ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
Wat Amphawan Ban Non Muang
Kudchompoo Subdistrict, Phibun Mangsahan District,
Ubon Ratchathani Province

ประวัติวัดอัมพวัน
สืบเนื่องจากบ้านโนนม่วง ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลายาวนานหลายร้อยปี ตามที่ประวัติได้เล่าต่อกันมา บ้านโนนม่วงได้มีการก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ ๒๓๘๐ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ในสมัยนั้น ห่างจากตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ประมาณ ๓ กิโลเมตร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ และชาวบ้านอยู่กันอย่างผาสุกมาโดยตลอด แต่ยังขาดหลักที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คือการมีวัดเพื่อเป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นที่ทำบุญตามประเพณีต่างๆ ชาวบ้านจึงได้อาราธนาญา ครูโส สมฺปณฺโน พระธุดงค์ที่ได้จาริกแสวงบุญมาพักจำพรรษาที่บริเวณหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจึงกำหนดเขตเอาบริเวณแห่งนี้เป็นพื้นที่ในการสร้างวัด และได้ขอสร้างวัดในปี พ.ศ ๒๔๕๗ (ปรากฏตามทะเบียนการสร้างวัด) จากนั้นจึงมี พระอาจารย์บุญรอด จนฺทสาโร ผู้เป็นศิษย์เอกผู้ถวายอุปัฏฐากในหลวงปู่พระครูวิโรจน์รัตโนบล(ญาถ่านดีโลด วัดทุ่งศรีเมือง) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีรูปแรก ได้มานำพาญาติโยมสร้างน้ำบ่อ ก่อศาลา เป็นผู้นำที่มีความดูแลลเอาใจใส่ญาติโยมอุบาสก-อุบาสิกา มาโดยตลอด

ที่ตั้ง
วัดอัมพวัน ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๔ หมู่ ๘ บ้านโนนม่วง ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๗ (ปรากฏตามทะเบียนการสร้างวัด) มีเนื้อที่ ๙ ไร่ ๒ งาน ๕๘ ตารางวา ได้รับจัดตั้งเขตวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ปัจจุบันวัดอัมพวัน มีอายุ ๑๐๗ ปี

อาณาเขต
ทิศเหนือ จรดถนนสาธารณะประโยชน์
ทิศใต้ จรดถนนสาธารณะประโยชน์
ทิศตะวันออก จรดที่เอกชน
ทิศตะวันตก จรดถนนสาธารณะประโยชน์

อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย
๑. อุโบสถ กว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๒๖ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ ๒๕๕๔
๒. ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๓๐ เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕
๓. อุโบสถโบราณ (สิมอีสาน) สร้างเมื่อปี พ.ศ ๒๔๘๕
๔. ศาลาอเนกประสงค์ ๑ หลัง
๕. ศาลาบำเพ็ญบุญ ๑ หลัง
๖. กุฏิสงฆ์ ๖ หลัง

เสนาสนะ
๑. ฌาปณสถาน ๑ หลัง
๒. หอระฆัง ๑ หลัง
๓. โรงครัว ๑ หลัง
๔. ห้องน้ำ – ห้องสุขา ๑ จำนวน ๕ ห้อง
๕. ห้องน้ำ – ห้องสุขา ๒ จำนวน ๕ ห้อง
๖. ห้องน้ำ – ห้องสุขา ๓ จำนวน ๑๐ ห้อง

ปูชนียวัตถุ
๑. พระพุทธมงคลบพิตรพิชิตมารประทานพร (หลวงพ่อพระเจ้าสำเร็จ) ปางมารวิชัย ประดิษฐานที่ อุโบสถโบราณ (สิมอีสาน) ไม่ปรากฏปี พ.ศ. ในการสร้าง
๒. พระประธานประจำอุโบสถ (หลังใหม่) ปางมารวิชัย สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๔
๓. พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางมารวิชัย สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘

สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญประจำวัด
พระพุทธมงคลบพิตรพิชิตมารประทานพร (พระเจ้าสำเร็จ) เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้าน คู่เมือง มาอย่างช้านาน จนไม่สามารถสืบประวัติได้ว่าสร้างขึ้นในสมัยไหน เดิมวัดอัมพวันได้เป็นที่จากริกแสวงบุญและเป็นที่ปฏิบัติธรรมของชาวบ้าน หลังจากที่ขออนุญาติสร้างวัดเมื่อปี พ.ศ ๒๔๕๗

ซึ่งคุณลักษณะพิเศษขององค์ท่านคือ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง ๗๙ เซนติเมตร สูง ๑.๓๒ เซนติเมตร ประดิษฐานบนบัวหงาย จำนวน ๑๔ กลีบ พระกรรณขนาบยาว
ผ้าสังฆาฏิยาวถึงพระนาภี เม็ดพระศกบนเศียรติดด้วยก้นหอย (ตัวหอยแท้ คัดขนาดที่เท่ากัน) จำนวน ๒๓๘ เม็ด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยสดงดงามในศิลปอีสานอีกองค์หนึ่งในอำเภอพิบูลมังสาหาร
รายนามการบริหารปกครองวัด(เท่าที่ทราบ)
๑ .ญาครูโส สมฺปณฺโน ไม่ทราบ พ.ศ.
๒. พระบุญรอด จนฺทสาโร พ.ศ.๒๔๕๗ – ๒๕๒๒
๓. พระอธิการกัณหา ขนฺติโก พ.ศ.๒๕๓๒ – ๒๕๖๒
๔. พระอธิการสุทธิศักดิ์ สมฺปณฺณเมธี พ.ศ.๒๕๖๒ – ปัจจุบัน

ประวัติเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
ชื่อเดิม : สุทธิศักดิ์ นามสกุล : คงมาก
ภูมิลำเนา : ๑๗๔ หมู่ ๙ บ้านดอนสำราญ ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
วัน/เดือน/ปี เกิด : วันศุกร์ที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๕
บรรพชา : ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘
พระอุปัชชาฌ์ : พระครูประทีปอัครธรรม เจ้าคณะตำบลกุดชมภู เขต ๑ วัดแก่งศิลา
อุปสมบท : ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
พระอุปัชชาฌ์ : พระครูพิบูลนวกิจ วัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู
พระกรรมวาจาจารย์ : พระครูพิบูลกิจจาภรณ์ เจ้าคณะตำบลกุดชมภู เขต ๒ วัดดอนชี
พระอนุสาวนาจารย์ : พระครูโกศลปทุมกิจ เจ้าคณะตำบลดอนจิก เขต ๒ วัดสระปทุมมาลัย
วุฒิการศึกษาทางธรรม
พ.ศ.๒๕๔๘ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนคณะจังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ.๒๕๕๐ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนคณะจังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ.๒๕๕๑ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดอุบลราชธานี
วุฒิการศึกษาทางโลก
พ.ศ.๒๕๔๘ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านแก่งเจริญ
พ.ศ.๒๕๕๑ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนพระปริยัติธรรมมุจลินวิทยา
พ.ศ.๒๕๕๔ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนพระปริยัติธรรมมุจลินวิทยา
พ.ศ.๒๕๕๙ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พ.ศ.๒๕๖๓ สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ครุศาสตรมหาบัณฑิต (ค.ม) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
