หากจะกล่าวถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดอุบลราชธานี หลายคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างผาแต้ม แม่น้ำสองสี และสามพันโบก แต่ใครจะรู้ว่าบริเวณด้านข้างของเขื่อนสิรินธรนั้น  มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามอีกแห่งหนึ่งซ่อนอยู่ นั่นก็คือ“ภูกระแต”

       “ภูกระแต” ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโนนกลาง หมู่ 11 ต.โนนกลาง  อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ที่มาที่ไปของชื่อภูกระแตนั้น เกิดจากคนอีสานซึ่งเรียกที่สูงว่า ภู ประกอบกับบริเวณนั้นมีกระแต ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับกระรอกอาศัยอยู่จำนวนมาก ชาวบ้านในบริเวณนั้นจึงเรียกพื้นที่นี้ว่า “ภูกระแต”    ในปี พ.ศ.2512 การสร้างเขื่อนสิรินธรทำให้น้ำท่วมบริเวณภูกระแตกลายเป็นเกาะแก่ง ภูกระแตจึงเป็นที่พักผ่อนสำหรับชาวบ้านที่ออกหาปลา แต่เมื่อฤดูร้อนมาถึง น้ำในเขื่อนจะลดลงกลายเป็นหาดทรายแก่งหินที่ผุดขึ้นมาอย่างชัดเจน และสามารถใช้รถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้น

มนตร์เสน่ห์ของภูกระแตเริ่มตั้งแต่ระหว่างการเดินทาง ที่จะได้สัมผัสบรรยากาศของวิถีชีวิตชนบทอีสานอันเรียบง่าย มีเพิงร้านขายของเล็กๆริมถนน สองข้างทางชาวบ้านนำวัวควายมาปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ มีทุ่งนาสีเขียวชอุ่มจนไม่น่าจะเชื่อว่านี่คือภาพของทุ่งนาในหน้าแล้งจริงๆ

เมื่อลัดเลาะผ่านลำห้วยเข้ามาใกล้ภูกระแต จะพบกับลานทุ่งหญ้าเป็นบริเวณกว้างสุดลูกหูลูกตา ต้นดอกกระดุมเงินขาวโพลนที่เกิดตามทุ่งหญ้าทอดตัวไปจนสุดขอบริมลำน้ำ สามารถลงถ่ายรูปกับธรรมชาติในบริเวณนั้นได้ ก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ป่าที่มีต้นไม้ในหน้าแล้งอันอุดมสมบูรณ์ และสามารถแวะกราบพระพุทธรูปหมู่ ทางเข้าวัดเกาะแก้วศิวิไลซ์ได้อีกด้วย

บริเวณเกาะภูกระแต สามารถลงเล่นน้ำคลายร้อน หรือเลือกพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ตามความสะดวก แม้ร้านรวงและสิ่งอำนวยความสะดวกยังมีไม่มากเพราะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวได้ไม่นาน แต่กลับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง เพราะทำให้ได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติแท้ๆของชนบท และความงดงามของเกาะแก่งธรรมชาติในฤดูร้อนน้ำลดที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ ผืนน้ำกว้างสุดตาราวกับว่ามีทะเลอยู่ล้อมรอบเกาะ ห่อหุ้มโขดหินน้อยใหญ่ที่เรียงตัวกันเป็นเกาะแก่ง ให้ความรู้สึกเหมือนที่นี่ คือทะเลน้ำจืดของภาคอีสาน

ภูกระแต จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นของขวัญที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ให้ชาวอุบลราชธานี

ร่วมรักษาความงดงามและมนตร์เสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป