


ข้อมูลภายในเอกสาร
- ประวัติควาามเป็นมา
- อาณาเขต
- อาคารเสนาสนะ
- การบริหารและการปกครอง
- สิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
- สิ่งที่กำลังดำเนินการ
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- โมเดล“พุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ”


ชื่อ “พุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ” (สังเวชนียสถานจำลอง) สำนักปฏิบัติธรรมราชเขมากรผ่องพรรณวนาราม ตั้งอยู่เลขที่ ๒๕๘ หมู่ที่ ๖ ตำบล แม่ยางตาล อำเภอร้องกวางจังหวัดแพร่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
วัดป่าพุทธภูมิสถาน เลขที่ ๑๐๕ หมู่ที่ ๖ ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ที่ดิน โฉนดที่ดิน..น.ส.๔ จ….เลขที่ ๑๔๗๓๑ เลขที่ดิน ๙๓ เล่ม ๑๔๘ หน้า ๓๑ หน้าสำรวจ…๑๖๓๓
เนื้อที่ ๑๐ ไร่ /งาน/ ๙ ตารางวา
มีอาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับบ้านแม่ยางโทน หมู่ที่ ๔
ทิศใต้ ติดกับบ้านแม่ยางม่อน หมู่ที่ ๖
ทิศตะวันออก ติดกับบ้านศรีดอนมูล หมู่ที่ ๑ ต.ร้องเข็ม
ทิศตะวันตก ติดกับบ้านแม่ยางตาล หมู่ที่ ๑
อาคารเสนาสนะประกอบด้วย
อุโบสถธรรมชาติ ๑ หลัง
วิหารธรรมชาติ ๑ หลัง
ศาลาปฏิบัติธรรม ๑ หลัง
กุฎิสงฆ์ ๔ หลัง หลัง
หอระฆัง (ยัง)
หอฉัน ๑ หลัง
ศาลาบาตร ๑ หลัง
เสาอโศก ๑ ต้น
อื่น ๆ มีป้ายวัด และศูนย์น้ำดื่ม/ประปา
การบริหารแลการปกครอง มี รก.เจ้าอาวาสและเจ้าสำนัก จำนวน ๑ รูป ดังนี้
รูปที่ ๑ พระราชเขมากร รศ.ดร. จจ.แพร่, รก.จร. ประธานผู้สร้างและตั้งวัด/สำนักฯ
ปัจจุบันมี พระภิกษุ…….๕….รูป ประกอบด้วย
รูปที่ ๑ พระมหาธนภัทร์ วชิรปญฺโญ
รูปที่ ๒.พระครูใบฎีกาเผด็จ
รูปที่ ๓.พระประสงค์
รูปที่ ๔.พระสาร
รูปที่ ๕.พระเผด็จ กวิภทฺโท (กวีทรัพย์)
ศิษย์วัด ๔ คน

ประวัติความเป็นมา
วัดป่าพุทธภูมิสถาน เดิมชื่อพุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมราชเขมากรผ่องพรรณวนาราม เลขที่ ๒๕๘ หมู่ที่ ๖ ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ๕๔๑๔๐ เกิดขึ้นโดยความดำริของ พระเดชพระคุณพระราชเขมากร รศ.ดร.(ประยุทธ ภูริทตฺโต ป.ธ.๙) และได้รับการบริจาคที่ดินจำนวน ๑๕ ไร่ ๓๕ ตารางวา จากคุณแม่ผ่องพรรณ อุปติ หรือแม่แจ๋ว บ้านเลขที่ ๑๗๖ บ้านป่าเหียง ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ โดยมีมูลเหตุเนื่องมาจากเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ หลังจากที่พระราชเขมากร (ณัฐพงศ์ ภูริทตฺโต) เจ้าคณะจังหวัดแพร่ นำคณะสงฆ์ปฏิบัติธรรมประจำปี ระหว่าง ๑๒-๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ สำนักปฏิบัติธรรมโกศัยวนาราม (ดอยปัง-แพะเมืองผี) มูลนิธิคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ และกลับวัดได้ ๕ นาที ก็มีโยมชวน คนบ้านร่องฟอง เข้ามาหาและปรารภถึงที่แห่งนี้ขึ้นว่าคุณแม่ผ่องพรรณ อุปติ อายุ ๗๐ ปี อยากจะถวายที่ดินให้พระไปอยู่สร้างสำนักปฏิบัติธรรม และประกอบกับอาตมาเองก็อยากได้สถานที่สร้างสำนักปฏิบัติธรรมพอดี ดังนั้นที่คิดว่าจะพักผ่อนสักหน่อยก็เลยลืมไปเลยจึงชวนหลวงพี่พระครูประสิทธิวรการ (ณรงค์ ธมฺมสุนฺทโร) เจ้าอาวาสวัดนาแก พร้อมด้วยแม่ชวนประสานกับแม่ผ่องพรรณ อุปติ ไปดูสถานที่ทันที และเมื่อไปเห็นแล้วก็เป็นที่ถูกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ไกลจากถนนใหญ่และตัวเมืองแพร่มากนัก สงบร่มรื่นดีมากมีต้นไม้ป่าไม้จำนวนมาก จากนั้นก็ได้ไปสำรวจอยู่บ่อย ๆ จนถึงวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ นางสาวผ่องพรรณ อุปติ หรือแม่แจ๋ว จึงได้ตัดแบ่งที่ดินจากทั้งหมด ๒๓ ไร่ ออกเป็น ๒ แปลงโดยเก็บไว้จำนวน ๘ ไร่ และได้ถวายแด่พระราชเขมากร จำนวน ๑๕ ไร่ ๓๕ ตารางวา โดยได้มอบถวายในวันที่ ๒๖มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๓๙ น. จากนั้นจึงทำพิธีบวงสรวงเจ้าที่เสร็จแล้วถวายภัตตาหารเพลพระและเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงานและถวายมอบถวายหนังสือโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๖๗๑ เล่มที่ ๓๔๗ หน้า ๗๑ตำแหน่งที่ดิน ระวาง ๕๐๔๕๑ ๓๔๒๒ เลขที่ดิน ๖๗๕ หน้าสำรวจ ๓๗๕๔ ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งที่นางสาวผ่องพรรณ อุปติ หรือแม่แจ๋ว ได้ทำให้ความปรารถนาของอาตมาภาพสำเร็จเป็นเบื้องต้น
วิหาร

ศาลาปฎิบัติธรรม

นับจากได้รับถวายที่ดินแล้วก็เริ่มพัฒนาโดยสร้างศาลาปฏิบัติธรรมขึ้นเป็นหลังแรกและใช้ปฏิบัติธรรมประจำปีของพระภิกษุสามเณรและญาติโยม นักเรียน และนิสิต มจร.วข.แพร่ มาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ ๒-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เป็นต้นมาโดยมีท่านพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, ท่านผู้ว่ากานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ และท่านสมหวัง พ่วงบางโพ ท่านชุติเดช มีจันทร์ และท่านสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มาเป็นประธานสืบต่อมาถึงปัจจุบัน และท่านสิปป์บวร แก้วงาม และอินทพร จั่นเอื่อม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งสองคนก็ได้มาเยี่ยมชมสถานที่แล้ว แต่เนื่องจากสถานที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมยังไม่สมบูรณ์เพราะขอรับการสนับสนุนงบประมาณไม่ได้โดยเหตุที่ยังไม่เป็นวัดที่ถูกต้องสมบูรณ์ และที่ดินดังกล่าวได้โอนเป็นชื่อของวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร จึงกลายเป็นที่ธรณีสงฆ์ไปไม่สามารถตั้งวัดได้
พระพุทธรูปภายในหอฉัน

ศาลาหอฉัน


ดังนั้นต่อมาพระราชเขมากร รศ.ดร.(ณัฐพงศ์ ป.ธ.๙) จึงจำเป็นต้องหาทุนซื้อที่ดินขยายเพิ่มเติมที่อยู่ติดกันอีกจำนวน ๑๐ ไร่ ๙ ตารางวา ราคา ๓ ล้านบาท เพื่อดำเนินการสร้างวัดและที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม เมื่อรวมพื้นที่ทั้งหมดเป็น ๒๕ ไร่ ๔๔ ตารางวา โดย ๑๕ ไร่ ๓๕ ตารางวา สร้างเป็นสังเวชนียสถานจำลอง เป็นแห่งศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานชื่อว่า “พุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ” ศูนย์ปฏิบัติธรรมราชเขมากรผ่องพรรณวนาราม และอีก ๑๐ ไร่ ๙ ตารางวา ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดเมื่อ พ.ศ.๒๕๖๔ และขออนุญาตตั้งวัดเมื่อ วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖โดยมติมหาเถรสมาคมให้ตั้งชื่อเป็น “วัดป่าพุทธภูมิสถาน” ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
หอฉันและศาลาโรงบาตร กำลังปรับปรุง


สำนักงานพระปริยัตินิเทศน์หนเหนือ

ศาลาทาน

มณฑปครูบา(กำลังสร้าง)

เสาอโศก

วิหารหลวงพ่อองค์ดำ



พระคันธกุฎีคีริวิหารจำลอง


ประวัติพระคันธกุฎีคิรีวิหารจำลอง
พระคันธกุฎีคิรีวิหารจำลองนี้ ได้ออกแบบและสร้างโดย พระราชเขมากร รศ.ดร.(ประยุทธ ภูริทตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ประธานก่อสร้างพุทธภูมิจำลอง เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และสร้างหลวงพ่อ “พระพุทธเทวทันใจชัยมงคล” ศิลปะอินเดีย ยุคสมัยคันธาระ เป็นพระประธานขึ้น โดยมีคุณพ่อปรีชา-แม่ครูสมปอง สายศร เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันมาฆบูชาที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เพื่อเป็นพุทธานุสสติแก่ชาวไทยพุทธตราบนานแสนนาน



พระพุทธรูปภายในศาลาปฏิบัติธรรม

พระพุทธรูปภายในหอฉัน




พระราชเขมากร (ประยุทธ ภูริทตฺโต)
เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ



โมเดล“พุทธภูมิสถานพระโพธิญาณ” สังเวชนียสถานจำลอง
สำนักปฏิบัติธรรมราชเขมากร (รศ.ดร.ประยุทธ ภูริทตฺโต ป.ธ.๙)

พระเจ้าตากสิน






อาคารที่พัก




โคกหนองนาโมเดล






