วัดพระธาตุดอยเงือก

สำหรับประวัตินั้น ชื่อ “ดอยเงือก” ตามคำบอกเล่าว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ที่ดอยแห่งนี้ คำว่า “เงือก” นั่นเป็นภาษาเหนือ ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยภาคกลางจะหมายถึง “พญานาค” วันไหนนาคออกจากดอยลูกนี้ล่องไปที่น้ำแม่ลี้ บริเวณดอยพระเจ้าจะมีหมอก เหมือย ปกคลุมแล้วฝนจะตก หลังจากนั้นพญาเงือกจะลงเล่นน้ำ ทำให้ฝายกันน้ำของชาวบ้านในบริเวณลำห้วยที่ขวางทางพญาเงือกจะขาดหมด ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าดอยลูกนี้เป็นที่อยู่ของพญานาคจึงตั้งชื่อดอยลูกนี้ว่า “ดอยเงือก” ดอยเงือกแห่งนี้ท่านครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี ไปแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.2495 ท่านครูบาไปสร้างตามธรรมใบลานที่ชื่อว่า “ตำนานพระเจ้าเลียบโลก” ซึ่งในอดีตพระพุทธเจ้าได้เสด็จผ่านมาที่ดอยลูกนั้น ดอยลูกนั้นจึงได้ชื่อว่า “ดอยพระเจ้า” พระพุทธองค์ได้ทรงพักที่ดอยลูกนั้น และให้พระอานนท์ไปตักน้ำที่นำดิบต้นผึ้งมาถวาย พระพุทธองค์เสวยแต่พระพุทธองค์ทรงเสวยไม่หมด พระอานนท์จึงไปเทน้ำทิ้ง บริเวณนั้นมีสัณฐานคล้ายบาตร ชาวลั๊วได้ปลูกไม่ไผ่ชางไว้บริเวณนั้น มี 5 ต้น หลังจากที่พ่อหนานสิสาได้นิมนต์ท่านครูบาเจ้า ที่นั่งหนักที่วัดนาเลี่ยง เพื่อมาเป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์วิหารของวัดแม่หว่างลุ่มแล้ว ท่านครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีได้ลีกเร้น มาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานบริเวณ กำแพงหินที่ดอยเงือกแห่งนี้ แต่ไม่นานครูบาเจ้าท่านอาพาธ (ไม่สบาย) จึงย้ายไปที่ดอยอีกลูกเพื่อสะดวกในการเดินทาง หลังจากที่ท่านครูบา หายจากอาพาธแล้ว ญาติโยมก็มานิมนต์ท่านให้ไปเป็นประธานในการสร้างถนนระหว่างบ้านแม่หว่างไปถึงบ้านห้วยหญ้าไทร ใช้ระยะเวลาสร้างเพียงสามวันก็ทำการถวายถนน

จากนั้น เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2562 พระนภัส ชยธมโม ได้ยืนพ่อหลวงอ้าย สานาบอกว่า ตอนครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีมาพักที่ดอยเงือกแห่งนี้ ครูบาเจ้าชัยยะวงศาได้มาอยู่อุปฐากครูบาเจ้าอภิชัย ขาวปี แล้วครูบาเจ้าชัยยะวงศาได้พบรอยพระพุทธบาทบริเวณตืนดอยพระเจ้า จึงชวนกันไปหาดูแต่ไม่เจอ พระนภัสจึงบอกให้พ่อหลวงอ้ายพาไปดูกำแพงหิน ปรากฏว่าพอขึ้นมาดูก็เห็นเป็นบริเวณที่ดูเงียบสงบและสัปปายะดี จนมาถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 พระนภัส ขึ้นไปดูอีกครั้งเห็นว่าสมควรที่จะเป็นอารามเลยไปนิมนต์ท่านพระครูสุนทรอรรถการ (ครูบาดร ) มาดูในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2563 มีท่านพระครูใบฎีกา สิงห์ทอง สีลสวโร วัดแม่หว่างลุ่ม ติดตามไปด้วย ท่านครูบาดร ตั้งสัจจะอธิษฐาน โดยการสัจจะวาไม้ (ตั้งสัจจะเสี่ยงทาย) ปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นอารามในกาลเบื้องหน้า

คลิกเพื่อนำทาง