ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
Wat Kham Khuean Kaew Kham Khuean Kaew Subdistrict, Sirindhorn District, Ubon Ratchathani Province
ประวัติความเป็นมา
ตั้งอยู่ บ้านเลขที่ ๑๒๑ หมู่ที่ ๑ บ้านคำเขื่อนแก้ว ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีที่ดินตั้งวัด จำนวน ๒๑ ไร่ ได้มาโดยการบริจาคร่วมกันของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย
ได้เริ่มสร้างวัด เมื่อราวปีพุทธศักราช ๒๕๒๔ ด้วยศรัทธาของชาวบ้าน
ประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๓ ญาติโยมชาวบ้าน ได้ย้ายมาจากบ้านฝางเทิง บ้านคำก้อม บ้านนกเต็น ตำบลโนนกลาง อำเภอพิบูลมังสาหาร (ปัจจุบัน อ.สิรินธร) เพราะรัฐบาลได้เวนคืนที่ดินบางส่วน เพื่อสร้างเขื่อนสิรินธร และชาวบ้านจากสถานที่ต่าง ๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากกรมประชาสงเคราะห์นิคมสร้างตนเอง ได้จัดสรรที่ดินให้ครอบครัวที่ย้ายมาครั้งแรก ๔๕ ครอบครัว ๆ ละ ๑๕ ไร่ ในขณะนั้น เรียกพื้น ที่หมู่บ้านว่า ผัง ๒ ผัง ๓ ผัง ๔ และรวมอยู่กับบ้านห้วยไฮ หมู่ ๖ ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้ย้ายมาขึ้นกับบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ ๓ ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอโขงเจียม (ปัจจุบัน เป็นอำเภอสิรินธร ทั้งหมด)
ได้รับหนังสืออนุญาตให้สร้างวัดจากกรมการศาสนา โดยความเห็นชอบของกระทรวง-ศึกษาธิการ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๘
กระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
เจ้าอาวาสตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
๑. พระอธิการณัฐพล อุชุโต พ.ศ. ๒๕๔๔ – ๒๕๔๙
๒. พระมหาบุญเฮ็ง ปญฺญาสิริ พ.ศ. ๒๕๔๙ – ปัจจุบัน
ขณะที่ยังไม่ได้รับการตั้งเป็นวัด มีพระภิกษุผู้ปกครองวัด ในฐานะเป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์บ้าง มาพักอยู่ชั่วคราว เพื่อฉลองศรัทธาญาติโยมบ้าง
ปูชนียวัตถุและสิ่งสำคัญภายในวัด
๑. พระพุทธสิริชินราช พระประธานในอุโบสถจตุรมุข
๒. ไม้กลายเป็นหิน อายุ ๕๐๐ ปี
๓. พระบรมสารีริกธาตุ ๓ องค์
เสนาสนะภายในวัด
๑. อุโบสถจตุรมุข
๒. ศาลาการเปรียญ
๓. ศาลาหอฉัน
๔. อาคารเรียนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี – ธรรม
๕. กุฎีรับรองพระเถระ ๑ หลัง
๖. กุฎีรับรองอาคันตุกะ ๑ หลัง
๗. กุฎีกรรมฐาน ๗ หลัง
๘. กุฎีใหญ่ ๑ หลัง
๙. หอระฆัง
๑๐. โรงครัว
๑๑. ศาลาบำเพ็ญกุศล ๒ หลัง
๑๒. เมรุ (กำลังดำเนินการสร้างเมรุปลอดมลพิษ)
๑๓. ห้องน้ำญาติโยม จำนวน ๓ หลัง ๑๖ ห้อง
๑๔. ห้องน้ำพระภิกษุ-สามเณร จำนวน ๔ หลัง ๑๐ ห้อง
กุฏิพระ กุฏิพระ กุฏิพระ
ฌาปนสถาน ศาลาธรรมสังเวช
ห้องน้ำ-ห้องสุขา
คนพิเศษห้องน้ำ-ห้องสุขา
ผลงานการศาสนศึกษา
วัดคำเขื่อนแก้ว เป็นวัดที่เน้นการสร้างบุคลากรทางพระพุทธศาสนาได้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี – แผนกนักธรรม โดยตรง มีการเรียนการสอน พระปริยัติธรรม ๒ แห่ง คือ
๑. วัดคำเขื่อนแก้ว
๒. สำนักศึกษาและปฏิบัติธรรมดอนธรรมะประดิษฐ์เจดีย์ศรีมูล (ดอนตาดไฮ)
ซึ่งตั้งอยู่เกาะกลางแม่น้ำมูล บ้านปากบุ่ง ต.คันไร่ มี พระมหานพพร จารุธมฺโม ป.ธ. ๗ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นผู้ปกครองดูแล
วัดคำเขื่อนแก้ว สนับสนุนให้พระภิกษุ-สามเณร เรียนในระบบโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกสามัญ และระดับมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการเพิ่มพูนวิทยฐานะ เสริมทักษะความรู้ทางวิชาการ เป็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในอนาคต
พ.ศ. ๒๕๖๖ สำนักศาสนศึกษาวัดคำเขื่อนแก้ว สอบบาลีสนามหลวงได้ จำนวน ๙ รูป หนึ่งในจำนวนนั้น สอบได้ประโยค ป.ธ.๙ ขณะเป็นสามเณร คือ สามเณรธีรพงษ์ หาโคตร และต่อมาได้บวชเป็นนาคหลวง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระพรหมเสนาบดี วัดปทุมคงคา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระธรรมราชานุวัตร วัดโมลีโลกยาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ธีรเมธี”
การรับสมัครกุลบุตรเข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม เริ่มรับสมัครเดือนเมษายน ของทุกปี รับผู้ที่จบประถมศึกษาปีที่ ๖ อายุ ๑๒-๑๓-๑๔ ปี หรือกุลบุตรผู้มีอายุมากกว่านั้น ต้องมีความตั้งใจที่จะศึกษาเล่าเรียนจริง
บวชฟรี เรียนฟรี มีทุนสนับสนุน และผู้ที่ประสงค์จะเรียนในชั้นสูงขึ้นไป วัดก็สนับสนุนส่งเสริมและมีทุนการศึกษาให้ ซึ่งมีผลงานการผลิตบุคลากรร่วมกันของสถาน ศึกษาทั้งสองแห่ง ดังนี้
พระปริยัติธรรมแผนกบาลี
ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ – ๒๕๖๗
- ประโยค ๑-๒ สอบได้ทั้งหมด รวม ๑๐๕ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๓ สอบได้ทั้งหมด รวม ๕๙ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๔ สอบได้ทั้งหมด รวม ๒๓ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๕ สอบได้ทั้งหมด รวม ๑๑ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๖ สอบได้ทั้งหมด รวม ๖ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๗ สอบได้ทั้งหมด รวม ๕ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๘ สอบได้ทั้งหมด รวม ๒ รูป
- ประโยค ป.ธ. ๙ สอบได้ทั้งหมด รวม ๑ รูป
สอบได้รวมทั้งหมด ๒๑๒ รูป
พระปริยัติธรรม แผนกนักธรรม
ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๖๖
- นักธรรมตรี สอบได้ทั้งหมด รวม ๒๓๗ รูป
- นักธรรมโท สอบได้ทั้งหมด รวม ๑๔๕ รูป
- นักธรรมเอก สอบได้ทั้งหมด รวม ๘๐ รูป
สอบได้รวมทั้งหมด ๔๖๒ รูป
เป้าหมายการดำเนินงานของวัด
งานการสาธารณูปการ
๑. สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ให้แล้วเสร็จ
๒. สร้างอุโบสถจตุรมุขให้แล้วเสร็จ
๓. สร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมถาวร ๒ ชั้น
๔. สร้างกุฎี ๒ ชั้น จำนวน ๑ หลัง
๕. สร้างลานปฏิบัติธรรม และกุฎีกรรมฐาน ๑๕ หลัง
๖. สร้างฌาปนสถาน ให้เป็นเมรุปลอดมลพิษ
๗. ปรับภูมิทัศน์ภายในวัดให้เหมาะ ฯลฯ
งานการปกครองและการศาสนศึกษา
๑. จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี ให้เจริญยิ่งขึ้นไป
๒. จัดวัดให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน และอบรมเยาวชน
๓. จัดวัดให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในหมู่บ้าน และเป็นที่จัดกิจกรรมทางศาสนาระดับอำเภอ