ตั้งอยู่ ณ บ้านสังแก ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
วัดสหมิตรบำรุง
ประวัติความเป็นมา
วัดสหมิตรบำรุง เริ่มแรกชื่อว่าวัดบ้านสังแก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านสังแก ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเป็นที่วัดเก่าปัจจุบันเป็นสถานที่ปูตา เป็นที่เคารพนับถือประกอบพิธีประจำปีของชาวบ้านสังแกและชาวบ้านศรีสวัสดิ์ (ทั้ง ๒ หมู่บ้าน) สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยมีพระอาจารย์ซิม หรือพิมพ์ ไม่ทราบฉายา เป็นผู้นำก่อสร้างวัดเป็นรูปแรก อยู่มาได้ไม่กี่ปีก็เกิดอาเพศ คือ มีพระ-เณร มรณภาพ (ตาย) และเกิดแผ่นดินแตกระแหงทำให้ไม่มีพระ-เณรกล้าอยู่จำพรรษา เนื่องจากหลวงพ่อซิมหรือพิมพ์ได้ขอสิกขาลาเพศไป เลยกลายเป็นวัดร้างไปหลายปีพอสมควร
กำเนิดวัด (บ้านสังแก)
ต่อมาได้มีพระรูปหนึ่งจาริกมาอาศัยอยู่ท่านมีนามว่า พระอาจารย์พัด ประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๕ ได้นำชาวบ้านคิดก่อสร้างวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยย้ายมาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้านสังแก และเป็นที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน ซึ่งได้นำเอาไม้จากวัดเก่ามาทำการก่อสร้าง แต่ทว่าท่านอยู่ได้ไม่นานนัก ท่านก็ได้หายไปอย่างไม่ทราบที่มาที่ไป เหลือเพียงหลวงพ่อคานเป็นผู้ดูแลและจำพรรษาอยู่ ในสมัยนั้นหลวงพ่อคานได้ทำการขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง นับว่าท่านนั้นมีความคิดริเริ่มที่ดีมองการณ์ไกล หรือสมัยปัจจุบันกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่ดีและมีอุดมคติที่ดีมาก ชาวบ้านได้เล่าต่อๆ กันมาว่า ท่านลงมือขุดสระ แบกหามดินที่ขุดขึ้นมาเทด้วยตัวของท่านเองอยู่รูปเดียวจนเสร็จ ต่อมาได้มีเด็กๆ เข้ามาศึกษาเล่าเรียนหนังสือที่วัด โดยใช้ศาลาวัดเป็นอาคารเรียน ต่อมาจึงมีชื่อเรียกกันว่าโรงเรียนวัดบ้านสังแก โดยมีป้ายเขียนติดไว้ที่ศาลาวัดว่า สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ อยู่มาจน พ.ศ. ๒๔๙๕ หลวงพ่อคานได้ออกจากวัดบ้านสังแกไป ทราบข่าวทีหลังว่าท่านได้ไปสร้างวัดที่บ้านทองเรือ อ.เมือง จ.บุรีรัมยั วัดบ้านสังแกได้ตกเป็นวัดร้างอีกครั้งเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งมาถึง พ.ศ. ๒๔๙๘ ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม ผู้ใหญ่เสาร์ วิชุมา ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านสังแกในสมัยนั้นได้นำชาวบ้านไปนิมนต์พระมาอยู่จำพรรษาในวัดอีกครั้ง คือ หลวงพ่อตี๋ อาภสฺสโร ผู้เป็นหัวหน้า หลวงพ่อคอง และหลวงพ่อเสาร์ ทั้งสามรูปได้อยู่จำพรรษาจนถึง พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงพ่อทั้งสามได้กลับไปยังวัดเดิมของท่าน ในช่วงสอบนักธรรมเสร็จ ยังเหลือแต่สามเณรทัดและสามเณรโท สามเณรสองพี่น้องที่ยังคงอยู่จำพรรษาวัดบ้านสังแกในตอนนั้น และทำท่าเหมือนวัดจะร้างอีกครั้ง
จุดเริ่มของวัดสหมิตรบำรุง
เนื่องจากดูเหมือนวัดจะร้างอีกครั้งชาวบ้านจึงประชุมและเห็นพ้องต้องกันที่จะไปนิมนต์ พระนันท์ ธนสีโล ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่บ้านเสม็จ ต.เสม็จ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ มาจำพรรษาที่วัดบ้านสังแกใน พ.ศ. ๒๕0๑ และท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสภายในปืนั้น ต่อมาพระนันท์ ธนสีโล ได้สร้างความเจริญให้แก่วัดบ้านสังแก และท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดสหมิตรบำรุง” ในปัจจุบันและได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองฮะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ (ในขณะนั้นยังขึ้นกับอำเภอศีขรภูมิ) และท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี พระครูนันทศีลคุณ ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะอำเกอสำโรงทาบ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๔๔ ท่านได้พัฒนาวัดและช่วยเหลือชุมชนจนกระทั่งวาระสุดท้ายของการบำเพ็ญบารมี ซึ่งได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
วัดสหมิตรบำรุง ขึ้นทะเบียน พ.ศ. ๒๔๗ ๘ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ประกาศ ณ วันที่ ๒0 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ งวดที่ ๕ เล่ม ๙๔ ตอนที่ ๑๓๐ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือ พลเอก เกรียงศักดิ์ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี เนื้อที่ของวัดสหมิตรบำรุงข้อมูลจาก พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยพระครูนันทศีลคุณ เป็นผู้บันทึกไว้ดังนี้
ที่ดินวัดสหมิตรบำรุงเดิมมี ๕ ไร่ ๒ งาน ๕๔ ตารางวา ได้มาเพิ่มอีกรวม ๗ ไร่ ๑ งาน
แปลงที่ ๑. โฉนดที่ดิน เลขที่ ๔๒๕๕ เลขที่ดิน ๖๒ เล่ม ๔๓ หน้า ๕๕ ๖ ไร่ ๒ งาน ๕ ๔ ตารางวา
แปลงที่ ๒. โฉนดที่ดิน เลขที่ ๒๒๖๖๖ เลขที่ ๔๔๗ เล่ม ๒๒๗ หน้า ๖๖ ๑ งาน ๑๐ ตารางวา
แปลงที่ ๓. เป็น (น.ส.๓ ก.) ทะเบียนเลขที่ ๒๑๖๖ เลขที่ดิน ๒๙๕ เล่ม ๒๖ ก. หน้า ๒๖ ๕๑ ตารางวา
แปลงที่ ๔. เป็น (น.ส.๓ ก.) ทะเบียนเลขที่ ๒๕๒๕ เลขที่ดิน ๒๔๔ เล่ม ๒๖ ก. หน้า ๒๕ ๕0 ตารางวา
แปลงที่ ๕. เป็น (น.ส.๓ ก.) ทะเบียนเลขที่ ๒๕๒๔ เลขที่ดิน ๒๘๓ เล่ม ๒๖ ก. หน้า ๒๕๓๕ ตารางวา
(พระครูสุธรรมวรานุรักษ์ กัดลอกจากหลักฐานเดิม พิมพ์บันทึกไว้วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒).
ประวัติโดยย่อ
พระศรูนันทศิลคุณ (นันท์ ธนสีโล / สุนิตา)
อดีตเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบ และเจ้าอาวาสวัดสหมิตรบำรุง
๒๐ หมู่ ๓ บ้านสังแก ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พระครูนันทศีลคุณ ฉายา ธนสีโล อายุ ๗๙ ปี ๗ เดือน ๗ วัน พรรษา ๖0 วิทยฐานะ นักธรรมชั้นโท วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สถานะเดิม ชื่อ นันท์ นามสกุล คุชิตา เกิดเมื่อวันที่ ๗ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๒ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเส็ง เป็นบุตรของ นายขาว – นางยา คชิตา ณ บ้านเลขที่ ๑๒ บ้านเสม็จ หมู่ ๒ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน หมู่ ๑ ตำบลเสม็จ
อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม ๙ คน
การศึกษา
ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนประชาบาลวัดเสม็จ
ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ สอบใส่ได้นักธรรมชั้นโท ณ สำนักศาสนศึกษาวัดเสม็จ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
การศึกษาพิเศษ
เรียนอ่านออกและเขียนได้ อักษรธรรม – อักษรขอม พิมพ์ดีดภาษาไทยได้
ความชำนาญการ
ในด้านนวกรรม สามารถออกแบบการก่อสร้างกุฏิ – ศาลาการเปรียญและเขียนลายไทย เป็นผู้ทรงพระธรรมกถึกและเป็นผู้ทรงพระปาติโมกข์
การบรรพชา
พ.ศ. ๒๔๔ ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันเสาร์ แรม ๔ ค่ำ เดือนตุลาคม ปีชวด วันที่ ๓ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒ ๔5๑ ณ วัดเสม็จ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ เจ้าอธิการกา สงฺฆรสฺโส วัดบ้านเสม็จ เป็นพระอุปัชฌาย์
การอุปสมบท
วันที่ ๕ เดือนกรกฎาคม ๒๔๙๒ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนตุลาคม ปีฉลู อุปสมบท ณ พัธสีมาวัดบ้านเสม็จ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ (ปัจจุบัน ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ) จังหวัดสุรินทร์
เจ้าอธิการกา สงฺฆรสฺโส วัดบ้านเสม็จ เป็นพระอุปัชฌาย์ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบันเป็น ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พระกรรมวาจาจารย์ พระพรมมา จนฺทสาโร วัดบ้านเสม็จ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ (คือ พระครูพรมเขตคณาพิทักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเกตุวราราม และเจ้ากณะอำเภอสำโรงทาบ) จังหวัดสุรินทร์
พระอนุสาวนาจารย์ พระอธิการพันธ์ วัดกระออม ตำบลกระออม อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบันเป็น วัดเทพนิมิตร ตำบลกระออม อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
“ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านเสม็จเป็นเวลา ๓ ปี ญาติโยมชาวบ้านสังแกได้ไปนิมนต์ท่านมาจำพรรษา ณ วัดบ้านสังแก ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบันเป็นวัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์”
งานด้านปกครอง
พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสหมิตรบำรุง ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน ตำบลหนองฮะ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
งานด้านการศึกษา
พ.ศ. ๒๔๘๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ประจำศาสนศึกษาวัดบ้านเสม็จ ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบัน ตำบลเสมีจ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดกลาง อำเภอเมือง สุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง ณ สนามสอบ วัดเกตุวราราม ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา วัดสหมิตรบำรุง ตำบลหนองฮะ อำเภอศีขรภูมิ ปัจจุบันตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
งานด้านสาธารณูปการ
พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้ดำเนินการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒ ๑ เมตร โครงสร้างครึ่งปูนครึ่งไม้ หลังคามุงด้วยกระเบื้อง ณ วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าก่อสร้าง ๑๘๕,๖๗๕ บาท
พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ ๑ หลัง โครงสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐถือปูน ลักษณะทรงไทย หลังคามุงด้วยกระเบื้องเกล็ดปลา กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๖ เมตร ณ วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ
อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าก่อสร้าง ๙๗๖,๗๓๕ บาท
พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้พาพระภิกษสามเณรและชาวบ้าน พัฒนาถนน กว้างประมาณ ๘ เมตร ระยะทางประมาณ ๒ กิโลเมตร จากบ้านสังแก-บ้านเสม็จ โดยแบ่งให้หลังคาละ ๕ เมตร ขุดดินขึ้นมาทำถนนความสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการแต่อย่างใด ประมาณค่าไม่ได้
พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้พาพระภิกษุสามเณรและชาวบ้าน พัฒนาทางเกวียน เพื่อสร้างเป็นถนนดิน กว้างประมาณ ๖ เมตร ระยะทางประมาณ ๑.๖ กิโลเมตร จากบ้านตาก่ำ – บ้านหนองม้า และทำสะพานไม้ข้ามคลองโดยใช้แรงงานจาก
พระภิกษุสามเณรและชาวบ้านขุดดินขึ้นมาทำถนน ความสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการแต่อย่างใด ประมาณค่าไม่ได้
พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อใช้อุปโภคบริโภคลึก ๗๐ เมตร ที่ วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าใช้จ่าย ๙,๓๔๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญขึ้น ๑ หลัง โครงสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐถือปูน ลักษณะทรงไทยประยุกต์ กว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๘ เมตร หลังคามุงด้วยกระเบื้องลูกฟูกที่วัดสหมิตรบำรุง
ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ รวม ๔,๙๕๗,๓๖๕ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ดำเนินการขอขยายเขตไฟฟ้าพัฒนาที่วัดสหมิตรบำรุง และ ๔ หมู่บ้านในสังกังวัด คือ บ้านสังแก สองห้องศรีสวัสดิ์ ตาก่ำ ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๓๖๐,๐๐๐ บาท
โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการแต่อย่างใด
พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำ-ห้องสุขา จำนวน ๑๓ ห้อง ลักษณะโครงสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กก่อด้วยอิฐถือปูน กว้างห้องละ ๑.๓๐ เมตร ยาว ๓.๕๐ เมตร ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ
จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าก่อสร้าง ๘๖,๗๙๖ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้ดำเนินการก่อสร้างซุ้มประตูวัดจำนวน ๒ ด้าน กว้าง ๖ เมตร สูง ๑๒ เมตร โครงสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐถือปูน ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นงบประมาณ
ค่าก่อสร้าง ๑๔๙,๕๖๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้ดำเนินการขุดสระน้ำ จำนวน ๒ แห่ง ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ กว้าง ๙.๓๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร ลึก ๒.๕๐ เมตร ใช้งบประมาณ จำนวน ๔๘๓,๒๗๑ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้สร้างรั้วกำแพงรอบวัดยาว ๙๓๐ เมตร สูง ๒ เมตร ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าก่อสร้าง ๓๙๔,๔๖๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้ดำเนินการก่อสร้างเมรุ ๑ หลัง กว้าง ๓.๕๐ เมตร ยาว ๗.๕0 เมตร ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าก่อสร้างทั้งสิ้น ๖๔๔,๕๒๕ บาท
(หกแสนสี่หมื่นสี่พันห้าร้อยยี่สิบห้าบาทถ้วน)
พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาหน้าเมรุ โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กก่อด้วยอิฐถือปูน กว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๑๓.๕0 เมตร ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
สิ้นค่าก่อสร้างทั้งสิ้น ๒๓๕,๖๘๔ บาท
– สร้างถังน้ำประปา สูง ๙ เมตร สำหรับใช้อุปโภคบริโภค โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐถือปูน ขนาดกว้าง ๓.๕o เมตร ยาว ๓.๕๐ เมตร สูง ๑.๕๐ เมตร ที่วัดสหมิตรบำรุง ตำบลเสม็จ
อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ สิ้นค่าใช้จ่าย ๒๑๓,๗๖๔ บาท
– ซื้อดินมาถมปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัดให้สูงขึ้น จำนวน ๙๐ กันรถ กันรถละ ๑๕๐ บาท สิ้นค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๑๓,๕๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสามพันห้าร้อยบาทถ้วน)
ลำดับเจ้าอาวาสของวัดจากอดีตถึงปัจจุบันของวัดสหมิตรบำรุง
โดยมีลำดับ ดังนี้
๑) พระอาจารย์ซิม ผู้ก่อตั้งวัดรูปแรก ประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๓
๒) พระอาจารย์พัด
๓) หลวงพ่อคาน จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านสังแก ประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๔๕๖
๔) หลวงพ่อตี๋ อาภสฺสโร จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านสังแก เห็นได้จากป้ายโรงเรียนวัดบ้านสังแกว่าสร้าง พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๐๐
๕) พระครูนันทศีลคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบและเจ้าอาวาส วัดสหมิตรบำรุง อยู่บริหารงานจัดการวัดตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕0๑-๒๕๕๒ ซึ่งได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
๖) พระครูสุธรรมวรานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบและเจ้าอาวาสวัดสหมิตรบำรูงองค์ปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลรักษาการแทน ทั้งหน้าที่เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสหมิตรบำรุงและเจ้าคณะอำเภอสำโรงทาบปกครองวัดสหมิตรบำรุงและคณะสงฆ์อำเภอสำโรงทาบ สืบไป
คลิกเพื่อนำทาง