ปักหมุดเมืองไทย
พ่อสิอยู่นี้ บ่ไปไส บ่ได้เป็นหยังกะซ่าง
ขอเป็นวัดกะพอ
เดิมชื่อ ที่พักสงฆ์ทุ่งมณีธรรมาภรณ์เกิดจากเจตนารมณ์หลวงปู่มา จนฺทธมฺโม ที่เล็งเห็นความสำคัญของที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อประชาชน เนื่องจากหมู่บ้านหนองสนม หมู่ที่๘ ตำบลโคกชำแระ อำเภอทุ่งศรีอุดม มีจำนวนครัวเรือน๑๔๘ ครัวเรือน ประชากรประมาณ๑,๑๐๐ คน สภาพพื้นที่เป็นชุมชนแอดอัด ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ยายครอบครัวไปอยู่ที่นาของตนเอง เป็นเวลาหลายปีแล้ว และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นอีกชุมชนหนึ่ง ที่มีครัวเรือนประมาณ๔๘ ครัวเรือน ประชากรประมาณ ๑๐๐ คน ห่างจากหมู่บ้านหนองสนมประมาน๒,๐๐๐ กิโลเมตร ในวันสำคัญทางศาสนาชาวบ้านเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาทำบุญด้วยความยากลำบาก ดังนั้นหลวงปู่จึงได้บริจาคที่ดินของตนจำนวน ๖ไร่ ๒งาน ๙๙ตารางวา พร้อมบ้านของตน ๑หลัง โดยเริ่มมีแนวคิดจะสร้างช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๔๕ โดยได้ปรึกษาคุณแม่ เขียน มณีสังข์ (ภรรยา)และบุตรธิดา ชาวบ้านอาศัยอยู่คุ้มโนนเจริญแห่งนี้ว่าจะยกที่ดินทำกินส่วนนี้บริจาคเพื่อเป็นสาธาณประโยชน์ คุณแม่เขียน มณีสังข์และบุตรหลานเห็นด้วย ประกอบกับชาวบ้านเองก็พร้อมเพรียงกัน
โดยได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณท่านพระครูธรรมกิจจาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอทุ่งศรีอุดมในขนะนั้นที่อนุญาตให้จัดสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ขึ้น และได้เมตตาตั้งชื่อที่พักสงฆ์แห่งนี้ว่า
ที่พักสงฆ์ทุ่งมณี ธรรมาภรณ์
ทุ่ง หมายถึง ที่ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่ดินทุ่งนาประกอบเกษตรกร
มณี หมายถึง นามสกุลของหลวงปู่มา ผู้บริจาคที่ดิน
ธรรมาภรณ์ หมายถึง นามของผู้อนุญาตให้สร้างและผู้ให้นามที่พักสงฆ์แห่งนี้ ได้แก่ พระครูธรรมากิจจาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอทุ่งศรีอุดมในขณะนั้น วันพฤหัสบดีที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๖ จัดทำพิธีถวายที่ดินจัดทำที่พักสงฆ์ อย่างเป็นทางการ โดยมีนายขจรชัย วัฒนประยูร นายอำเภอทุ่งศรีอุดมในขณะนั้น เป็นประทานในพิธี พร้อมกับจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเป็นครั้งแรก เพื่อหาเงินสร้ากุฏิฆ์เพิ่มเติมจากกุฏิหลังแรกที่เปลี่ยนมาจากบ้านที่หลวงปู่เคยอาศัยเมื่อสมัยเป็นฆราวาส โดยในขณะนั้นผู้ร่วมบริจาคไม่มากนัก ไม่สามารถสร้างกุฏิตามวัตถุประสงค์ได้ จึงนำเงินนั้น มาสร้างห้องน้ำ รายนามผู้บริจาคปัจจัยอุปภัมภ์เสนาสนะ วัดทุ่งมณีธรรมาภรณ์ในช่วงแรกก่อตั้งวัด
- ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ คณะลูกหลานที่ไปทำงานที่โรงงานวุ้นเส้น ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะทา จังหวัดกาญจนบุรี ได้นำผ้าป่ามาทอดถวาย โดยมีนายอำพล อิศระกาญจ์กูลเป็นประธานได้ปัจจัยจำนวนหนึ่ง พร้อมเครื่องขยายเสียงครบชุด นาฬิกา ๑ เรือน ถังน้ำแข็ง ๑ อัน หม้อแกง ๓ ใบ กระติกน้ำ
- ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ คุณอมร เมฆดุษฎีรมย์ พร้อมคณะฯ บริจาคปัจจัยสร้างพระประธานถวายดังนี้ พระพุทธชินราช พระปางไสยาช นางหนม อนุสิน พร้อมลูกหลาน ได้สร้างกุฏิ ๑ หลัง ถวายเพื่ออุทิศให้แก่นายโสภา อนุสิน หลังจากที่มีการทอดผ้าป่าได้ปัจจัยจำนวนหนึ่ง จึงได้สร้างเสนาสนะเพิ่มเติมดังนี้ กุฏิ ๑ หลัง ห้องน้ำ ๓ห้อง สร้างหอระฆังมุงหญ้าคา ศาลามุงหญ้า โรงครัวมุงหญ้าคา พอมีสถานที่ประกอบศาสนพิธิทางศาสนาได้ประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้วางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ ด้วยงบประมาณที่จำกัดจึงทำได้เพียงเทด้านล่างและตั้งเสาร์เท่านั้น โดยพระมหานิคม สมเสนาะ บริจาคทรัพย์จำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท
- ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ พระชาตรี ชุ่มเย็น (ร.ต.อ.ชาตรี ชุ่มเย็นในปัจจุบัน)ได้นำโครงการบรรพชาสามเณรในปีนั้น จึงได้มีการจัดเตรียมอาคารเสนาสนะดังนี้ จัดทำห้องน้ำอีก ๕ ห้อง จัดทำโรงครัวชั่วคราว ที่พักสามเณรมุงหญ้าคา ต่อเติมศาลาการเปรียญโดยถมดินพื้นและมุงหญ้าคาชั่วคราวด้วยใบตองถุงตองชาติ ฐานพระประธาน เพื่อรองรับการอบรม สามเณรภาคฤดูร้อนในปีนั้นมีการจัดทอดผ้าป่าโดยการนำคณะศรัทธาจากนครราชสีมา ได้เงินจำนวนหนึ่ง โอ่งน้ำดื่มจำนวนหนึ่ง
- ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ คุณแม่ฉลวย เทียบรัตน์ พร้อมคณะจากกรุงเทพฯ สร้างพระปรางสุโขทัย ๑ องค์ครบชุด พร้อมจตุปัจจัย จำนวน ๗๕,๐๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
- ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๑ จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้นทุกปีได้ปัจจัยต่อเติมศาลาบางส่วนโครงเหล็กศาลาบางส่วน
- ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะผ้าป่าจากปทุมธานีมาเยี่ยมชมวัดเกิดศรัทธา จึงปวารณาอุปถัมภ์วัด จนถึงปัจจุบัน นำโดย พระมหาณรงค์ กลฺยาณธโร เป็นประธานนำคณะ อันมี
คุณอารี ปานมณี
คุณประสิทธิ์ – คุณกุหลาบ โถมยา
คุณศักดิ์ชัย – คุณชูจิตย์ แก้วหา
คุณแม่ถนอมศรี อุ่นประดิษ์
คุณบัญญัติ เจิมแก้ว
คุณเสถียร – คุณเพลินจิตแวกวานิช
คุณชั้น – คุณสุนีย์ มหาเวก
คุณสุรศักดิ์ ทองรักขาว
คุณเสาวณีย์ ชูจันทร์