วัดบัลลังก์

ประวัติพระแท่นบัลลังก์
ณ  บริเวณที่ลานพระแท่นแห่งนี้  แต่ก่อนเล่าสืบต่อกันมาว่า บริเวณแห่งนี้มีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบทั่วบริเวณ  ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดจวบกระทั่งขุนสาหร่ายได้ตามจับคนร้ายที่ก่อคดีหนีมาจากเมืองภูเขียว  มาหลบซ่อนอยู่บริเวณแห่งนี้ขุนสาหร่ายจึงบุกเข้ามาจับผู้ร้ายได้  ก็ได้พบเห็น  แท่นบูชา  และพระพุทธรูปสำริด  อยู่ในบริเวณป่าทึบแห่งนี้  พระพุทธรูปที่พบนี้  จะวางอยู่ข้างๆ แท่นหินทรายขนาดใหญ่  โดยมีใบเสมาล้อมรอบอยู่  ๘  ทิศ  เมื่อเห็นเป็นดังนั้น  ขุนสาหร่าย  เห็นว่าคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ท่านจึงชักชวนให้ชาวบ้าน  มาบูรณะเพื่อที่จะได้เป็นที่กราบไหว้เคารพบูชา  ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันมาบูรณะบริเวณนี้  ให้เป็นลานกว้าง  สะอาดตา   สมกับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเรียกบริเวณนี้ว่าลานพระแท่น  ส่วนแท่นบูชาหินทรายชาวบ้านเรียกว่าแท่นบัลลังก์  และได้ขนานนามพระพุทธรูปสำริดนั้นว่า  พระแท่นบัลลังก์  ส่วนหมู่บ้านให้เรียกว่าบ้านแท่น  ตามแท่นบูชาที่ค้นพบ  ครั้นต่อมาชาวบ้านเห็นว่าสิ่งของที่ค้นพบเป็นวัตถุเก่าแก่  ที่ล้ำค่าควรแก่การหวงแหนและเคารพบูชา  จึงได้นำองค์พระแท่น  แท่นบูชา  และใบเสมาทั้ง  8  ทิศ  ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดโพธิ์กลาง  (วัดบัลลังก์ในปัจจุบัน)  อยู่ต่อมาไม่นานก็เกิดเหตุการณ์อาเพศต่างๆ  พระครูถาวรศิริวัฒน์  เจ้าคณะอำเภอภูเขียว   ในขณะนั้น  ซึ่งท่านได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ  ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะไปเคลื่อนย้ายพระแท่นและใบเสมาเมื่อชาวบ้านทราบ ก็ได้อัญเชิญพระแท่น  และใบเสมากลับไว้ที่เดิม  เหตุการณ์ต่าง  ๆ ก็ได้สงบลงอย่าง น่าอัศจรรย์

“พระแท่นบัลลังค์”ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านแท่น อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ  เป็นโบราณวัตถุที่สร้างด้วยหินทราย   มีลักษณะเป็นรูปเหลี่ยมผืนผ้า   ขนาดกว้าง  ๑ คืบ ๙ นิ้ว ยาว ๑ ศอก ๑๑ นิ้ว  ตรงกลางเจาะรูเล็กๆ   เพื่อรองรับเดือยของรูปประติมากรรม รอบรอย  เจาะมีขอบและร่อง เพื่อให้น้ำที่สรงรูปประติมากรรมไหลออกมาบริเวณที่พบพระแท่นบัลลังก์มีการขุดพบพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ หินลูกนิมิตและหินคล้ายใบเสมาปักไว้ ๘ ทิศ ประชาชนในท้องถิ่นจะจัดพิธีนมัสการสรงน้ำพระแท่นบัลลังก์  ในวันที่ ๑๓-๑๕ เดือน ๕ ของทุกปี

คลิกเพื่อนำทาง