วัดป่าทุ่งกุลา 
ตำบลทุ่งทอง  อำเภอเกษตรวิสัย  จังหวัดร้อยเอ็ด
Wat Pa Thung Kula
Thung Thong Subdistrict, Kaset Wisai District, Roi Et Province

ความเป็นมา

วัดป่าทุ่งกุลา ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่  ๕ หมู่ที่  ๕  บ้านโพนตูม   ตำบลทุ่งทอง  อำเภอเกษตรวิสัย  จังหวัดร้อยเอ็ด  เดิมเป็นสันดอนขนาดใหญ่ พื้นที่หลายร้อยไร่เป็นป่าโปร่ง เรียกสันดอนนี้ว่า ดอนหนามแท่ง หรือ โนนหนามแท่ง ปี พ.ศ.๒๕๒๙ ชาวบ้านเริ่มวิตกกลัวมีผู้บุกรุก จากนั้น ชาวบ้านในชุมชนพร้อมคณะกรรมการจึงได้เดินทางเข้าไปกราบเรียนปรึกษา พระศีลวิสุทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) ณ วัดบึงพระลานชัย ในขณะนั้น (ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ธรรมยุต) เมื่อพระศีลวิสุทธาจารย์รับทราบ จึงได้รับสันดอนโนนหนามแท่งไว้ในความอนุเคราะห์ดูแล โดยตั้งเป้าประสงค์ว่าจะปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และจัดตั้งให้เป็นวัดป่าในคณะธรรมยุตต่อไป

ในเวลาต่อมา พระศีลาวิสุทธาจารย์เป็นผู้นำดำเนินการก่อสร้างวัดเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน และพร้อมใจกันให้ชื่อวัดว่า วัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช ตามทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้

ลำดับการก่อสร้างวัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช

พ.ศ. ๒๕๕๐  พระอาจารย์ต้นบุญ ติกขปัญโญ ได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างสำนักสงฆ์วัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช  สานต่อตามวัตถุประสงค์หลักที่พระธรรมฐิติญาณ (ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ธรรมยุต))  คือการทำให้วัดป่าทุ่งกุลาเป็นศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้แก่พุทธศาสนิกชน เป็นสถานที่อบรมเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา รวมทั้งเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และได้มีการก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นในเขตสำนักสงฆ์วัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช  ด้วย 

สำนักสงฆ์วัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช  ได้รับประกาศตั้งวัดจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขึ้นอย่างเป็นทางการ มีนามว่า วัดป่าทุ่งกุลา  ณ วันที่  ๙ มีนาคม  ๒๕๕๘

ภายหลังพระอาจารย์ต้นบุญ ติกขปัญโญ มอบหมายให้ลูกศิษย์คือ พระครูวินัยธรธีระพงษ์  ธีรปัญโญ  รับตำแหน่งเจ้าอาวาส 

ปัจจุบัน พระครูวินัยธรธีรพงษ์  ธีรปัญโญ  ซึ่งมีตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าทุ่งกุลา ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์จากพระอาจารย์ต้นบุญ เพื่อพัฒนาให้วัดป่าทุ่งกุลาเป็นศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่พุทธศาสนิกชนทุกกลุ่ม รวมทั้งเป็นศาสนสถานที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือสืบไป

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีทศพลญาณเฉลิมราชชัยมงคล 

เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประทานให้เมื่อวันที่ ๑๙ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน พุทธบริษัททั้งหลายได้กราบสักการะบูชา และพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญมาจากทั่วโลก เป็นพระมหาธาตุเจดีย์รูปทรงเดียวกันกับพระธาตุพนม มีความกว้างฐาน ๙.๙  x ๙.๙ เมตร ความสูง ๕๔ เมตร

โดยในวันที่  ๔ เดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ. ๒๕๙๙  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ เสด็จมาทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ บนบุษบก ภายในพระมหาธาตุเจดีย์

ปัจจุบันทางวัดยังเปิดเป็นศูนย์อบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ นักเรียน นักศึกษา เยาวชน โดยมีโรงเรียน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้นำนักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่เข้ามารับการอบรมเป็นประจำ