ตำบลโพธิ์วงศ์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

Wat Prue Photharam Pho Wong Subdistrict, Khun Han District, Sisaket Province

ความเป็นมา

วัดปรือโพธาราม เดิมเป็นที่ป่าช้าสาธารณะประโยชน์ นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้านปรือ ชาวบ้านไม่มีวัดหรือสำนักสงฆ์สำหรับประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ก็มีพระแมวหรือหลวงตาแมว มาพักอาศัยอยู่บริเวณใกล้ ๆ ป่าช้าประมาณ ๓ ปี เพื่อให้ญาติโยมได้ทำบุญ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นหลวงตาแมวอีกเลย ต่อมาชาวบ้านได้สร้างศาลากลางหมู่บ้านไว้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งในแต่ละครั้งต้องไปนิมนต์พระมาจากที่วัดโพธิ์วงศ์ และวัดกระมัลเพื่อทำบุญตักบาตรในงานต่าง ๆ

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ คณะชาวบ้านได้เล็งเห็นความสำคัญของวัด เนื่องจากความลำบากในการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา จึงได้มีมติร่วมแรงร่วมใจกันก่อตั้งที่พักสงฆ์บ้านปรือ โดยการนำของนายสุบิน ส้มหวาน อดีตผู้ใหญ่บ้านปรือ พร้อมชาวบ้านทายกทายิกา ได้ไปปรึกษาพระครูกมลพัฒนาทร อดีตเจ้าคณะอำเภอขุนหาญและเจ้าอาวาสวัดกระมัลขณะนั้น ให้ตั้งที่พักสงฆ์บ้านปรือขึ้นและได้นิมนต์หลวงตากอง หรือ พระกอง  ปญฺญาธโร มาเป็นเจ้าสำนัก ท่านได้สร้างกุฏิศาลาขึ้นกลางป่าช้าของบ้านปรือสำหรับประกอบพิธีทางพุทธศาสนา ต่อมาท่านได้นำพาญาติโยม สร้างเสนาสนะเพิ่มเติม หลังจากนั้นราว ๑๕ ปี ท่านก็ได้อาพาธลงและลาสิกขาไป หลักจากนั้น พระประดิษฐ์ ฉนฺทธมฺโม ลูกศิษย์ของหลวงตากอง ดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักสงฆ์ต่อจากหลวงตากอง และมี พระนวล สจฺจวโร กับพระภิกษุสงฆ์ที่บวชเข้ามาในบวรพระพุทธศาสนาจำพรรษาอยู่ในวัด ร่วมกันพัฒนาสร้างเสนาสนะภายในวัดเพิ่มมาเรื่อย ๆ เช่น กฏิทรงไทยประยุกต์ ห้องน้ำ โรงพัสดุ ศาลาหอฉัน เป็นต้น หลังจากนั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ พระประดิษฐ์ ฉนฺทธมฺโม ก็ได้ลาสิกขาไป ครั้นต่อมาก็มี พระสาย กตปุญโญ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ได้รับหน้าที่ดูแลที่พักสงฆ์บ้านปรือแทน

หลังจากนั้น นายสุระศักดิ์ จันดาชาติ ผู้ใหญ่บ้านปรือ พร้อมด้วยทายกทายิกาได้ทำหนังสือเดินเรื่องขอสร้างวัด ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ถึง วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ มีหนังสืออนุญาตให้สร้างวัดขึ้น และในวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ มีประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง ตั้งวัดในพระพุทธศาสนา อาศัยความตามข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๐๗ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และด้วยความเห็นของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนามีนามว่า วัดปรือโพธาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ พระสาย กตปุญฺโญ อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดปรือโพธาราม เป็น พระอธิการสาย กตปุญฺโญ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙

วัดปรือโพธาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สัตว์น้ำ และปีก ชมดอกบัวบาน ดอกสายบัวบานสีชมพูอร่าม ทั่วหนองน้ำกระมัล และเป็นที่ติดกับหนองกระมัล ซึ่งเป็นบริเวณทุ่งโพธิ์เก่าเรียกว่า ศาลทุ่งโพธิ์ เป็นสิ่งที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลโพธิ์วงศ์นับถือ ซึ่งทุก ๆ ปีจะมีการบวงสรวงเทพยดาอารักษ์ที่ทุ่งโพธิ์ และจัดงานประเพณีสงกรานต์จากทุ่งโพธิ์สู่วัดปรือโพธาราม ช่วงวันที่ ๑๔ เมษายน ของทุกๆปี

อาณาเขต

วัดปรือโพธาราม มีเนื้อที่ประมาณ ๑๘ ไร่

ทิศเหนือ จรดที่ดินของ พ่อแก้ว — แม่งา ตะเคียนจันทร์ (ใกล้หนองกระมัล)

ทิศตะวันออก จรดทุ่งนา

ทิศตะใต้ จรดที่ดินของชาวบ้าน

ทิศตะวันตก จรดทุ่งนา

อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย

๑. ศาลาอเนกประสงค์ ๒ หลัง

๒. กุฏิสงฆ์ทรงไทยประยุกต์ ๑ หลัง

๓. ศาลาหอฉัน ๑ หลัง

๔. ศาลาการเปรียญหลังใหม่ ๑ หลัง

๕. ฌาปนสถาน (เมรุ)

๖. โรงครัว

๗. โรงพัสดุ

๘. ห้องน้ำ ๓ หลัง

๙. องค์หลวงพ่อทันใจและพระสีวลี

๑๐. ศาลาบำเพ็ญกุศล

ด้านการปกครอง

๑. พระกอง ปญฺญาธโร / ใจกัด (ประธานสงฆ์วัดบ้านปรือ)

๒. พระประดิษฐ์ ฉนฺทธมโม / จอมคำ (ประธานสงฆ์วัดบ้านปรือ)

๓. พระอธิการสาย กตปุญฺโญ / เสาจันทร์ (เจ้าอาวาสรูปแรกวัดปรือโพธาราม)