูสิริภาวนาพิธาน แต่งตั้ง พ.ศ. ๒๕๒๖ – ๒๕๔๗
๒. พระครูสถิตอุดมคุณ แต่งตั้ง พ.ศ. ๒๕๔๙ – ปัจจุบัน
ประวัติพระครูสถิตอุดมคุณ (เสถียร กนฺตสีโล)
นามเดิมชื่อ เสถียร ไพกะเพศ เกิดวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๔
วันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู ณ บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๗ บ้านก่อ ตำบลธาตุ (ปัจจุบันเป็นตำบลแสนสุข) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดา นายพรมมา ไพกะเพศ มารดา
นางเปลี่ยน ไพกะเพศ มีพี่น้อง ๔ คน
สมณศักดิ์ที่รับพระราชทาน
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ชั้นสมณศักดิ์ พระครูสัญญาบัตร ราชทินนาม พระครูสถิตอุดมคุณ พัดยศ เจ้าอาวาส ลำดับชั้นโท
- พระอุปัชฌาย์ พระครูสุพจน์อุบลรัตน์ วัดวารินทราราม ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
- พระอุปัชฌาย์ พระครูศรีปัญญาคุณ วัดป่าวิเวก
- พระกรรมวาจาจารย์ พระบุญชู ปคุโณ
- พระอนุสาวนาจารย์ พระสุริยนต์ จนฺทปญฺโญ
– ปี พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๓๒ ได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดภูถ้ำช้าง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารเป็นเวลาถึง ๓ พรรษา
– ปี พ.ศ. ๒๕๓๓-๒๕๓๕ มาจำพรรษาที่วัดหนองป่าพงอีกครั้ง หลวงพ่อท่านก็มีโอกาสได้ดูแลอุปัฏฐากพยาบาล หลวงปู่ชา สุภทฺโท เป็นบางครั้ง ภายในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่ชาท่านก็ได้ละสังขาร (มรณภาพ)
– ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ช่วยครูบาอาจารย์ จัดเตรียมสถานที่เพื่อรับรองครูบาอาจารย์ที่มาเคารพศพหลวงปู่ชา สุภทฺโท
– ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ หลวงพ่อเลี่ยมท่านก็ได้ให้หลวงพ่อไปจำพรรษาที่วัดป่าดงเมืองซ้าย อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๓ อยู่ที่นั้นถึง ๗ ปี
– ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๔๖ ได้กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองป่าพง
– ภายในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม ท่านได้ทราบข่าวการป่วยของหลวงพ่อพระครูสิริภาวนาพิธาน(หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ธูตธมฺโม) ท่านก็ได้ส่งหลวงพ่อเสถียร กนฺตสีโล เดินทางมาจำพรรษาที่วัดโนนสำเริง(ภูดินแดง) เพื่อดูแลอุปัฎฐากพยาบาลหลวงพ่อพระครูสิริภาวนาพิธาน (หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ธูตธมฺโม) พอมาอยู่ได้ ๑ เดือนกับอีก ๕ วันหลวงพ่อพระครูสิริภาวนาพิธาน (หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ธูตธมฺโม) ท่านก็ได้ละสังขาร(มรณภาพ) ภายในปีเดียวกันหลวงพ่อท่านได้รับการแต่งตั้งจากทางฝ่ายปกครองให้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโนนสำเริง (ภูดินแดง)
– ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ หลวงพ่อเลี่ยม จิตธมฺโม ได้พาพระภิกษุ-สามเณรและคณะอุบาสกอุบาสิกา เพื่อร่วมกันสร้างเจดีย์พุทธสถาน ให้เป็นที่จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อพระครูสิริภาวนาพิธาน (หลวงพ่อพระมหาสุพงษ์ ธูตธมฺโม)
– ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ หลวงพ่อเสถียร กนฺตสีโล ได้รับการแต่งตั้งจากทางฝ่ายปกครองให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโนนสำเริง (ภูดินแดง)
– ปี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๔ หลวงพ่อได้ทำการปรับปรุงก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ มากมาย
วิทยฐานะทางการศึกษา
– ปีการศึกษา ๒๕๑๗ จบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๗ จาก โรงเรียนบ้านก่อ(ก่อวิทยาคาร) ตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
– ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ สอบผ่านนักธรรมตรี
– ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ สอบผ่านนักธรรมโท สำนักเรียนคณะจังหวัดอุบลราชธานี
ตำแหน่งการปกครองภายในวัด
– ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโนนสำเริง ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ