วัดวิเวกการาม

ประวัติหมู่บ้าน

เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๒ ได้มีราษฎรซึ่งอพยพมาจากบ้านน้ำริน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ และราษฎรจากบ้านโป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวมทั้งหมด ๙ ครอบครัว ประกอบด้วย
๑. พ่อหนานสุนันต๊ะ         แม่ปิน ธานินทร์
๒. พ่อก๋องแก้ว            แม่สุข คำมูล
๓. พ่อยี (ฮ่อ)              แม่เตี้ยง
๔. พ่ออุ๊ยแฮด             แม่ต่อม
๕. พ่ออากิน                แม่แก้ววรรณา กินยา
๖. พ่อท้าวข่ม
๗. พ่อส่างมะ              แม่เตียม
๘. พ่อหนานสี            แม่เฟย
๙. พ่อตีปิน                 แม่แดง

จากการนำของ พ่อหนานสุนันต๊ะ ธานินทร์ มาเสาะแสวงหาที่ทำมาหากินที่อุดมสมบูรณ์ พากันเดินทางด้วยเท้ารอนแรมเรื่อยมา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๗ วัน มาถึงบ้านแม่สูนหลวง และได้พากันข้ามแม่น้ำฝางไปฟากทิศตะวันออกไปพักอาศัยอยู่ตามห้างไร่ นา (ห้าง คือ กระต๊อบ ที่ใช้อาศัยเป็นครั้งคราว) ใกล้ๆ กับหมู่บ้านแม่คะ หาแหล่งที่ทำมาหากินอยู่หลายวันก็ยังไม่เป็นที่พอใจ จึงได้พากันเดินทางข้ามแม่น้ำฝางมาฟากทิศตะวันตกกันอีก ครั้งได้มาพักอาศัยและทำมาหากินอยู่ที่บ้านปางสักด้วยการรับจ้างบ้าง หาของป่าไปขายบ้างเนื่องจากที่มีอาชีพหาของป่า เพื่อนำไปขาย และเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิต จึงได้ผ่านมาบริเวณนี้บ่อย ๆ จึงได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี เหมาะแก่การเพราะปลูกจึงได้พากันย้ายมาจากบ้านปางสัก มาตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้รวมระยะเวลาที่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านปางสักนาน ประมาณ ๖ เดือน

 

คำขวัญของหมู่บ้าน
เมืองเหนือถิ่นไทยงาม
วิเวกการามงามสง่า
ส้มแลลิ้นจี่รสเลิศโอชา
งามล้ำค่าน้ำตกโป่งน้ำดัง

หลังจากที่ได้มาอยู่ที่แห่งนี้แล้ว ก็ได้ยึดเอา ๒ ฟากฝั่งของแม่น้ำแม่สูนน้อยเป็นที่ทำมาหากินและที่อยู่อาศัย การจับจองที่ทำกินในสมัยนั้นก็ลำบากพอสมควร เพราะเป็นป่าทึบ ต้องอาศัยการขึ้นต้นไม้ที่สูงใหญ่ แล้วชี้เอาว่าของใครถึงที่ไหนใช้ต้นไม้แต่ละต้นเป็นหลัก

พระธาตุทันใจองค์เก่าดั้งเดิมที่ได้รับการบูรณะตกแต่ง

ต่อมาก็ได้มีราษฎรจากท้องที่อื่น ๆ ที่ทราบว่าบริเวณแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้พากันอพยพมาอยู่ร่วมกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อง ๆ และได้เรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “หมู่บ้านแม่สูนน้อย” เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน

ประวัติการสร้างวัด

เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๔๓ พ่อหนานสุนันต๊ะ ธานินทร์ พร้อมด้วยราษฎรในหมู่บ้านได้พร้อมใจกันก่อตั้งวัด (อาราม) ขึ้นเป็นครั้งแรกที่บริเวณติดกับลำน้ำเหมืองกลาง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสะพานข้ามน้ำแม่สูนน้อยไปประมาณ ๑๒๐ เมตร ได้สร้างศาลาไว้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพร้อมทั้งเป็นที่อาศัยของพระภิกษุสงฆ์ สามเณรด้วย ศาลาทำด้วยไม้ไผ่ หลังคามุงด้วยหญ้าคา สถานที่แห่งนี้ปัจจุบันเรียกว่า “อาราม”

ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๐ พ่อหนานสุนันต๊ะ ธานินทร์ พร้อมด้วยราษฎรในหมู่บ้านก็ได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยได้ย้ายมาสร้างในสถานที่ของวัดในปัจจุบันนี้ ครั้งแรกได้สร้างศาลาชั่วคราวขึ้นทางด้านทิศเหนือของวิหารหลังปัจจุบันนี้ และได้ตั้งชื่อวัดที่สร้างใหม่นี้ว่า “วัดแม่สูนน้อย”

เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๓ พระอาจารย์ณรงค์ ไม่ทราบฉายา เป็นพระอาคันตุกะและรักษาการเจ้าอาวาส ได้ทำการตั้งชื่อวัดมาใหม่แทนชื่อวัดเดิม โดยเปลี่ยนจากชื่อ “วัดแม่สูนน้อย” มาเป็นชื่อ “วัดวิเวกการาม” เพื่อต้องการให้สอดคล้องกับภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม เพราะในสมัยนั้นบริเวณวัดยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และมีฝูงนกกาหลายชนิด มีเสียงจั๊กจั่น เรไรร้องระงมตลอดทั้งวัน

พระธาตุทันใจ

ทำเนียบเจ้าอาวาสวัดวิเวกการาม

๑. พระอาจารย์ปัญโญ      ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๕๗ – พ.ศ. ๒๔๗๓
๒. พระอาจารย์คำอ้าย      ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๗๓ – พ.ศ. ๒๔๗๕
๓. พระก๋องคำ                   ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๗๕ – พ.ศ. ๒๔๗๖
๔. พระอาจารย์อินชัย       ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๗๖ – พ.ศ. ๒๔๗๘
๕. พระอาจารย์ศิริ             ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๗๘ – พ.ศ. ๒๔๘๐
๖. พระอาจารย์บุญทา       ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๘๐ – พ.ศ. ๒๔๘๓
๗ พระขาว          ไม่ทราบฉายา      พ.ศ ๒๔๕๘๓ – พ.ศ. ๒๔๘๕
๘. พระคำมูล      ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๘๕ – พ.ศ. ๒๔๘๘
๙. พระมนต์         ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๘๘ – พ.ศ. ๒๔๙๐
๑๐. พระทองสุข ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๙๐ – พ.ศ. ๒๔๙๑
๑๑. พระโมะ       ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๙๑ – พ.ศ. ๒๔๙๒
๑๒. พระณรงค์   ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๙๒ – พ.ศ. ๒๔๙๓
๑๓. พระศรี         ไม่ทราบฉายา      พ.ศ. ๒๔๙๓ – พ.ศ. ๒๔๙๕

พระครูวิวิตธรรมวัฒน์  เจ้าอาวาสวัดวิเวกการาม รูปปัจจุบัน

๑๔. พระคำน้อย มหาวโร               พ.ศ. ๒๔๙๕ – พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๕. พระสิงห์คำ สุภทฺโท                พ.ศ. ๒๔๙๘ – พ.ศ. ๒๕๐๑
๑๖. พระทองดี    ชุติวณฺโณ             พ.ศ. ๒๕๐๒ – พ.ศ. ๒๕๐๖
๑๗. พระนคร      อนนฺโท                พ.ศ. ๒๕๐๖ – พ.ศ. ๒๕๐๗
๑๘. พระอายพร ภทฺทญาโณ          พ.ศ. ๒๕๐๙ – พ.ศ. ๒๕๑๔
๑๙. พระโปธา     ธตมโร                  พ.ศ. ๒๕๑๔ – พ.ศ. ๒๕๑๖
๒๐. พระทองคำ ถิรสํวโร               พ.ศ. ๒๕๑๖ – พ.ศ. ๒๕๑๗
๒๑. พระดวงแก้ว             ธมฺมวุฒโท           พ.ศ. ๒๕๑๗ – พ.ศ. ๒๕๑๙
๒๒. พระจำรัส   (แก้วสิงห์คำ)      พ.ศ. ๒๕๑๙ – พ.ศ. ๒๕๒๐
๒๓. พระคำมูล  รตนวณฺโณ          พ.ศ. ๒๕๒๐ – พ.ศ. ๒๕๒๒
๒๔. พระเจริญ   สิริภทฺโท              พ.ศ. ๒๕๒๓ – พ.ศ. ๒๕๒๖
๒๕. พระบุญยงค์              ชินรํโส                 พ.ศ. ๒๕๒๖ – พ.ศ. ๒๕๒๗
๒๖. พระครูวิวิตธรรมวัฒน์            พ.ศ. ๒๕๒๗ – ปัจจุบัน

สถานที่ท่องเที่ยว

น้ำตกห้วยโป่งน้ำดัง

โป่งน้ำดังเป็นชื่อของลำน้ำสายหนึ่งที่เกิดจากลำห้วยหรือลำธารเล็ก ๆ หลายสาย คือห้วยแก้ว ห้วยป่าคายาง, ห้วยเฮี้ย มีแหล่งกำเนิดจากภูเขาแดนลาวบริเวณดอยหลวง ซึ่งติดกับดอยอ่างขาง อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ไหลจากทิศตะวันตกมาทิศตะวันออก เกือบมาบรรจบกับลำน้ำแม่สูนหลวง แล้วไหลวกลงไปทางทิศได้ไปรวมกับแม่น้ำฝางที่ตำบลแม่งอน

สาเหตุที่เรียกว่า “โป่งน้ำดัง” คือ พื้นดินที่บริเวณริมฝั่งของลำห้วยมีลักษณะเป็นดินโป่ง สมัยก่อนป่าไม้ยังมีความอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้ดินบริเวณที่ติดกับริมห้วยมีน้ำไหลซึมออกมารวมกับน้ำในลำห้วยตลอดเวลาประกอบกับในลำห้วยก็มีน้ำตกอยู่หลายชั้นสูงบ้าง ต่ำบ้างสลับกันไป น้ำที่ตกลงมาทำให้เกิดเสียงดัง เพราะมีน้ำมาก เสียงดังไปไกลได้ยินถึงในหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๓ กิโลเมตร

ตาดป่ากล้วย เป็นส่วนหนึ่งของน้ำตกห้วยโป่งน้ำดังเป็นน้ำตกสูง ๓ ชั้นสวยงามที่สุดในบรรดาน้ำตกห้วยโป่งน้ำดังทั้งหมด

น้ำตกตาดใน อยู่เหนือจากน้ำตกตาดป่ากล้วยหรือน้ำตกห้วยโป่งน้ำดังขึ้นไประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร ซึ่งไหลมาบรรจบกับลำห้วยโป่งน้ำดังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ย้อนหลังไปน้ำตกตาดในเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก มีน้ำไหลตลอดเวลามีความสูงประมาณ ๖๐ เมตร มี ๔ ชั้น ปัจจุบันนี้จะมีน้ำตกให้เห็นในเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น พอถึงฤดูแล้งน้ำก็จะเหือดแห้งไปและเหนือน้ำตกตาดในขึ้นไปก็ยังมีน้ำตกอีกหลายชั้น โดยมีน้ำไหลเป็นบางช่วงน้ำตกบางชั้นก็มีน้ำ น้ำบางชั้นก็ไม่มีน้ำ สาเหตุเพราะบริเวณของร่องน้ำมีรูที่ทำให้น้ำไหลไปที่อื่นได้

คลิกเพื่อนำทาง