วัดบูรพารามใต้
ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร
Wat Burapha Ram Tai
Sai Mun Subdistrict, Sai Mun District, Yasothon Province

ความเป็นมา
วัดบูรพารามใต้ เดิมชาวบ้านเรียกว่า “วัดใต้” เป็นวัดเก่าแก่ของบ้านทรายมูล สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2350 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในพ.ศ. 2471 มีประวัติความเป็นมาที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน มีพระเถระผู้เคร่งในธรรมวินัยรูปหนึ่งจาริกธุดงค์ไปในหลายประเทศ อาทิ พม่า อินเดีย ลาว เป็นต้น กระทั่งปีพ.ศ.2350 ท่านได้กลับมายังบ้านทรายมูลถิ่นกำเนิดของท่านและชักชวนชาวบ้านสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น แรกเริ่มได้สร้างกุฎีทรงไทยประยุกต์แบบพม่าหนึ่งหลังและขุดบ่อน้ำดื่มน้ำใช้ ปลูกต้นไม้พัฒนาวัดเรื่อยมา เวลาผ่านไปกระทั่งพระอาจารย์น้อย สุวโจ มาจำพรรษาท่านได้ชักชวนชาวบ้านสร้างอุโบสถ โดยขอพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อพ.ศ.2471 ขนาด 20×40 เมตร เริ่มก่อสร้างปีพ.ศ.2491 และผูกพัทธสีมาปีพ.ศ. 2503 สมัยเจ้าอธิการจันดีเป็นเจ้าอาวาส

สู่ยุคทอง ในปีพ.ศ.2528 คณะสงฆ์และชาวบ้านได้นิมนต์พระมหาเดือน สิริธมฺโม จากวัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด มาเป็นเจ้าอาวาสและได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า “วัดบูรพารามใต้” จากนั้นการพัฒนาวัดก็เป็นไปอย่างรอบด้าน ทั้งการก่อสร้าง การศึกษาของพระสงฆ์ การเผยแผ่หลักธรรม เป็นต้น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น ด้วยผลงานที่โดดเด่นวัดบูรพารามใต้จึงได้รับประกาศเกียรติคุณมากมาย และท่านก็ได้รับพระราชทานตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตามลำดับจนเป็นพระราชาคณะในราชทินนามที่ “พระราชสุตาลงกรณ์”
ศาสนสถานและปูชนียวัตถุสำคัญ
อุโบสถศิลปะโบราณอิสาน อุโบสถเก่าหลังนี้สร้างเมื่อพ.ศ.2491 ศิลปะแบบโบราณอิสาน เป็นอุโบสถขนาดเล็กที่สร้างด้วยอิฐดินเผา ฉาบทาด้วยดินผสมยางไม้ ลักษณะหลังคาสามชั้นทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มุงด้วยสังกะสี เดิมมีเสมาหินโบราณฝังอยู่รอบอุโบสถด้วย ภายในประดิษฐาน พระพุทธบูรพามิ่งมงคล เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านมาช้านาน และเป็นพระประธานประจำอุโบสถหลังเก่ามาแต่โบราณ
อุโบสถหลังใหญ่ที่สุดในจังหวัดยโสธร มีขนาดกว้าง 17 เมตร ยาว 45 เมตร ศิลปะทรงไทยประยุกต์ มีมุขยื่นหน้าและหลัง เสาทั้งหมด 52 ต้น หน้าต่าง 80 บาน ประดับด้วยลายปูนปั้นสวยงาม ภายในประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ จำลองแบบจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก มีขนาดหน้าตัก 79 ซม. ประดิษฐานเป็นพระประธานประจำอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดองค์หนึ่ง

หลวงปู่พระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ (รูปเหมือน) ประดิษฐานภายในมณฑป ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของอุโบสถหลังเก่า เป็นบูรพาจารย์ผู้นำทางจิตวิญญาณและเป็นผู้ที่พาชาวบ้านสร้างอุโบสถหลังเก่า เป็นพระเถระผู้เคร่งในธรรมวินัยและเป็นที่พึ่งของพระสงฆ์ญาติโยมสามารถกราบขอพรได้
เกียรติคุณของวัดบูรพารามใต้
วัดบูรพารามใต้ ได้รับการยกย่องและประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
พ.ศ. 2532 ได้รับการยกฐานะเป็น “โรงเรียนพระปริยัติธรรมประจำจังหวัดยโสธร”
จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2534 ได้รับการยกฐานะเป็น “อุทยานการศึกษา” จาก กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2536 ได้รับการยกฐานะเป็น “วัดพัฒนาตัวอย่าง” จาก กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2540 ได้รับการยกฐานะเป็น “วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น” จาก กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2542 ได้รับการยกฐานะเป็น “โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัดยโสธรแห่งที่ 1” จากแม่กองบาลีสนามหลวง

ประวัติพระราชสุตาลงกรณ์
พระเดชพระคุณพระราชสุตาลงกรณ์ นามเดิมชื่อ เดือน นามสกุล คงศรี เกิดวันศุกร์ ที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ณ บ้านเลขที่ ๑๔ หมู่ที่ ๓ ตำบลชุมพร อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด บิดาชื่อ นายเขียน มารดาชื่อ นางเงิน นามสกุล คงศรี
บรรพชาอุปสมบท
เมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๖ ณ วัดสว่างอรุณ ตำบลชุมพร อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
นามพระอุปัชฌาย์ พระครูนิคมคณาจารย์ วัดนิคมคณาราม
ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
นามพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์เคนจันทร์ พุทฺธสโร วัดสว่างอรุณ
ตำบลชุมพร อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
นามพระอนุสาวนาจารย์ พระสวัสดิ์ อชิโต วัดประสิทธิ์โพธาราม
ตำบลชุมพร อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด

ประวัติการศึกษา
พ.ศ. ๒๔๙๖ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านหนองเดิ่น ตำบลชุมพร อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
พ.ศ. ๒๕๑๐ สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม สำนักเรียนคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
พ.ศ. ๒๕๑๙ สอบได้ประโยค ป.ธ.๔ จากสำนักศาสนศึกษา วัดบูรพาภิราม สำนักเรียนคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
เกียรติคุณที่ได้รับ
พระเดชพระคุณฯ มีผลงานทีได้รับการยกย่องทั้งโดยส่วนตัวและส่วนร่วม กล่าวคือ โดยส่วนตัวนั้น มีผลงานจนได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ ตั้งแต่ระดับพระครูสัญญาบัตร และเป็นพระราชาคณะ ตามลำดับดังนี้
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นโทที่
“พระครูปริยัติธรรมธาดา” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๓
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่
“พระโสภณสุตาลังการ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๙
พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่
“พระราชสุตาลงกรณ์” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๙
ประวัติโรงเรียนทรายมูลปริยัติวิทยา
“ธำรงพุทธศาสน์ ศาสนทายาทงามสรรพ์ ปริยัติสามัญมีคุณภาพ”
โรงเรียนทรายมูลปริยัติวิทยา เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ตั้งอยู่ในเขต วัดบูรพารามใต้ ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (เดิมทีขึ้นต่อกรมการศาสนา) ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งและเปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ โดยมีพระครูปริยัติธรรมธาดา (เดือน สิริธมฺโม นามสกุล คงศรี) น.ธ.เอก ป.ธ.๔ ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุตาลงกรณ์ ดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดยโสธร เจ้าอาวาสวัดบูรพารามใต้ และเจ้าสำนักศาสนศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัดยโสธร วัดบูรพารามใต้ ได้ขออนุญาตจัดตั้ง ตามหนังสือที่ ๑ / ๒๕๓๕ ลงวันที่ ๒๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับอนุญาตจัดตั้งจาก กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามใบอนุญาตเลขที่ ๑๔๓ / ๒๕๓๖ และ และขออนุญาตขยายระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้ง โรงเรียนทรายมูลปริยัติวิทยา ได้ตั้งอยู่ทิศตะวันตกในเขตพื้นที่ของวัด บนเนื้อที่ ๗ ไร่เศษ และได้ปลูกต้นไม้เรียงรายตามถนนทางเข้าโรงเรียน หน้าอาคารเรียนและรอบ ๆ อาคาร เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี และใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับผู้เข้ามายังสถานศึกษา

ปีแรกของการเรียนการสอน มีนักเรียน ๕๐ กว่ารูป ใช้ศาลาการเปรียญบ้าง อาคารมุงด้วยหญ้าบ้างเป็นสถานที่เรียนชั่วคราว โดยอาศัยกำลังพระภิกษุสามเณรในการก่อสร้าง โต๊ะ เก้าอี้ ครุภัณฑ์ ได้รับบริจาคจากศรัทธาญาติโยมส่วนหนึ่ง
ลักษณะโรงเรียนเป็นแบบโรงเรียนกินนอน สำหรับพระภิกษุสามเณรที่เข้ามาศึกษาจึงต้องพักประจำในวัดตลอดปีการศึกษา โดยมีกุฎีที่พักแยกเป็นคณะตามส่วน บางปีที่พักอาจคับแคบไม่เพียงพอจำเป็นต้องสร้างกุฎีหญ้าชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนเรื่องภัตตาหารการฉันได้รับความอุปถัมภ์ด้วยดีจากศรัทธาญาติโยมชาวทรายมูล โดยมิได้ขาดตกบกพร่องแต่ประการใด

ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ – ๒๕๔๐ สร้างอาคารเรียนแบบ ป.๐๔ ขนาด ๑๔ ห้องเรียน เป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น งบประมาณได้รับจากศรัทธาญาติโยม
ปี พ.ศ. ๒๕๔๒–๒๕๔๖ สร้างอาคารหอพักแบบ ป.๐๔ ห้องโถงยาว เป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น งบประมาณได้รับจากศรัทธาญาติโยม
เปิดทำการเรียนการสอนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ ถึง ๒๐.๑๐ น. โดยมีกฎระเบียบรับเฉพาะพระภิกษุสามเณรเท่านั้น ฆราวาสหากมีความประสงค์จะเข้าเรียนต้องได้รับการบรรพชาอย่างถูกต้องก่อน และปัจจุบันโรงเรียนทรายมูลปริยัติวิทยา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษายโสธร เขต ๒ สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
