ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

Wat Klang Muen Phaew

Ban Khai Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province

ความเป็นมา

วัดกลางหมื่นแผ้ว ตั้งอยู่ที่บ้านหมื่นแผ้ว หรือบ้านค่ายหมื่นแผ้วในปัจจุบัน ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ มีอายุประมาณ ๑๖๒ ปี วัดกลางหมื่นแผ้ว ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ ๕ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้ประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็นวัด ลงวันที่ ๓๐ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ในเนื้อที่กว้าง ๖ ตารางวา ยาว ๘ ตารางวา และได้ประกอบพิธีผูกพันธสีมา เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ โดยมีคุณพ่อสมบูรณ์ แม่เข็ม ชยมชัย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสนำก่อสร้างในสมัยนั้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้ประกอบพิธีผูกพันธสีมา ครั้งที่ ๒ (ไม่ทราบแน่ชัด เพราะหลักฐานได้สูญหายไปพร้อมกับกุฏิสงฆ์หลังเก่าที่ถูกไฟไหม้)

อุโบสถ

วัดกลางหมื่นแผ้ว สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ โดยมีชาวบ้านค่ายร่วมกันสร้างขึ้นในสมัยนั้น และได้โยกย้ายที่ตั้งวัดไป หลายที่จนถึงที่ตั้งในปัจจุบัน ซึ่งเดิม วัดกลางหมื่นแผ้ว ตั้งอยู่แห่งที่ ๑ คือ ท่าวังพระ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งทำการ น้ำประปาบ้านค่าย ด้วยท่าวังพระเป็นทางน้ำไหล ฤดูฝนน้ำได้ไหลเซาะตลิ่งพัง จนไม่สามารถอยู่ได้ จำเป็นต้องย้ายไปหาที่ตั้งวัดใหม่ถึง ๔ แห่ง ปัจจุบันที่ตรงนั้นเรียกว่า วัดกลางหมื่นแผ้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งที่ ๔ มีเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ ๒ งาน ๔ ตารางวา จากนั้นพอถึงฤดูฝนน้ำได้ไหลเซาะจนตลิ่งพังเข้ามาในที่วัด ทำให้ที่ดินของวัดหายไปเหลืออยู่ประมาณ ๕ ไร่ ๑ งาน ๑๗ ตารางวา

ต่อมาเจ้าอาวาสรูปที่ ๑๕ คือ พระเมธีชัยคุณ (พระมหาแว่น เตชธโร) เจ้าอาวาสในสมัยนั้นจึงได้นำพระและชาวบ้านช่วยกันนำหินจากโคกบ้านหนองไข่น้ำซึ่งใช้เกวียนเทียมโคชักลากมาทำเป็นนบป้องกันน้ำเซาะ เพื่อไม่ให้ตลิ่งพัง ต่อมาได้ซื้อที่ดินของแม่ล้อม ไตรยศเพื่อขยายที่วัดในเนื้อที่ประมาณ ๑ งาน ซึ่งอยู่ทิศเหนืออุโบสถ คือตั้งเมรุในปัจจุบัน

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ พระครูพระครูสิริปริยัตยานุรักษ์ (พระมาหากฤตวีร์พจน์) พร้อมคณะกรรมการและชาวบ้านได้ซื้อที่ดินของอาจารย์สุดใจ หมื่นบุญ ซึ่งอยู่ติดกับที่วัดคือที่สร้างกุฏิสงฆ์หลังใหญ่ในปัจจุบันประมาณ ๑ ไร่ เป็นจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท

อาคารและเสนาสนะ

  1. อุโบสถ
  2. หอระฆัง
  3. ถังน้ำประปา
  4. ศาลาอเนกประสงค์
  5. เมรุเผาศพหลังเก่า
  6. เมรุเผาศพหลังเก่า
  7. กุฏิสงฆ์
  8. กุฏิเจ้าอาวาส
  9. อุโบสถหลังเก่า ส่วนที่ธรณีสงฆ์เป็นที่ก่อสร้างเมรุหลังใหม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

พระประธานในอุโบสถ

อุโบสถหลังเก่า

พระประธานอุโบสถเก่า

อาคารและเสนาสนะ

  1. อุโบสถ
  2. ศาลาการเปรียญ
  3. หอระฆัง
  4. ศาลาริมน้ำ 
  5. ถังน้ำประปา
  6. ศาลาอเนกประสงค์
  7. เมรุเผาศพหลังเก่า
  8. ศาลาพักศพ
  9. กุฎิสงฆ์
  10. กุฎิเจ้าอาวาส
  11. อุโบสถหลังเก่า ส่วนที่ธรณีสงฆ์เป็นที่ก่อสร้างเมรุหลังใหม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

บ่อพญานาค

พ่อหมื่นแผ้ว

การศึกษา

วัดกลางหมื่นแผ้ว ได้มีการสอนนักธรรมในชั้นตรี โท เอก แก่พระภิกษุและสามเณร ส่งเข้าสอบ ธรรมสนามหลวงตลอดมาทุกปี ภายในฤดูกาลเข้าพรรษา ได้มีการอบรมธรรมแก่ญาติโยมและชาวบ้านที่มาทำบุญและรักษาศีลอุโบสถ ภายในพรรษา นอกฤดูกาลเข้าพรรษาเป็นประจำตลอดม

 

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างเมรุใหม่

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างเมรุใหม่ ณ วัดกลางหมื่นแผ้ว ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ได้ที่

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน

เลขที่บัญชี ๗๐๕ – ๒๑๐๔๐๖๔

ชื่อบัญชี พระครูสิริปริยัติยานุรักษ์ และ นายสง่า พัสกา และ นายสามารถ ไตรยศ

รูปที่ ๑ พระอาจารย์แพง อยู่ยง พ.ศ. ๒๔๐๐

รูปที่ ๒ พระอาจารย์เที่ยง วิชชัยภูมิ

รูปที่ ๓ พระอาจารย์แจ้ง หมวดชัยภูมิ

รูปที่ ๔ พระอาจารย์สวัสดิ์ สันชัย

รูปที่ ๕ พระอาจารย์บุญมา เจริญผล

รูปที่ ๖ พระอาจารย์เฉลิม ไตรยศ

รูปที่ ๗ พระอาจารย์แดง ใจอดทน

รูปที่ ๘ พระอาจารย์ชาลี สุโพธิ์

รูปที่ ๙ พระอาจารย์เพชร ไตรยศ พ.ศ. ๒๔๘๖

รูปที่ ๑๐ พระอาจารย์เทียน พันธ์วิเศษ พ.ศ. ๒๔๙๕

รูปที่ ๑๑ พระอาจารย์มหาทองสุข (ไม่ทราบฉายา) พ.ศ. ๒๕๐๐

รูปที่ ๑๒ พระอาจารย์พัก สิทฺธตฺโถ พ.ศ. ๒๕๐๑

รูปที่ ๑๓ พระอาจารย์จรูญ ญาณสํวโร พ.ศ. ๒๕๐๒

รูปที่ ๑๔ พระอาจารย์บุญส่ง นอขุนทด พ.ศ. ๒๕๐๓

รูปที่ ๑๕ พระครูเมธีชัยคุณ (พระมหาแว่น เตชธโร) พ.ศ. ๒๕๐๖

รูปที่ ๑๖ พระอาจารย์สมดี กิตฺติสทฺโท พ.ศ. ๒๕๓๖

รูปที่ ๑๗ พระครูสิริปริยัตยานุรักษ์ (พระมาหากฤตวีร์พจน์) พ.ศ. ๒๕๓๘  จนถึงปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองชัยภูมิ เจ้าอาวาสวัดกลางหมื่นแก้ว ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมอง จังหวัดชัยภูมิ

 

พระครูสิริปริยัตยานุรักษ์ (พระมาหากฤตวีร์พจน์)