วัดบ้านจาน

ตำบลจาน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
Plate Subdistrict, Kanthararom District Sisaket Province

หลวงปู่หมุน ฐิตสิโลสิริอายุ ๑๐๙ ปี

               พระปรมาจารย์อมตะมหาเถระ ๕ แผ่นดิน เปรียญธรรม ๕ ประโยค ผู้เคร่งครัดในสัจจะบารมี ผู้เรืองเวทย์วิทยาคม แกร่งกล้าในกสิณ ถือสัจจะเท่าชีวิต ถือธุดงค์เป็นวัตร ปฏิบัติกัมมัฏฐานทุกอิริยาบถ ทายาทผู้สืบสายพุทธาคม พระอริยะเจ้าสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์

               หลวงปู่หมุน ฐิตสิโล นามสกุลเดิม “ศรีสงคราม” หรือ “แก้วปักปิ่น” ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน๕ ปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๗ ณ บ้านจาน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดาชื่อ “ดี” มารดาชื่อ “อั๊ว” มีอาชีพ ทำไร่ทำนา บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี อยู่รับใช้และศึกษาวิชากับหลวงพ่อสีดา เจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ต่อมาเมื่ออายุได้ ๒๓ ปี ท่านก็อุปสมทบเป็นพระภิกษุได้รับฉายาว่า “ฐิตสิโล” แปลว่า ผู้มีศีลตั้งมั่น โดยมีหลวงพ่อสีดาเป็นพระอุปัชฌาย์ ในพ.ศ. ๒๔๖๐ จากนั้นท่านได้ร่ำเรียน พระเวทย์วิทยาคม จากครูอาจารย์หลายสำนัก และได้เดินทางไปศึกษากัมมัฏฐานและคัมภีร์มูลกัจจายน์ ที่สำนักตักศิลา แห่งบ้านจิกใหญ่ อำเภอพิบูลฯ จังหวัดอุบลฯ จนสำเร็จวิชาครบถ้วนจึงได้เดินทางกลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดบ้านจาน ต่อจากหลวงปู่พา โดยดำรงสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนนาม “พระครูหมุน” ท่านได้อยู่เป็นเวลาประมาณ ๓ – ๕ ปี ท่านก็ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดไปธุดงค์แสวงหาความวิเวกในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จากนั้นท่านก็ได้เดินทางไปศึกษาบาลีมูลกัจจายน์สูตรที่วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ จนสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค อีกทั้งยังได้ร่ำเรียนวิชาและคอยช่วยงานศาสนพิธีกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ) อธิบดีสงฆ์วัดสุทัศน์ (ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ หลวงปู่หมุนท่านได้สร้างพระกริ่งเจริญลาภเพื่อบูชาครู) ในขณะนั้นท่านยังเป็นครูบาอาจารย์สอนบาลีมูลกัจจายน์ที่วัดอรุณฯ โดยพำนักอยู่กับพระพิมลธรรม (นาค) อยู่ประมาณ ๓ ปี ท่านก็ลาออกมาแสวงหาความวิเวก ปฏิบัติบำเพ็ญเพียร ออกธุดงค์ ภาวนากัมมัฏฐาน และออกเดินทางไปร่ำเรียนวิชาพระเวทย์วิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพแห่งกองทัพธรรม, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยปั๋ง, หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า, หลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว นครสวรรค์, หลวงพ่อเงิน วัดมะปรางค์เหลือง, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์, หลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน โคราช, หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช อีกทั้งในระหว่างนั้นท่านยังช่วยงานสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังกับหลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา ปราจีนฯ และหลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง โคราช และเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๗ ท่านพำนักอยู่กับ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้ร่วมพิธีสร้างหลวงปู่ทวด รุ่นแรกที่วัดช้างไทยให้ด้วย และในระหว่างนั้นท่านก็ได้ธุดงค์แสวงหาความสงบวิเวกใช้ชีวิตอยู่ในป่าทั้งประเทศ และยังธุดงธ์ไปถึงประเทศใกล้เคียง เช่น ลาว เขมร พม่า มาเลเซีย

พบตำนานศักดิ์สิทธิ์สำเร็จลุนแห่งภูอีด่าง นครจำปาศักดิ์ พระอริยะเจ้าแห่งราชอาณาจักรลาว

               ช่วงเวลาที่ท่านธุดงค์อยู่ในประเทศลาวหลายปี จนกระทั่งไปพบอาจารย์ฉันท์และหลวงปู่ดำที่เป็นทั้งเหลนและทายาทวิทยาคมของสำเร็จลุน เพื่อขอเรียนวิชาชั้นสูงซึ่งก่อนที่จะได้เรียนวิชาในสายนี้ ต้องทดสอบภูมิปัญญา และอำนาจกระแสจิตหลายอย่าง จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะได้มาเรียนวิชาสำเร็จลุน คือ การทดสอบโดยการขึ้นเรือไปกลางแม่น้ำโขง ที่มีความแรงของกระแสน้ำแล้วจับผู้ที่ทดสอบใส่เข้าไปในกระสอบ แล้วเอาเชือกผูกปากกระสอบให้แน่นแล้วโยนทิ้งกลางแม่น้ำโขง ซึ่งถ้าสามารถทำได้ ก็ให้ไปคอยที่ฝั่งปากเซประเทศลาวต่อไป หลวงปู่ท่านเล่าว่า “ตอนนั้นมีพระป่าพระธุดงค์มาฝากตัวเป็นศิษย์ประมาณ ๕๐ รูป และผ่านการทดสอบครั้งสุดท้ายแค่ ภ รูป คือ หลวงปู่มุม วัดปราสาทเยอเหนือ ศรีสะเกษ, หลวงพ่อสงฆ์ วัดม่วง ลพบุรี และหลวงปู่หมุน เท่านั้นเอง และการยกครูเพื่อร่ำเรียนต้องมี ๑. ไตรจีวร ๒. บาตร ภ.ทองคำแท้หนัก ๑๐ บาท และต้องตั้งสัจจะห้ามลาสิกขาดลอดชีวิต ต้องใช้วิริยะอุตสาหะบำเพ็ญเพียรมากกว่าปกติ โดยจำวัดพักผ่อนวันละ ๔ ชั่วโมงเพื่อสุดยอดแห่งวิทยาคมสายสำเร็จลุน ซึ่งต่อมาไม่นานศิษย์ทั้ง ภ ท่านก็สำเร็จหลักสูตรสามารถย่นระยะทาง สามารถควบคุมธาตุ ๔ ให้เป็นไปตามปรารถนา แสดงฤทธิ์ต่างๆได้”

               ผลงานการสร้างวัด ท่านได้สร้างวัดต่างๆ ที่มีหลักฐานปรากฏอยู่ คือ

               ๑. วัดดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ (ตอนนี้ท่านอยู่กับหลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง แล้วท่านได้มาสร้างวัดนี้ไว้)

               ๒. วัดบ้านวังเยี่ยม อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย (ตอนท่านสร้างกุฏิอยู่มีพายุรุนแรงมาก พัดถล่มบ้านเรือน อาคาร แถบนั้นพังทลายหมด แต่กุฏิที่ท่านทำอยู่ไม่เป็นอะไรเลย)

               นอกจากนั้นท่านยังช่วยพัฒนาวัด อีกหลายวัด โดยท่านอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อทำนุบำรุงศาสนา ตามที่ท่านเห็นสมควรในส่วนวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างไว้ มีดังนี้ เหรียญรุ่นแรก ปี ๔๒ และวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ อาทิ

               – รุ่นเจริญลาภปี ๔๒ รุ่นเสาร์ ๕ บูชาครู ปี ๔ภ

               – รุ่นไหว้ครู ปี ๔๔

               – รุ่นไตรมาสชนะมาร ปี ๔๔

               – รุ่น “แม่ทัพ” ปี ๔๔ และรุ่นสุดท้าย

               – รุ่นมหาจักรพรรตราธิราช ปี ๔๕

ที่ท่านอธิฐานจิตให้เป็นรุ่นสุดท้าย ซึ่งวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกก็ล้วนมีอภินิหารมากมาย ทั้งร่ำรวยขึ้น คุ้มครองปกป้องชีวิต คุ้มภัยอันตรายนานัปการ และธรรมะที่หลวงปู่หมุนกล่าวเป็นประจำว่า “ของขลังของท่านเป็นของดี ของสูงมีค่าให้ทำความดีและจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี อย่าประมาท ใครจะว่าร้ายอะไรก็ช่างเขา ของไม่ดีจะย้อนกลับไปเอง ถ้าไปไหนมาไหนก็นึกถึงท่านอยู่บนหัว ปู่จะไปคุ้มครองเอง”

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล (ศรีสงคราม)

พระอมตะเถระ 5 แผ่นดิน แห่งวัดบ้านจาน ตำบลจาน

               วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ “ของๆ ฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะหมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศ สรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษาเทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็นหนึ่ง บ่อเป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดินให้เลื่องชื่อ ลือนามลือเรื่องถึงเมืองแมน”