วัดบ้านขะยูง

ตำบลห้วยตามอญ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

ความเป็นมา

วัดบ้านขะยูง เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓๙ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลห้วยตามอญ อำเภอภูสิงห์ ังหวัดศรีสะเกษ สังกัดมหานิกาย เริ่มสร้างปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชทานวิสุงคามสีมา กำหนดเขต กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๔ เมตร

อาณาเขต

ทิศเหนือติดกับบ้านโกแดง

ทิศตะวันออกติดกับบ้านทำนบ

ทิศตะวันตก ติดกับบ้านสะเดาน้อย

ทิศใต้ ​​ติดกับบ้านห้วย

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สรวง วัดบ้านขะยูง

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สรวง วัดบ้านขะยูง ตำบลห้วยตามอญ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นอีกวัดหนึ่ง ที่น่าสนใจมาก ครั้นหลวงปู่สรวงท่านยังไม่ละสังขารในอดีตท่านเคยมาพำนักพักอาศัยบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในหมู่บ้านขะยูงท่านเข้ามาพักอาศัยในหมู่บ้านจนชาวบ้านนับถือว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ชาวบ้านในชุมชนยังได้สิ่งของต่างๆ ที่หลวงปู่สรวงท่านให้ไว้เช่น หีบไม้เก่า อุปกรณ์คล้ายมีดเก่าโบราณ รวมทั้ง ร่องรอยเรื่องราวตำนานและข้อมูลหลวงปู่สรวง ที่รวบรวมมาแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นลายมือที่ท่านเขียน เครื่องอัฐบริขาร จีวร บาตรเก่า ตุ๊กตาจระเข้รอยเผาไฟและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และที่สำคัญทางวัด ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สรวง เพื่อเผยแผ่สื่อประดิษฐ์ปริศนาธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาศึกษา จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่น่าเข้าไปศึกษาตามรอยธรรม ตำนาน หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดินที่น่าเข้าไปศึกษา ตามรอยธรรม ตำนาน หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน

ความสำคัญของ ศาลาไม้หลวงปู่สรวง

เป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงประวัติหลวงปู่สรวงให้สานุศิษย์หลวงปู่สรวงที่มีอยู่จำนวน มาก ในปัจจุบันได้เดินทางท่องเที่ยว เพื่อศึกษาตามรอยเส้นทางธรรมของหลวงปู่สรวง ซึ่งวัดบ้านขะยูงถือ ว่าเป็นวัดในตำนานหลวงปู่สรวงที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติหลวงปู่สรวงโดยตรง ณ วัดบ้านขะยูง เดิมทีเป็นศาลาไม้เพื่อใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมหรือจัดกิจกรรมในทางพระพุทธศาสนาของวัดและ พุทธศาสนิกชนบ้านขะยูง แต่หลวงปู่สรวงมักมาพักอยู่เป็นประจำทางวัดจึงให้ถือว่า เป็นกุฏิเดิมของหลวงปู่สรวง เดิมทีมีลักษณะเป็นศาลาชั้นครึ่งทำด้วยไม้ทั้งหลัง ต่อมาทางวัดได้บูรณะขึ้นเพราะมีความทรุดโทรมมาก ประกอบกับทางวัดมีศาลาไม้หลังเดียวที่ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ หรือใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ของวัด โดยทางวัดได้บูรณะตัวอาคารขึ้นเป็น ชั้น ชั้นล่างได้ก่อผนังปูน เทพื้น ต่อเติมห้อง เพิ่มออกด้านข้างทั้งสองฝั่งเพื่อใช้ประโยชน์

ขั้นตอนของการท่องเที่ยววิถีธรรม ตามรอยธรรม ตำนานหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สรวงวัดบ้านขะยูง

จุดแรก จะต้องได้รับผ้าขาวคล้องคอไม่ใช่ผ้าพันคอ เป็นผ้าเพื่อความสำรวมทางกายใช้ปกปิดไหล่ คลุมอวัยวะต่างๆ ที่อาจจะดูไม่สุภาพเรียบร้อยให้เรียบร้อยขึ้นตลอดทั้งการยืนเดินนั่งนอน หลังจากนั้นรับ ขันธ์ ขันธ์ วัฒนธรรมที่นี่ดอกไม้ขันธ์ ขันธ์ เพราะทางวัดจัดเตรียมให้ฟรีพอได้ทั้งผ้าและเครื่อง บูชาแล้วได้เดินไปสู่กระท่อมหลวงปู่สรวงผู้เป็นศูนย์กลางศรัทธาของวัดบ้านขะยูง เพื่อสักการะถวายขันธ์ ขันธ์ ด้วยคำกล่าวภาษาบาลี

จุดที่สอง จากนั้นจึงขึ้นเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สรวง ณ ศาลาไม้หลังเก่าที่หลวงปู่สรวง เคยอยู่อาศัยในสมัยที่ยังมีชีวิต กิจกรรมการท่องเที่ยวจะต้องมีการเรียนรู้ไปตลอดการท่องเที่ยวเพื่อ เสริมสร้างสติปัญญาแก่สาธุวิหารีนักท่องเที่ยวทั้งหลาย กิจกรรมต่างๆ เป็นวัฒนธรรมบวกจริยธรรม ที่ควบคู่อยู่กับการแนะนำการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับการเรียนรู้ตลอดการท่องเที่ยวที่เน้น การศึกษาหลักไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) เป็นสำคัญ

จุดที่สาม เมื่อขึ้นสู่ศาลาไม้ก่อนเดินเวียนขวาเพื่อเที่ยวชม มีวัฒนธรรมการจุดเทียนปริศนาธรรม โพลวพลือ (ทางสว่าง) หรือเรียกได้ว่าเป็น เทียนชัย โดยผู้เป็นประธานหรือตัวแทนหรือผู้หลักผู้ใหญ่ก็ได้ เป็นผู้จุดเพื่อส่องสว่างนิมิตหมายทางปัญญา ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก

จุดที่สี่ จุดเทียนเสร็จจึงเดินเที่ยวชมศึกษาทั้งปฏิปทา แนวคิด คำสอน ของหลวงปู่สรวงที่ท่าน เขียนเอาไว้ทั้งที่พระพาหา หลวงพ่อพุทธประทานพรว่า กำหนึดเจีย แปลว่า คิดดีพูดดี ทำดี หรือที่เขียน ไว้ข้างผนังว่า ออยเตียนเมียนบาน แปลว่า ให้ทานรวยได้ เป็นต้น

แล้วร่วมกันกราบไหว้ถ่ายภาพ กับอิริยาบถวิถีชีวิตโพลวพลือ (ทางสว่าง) ของหลวงปู่สรวงที่จัด แสดงเพื่อสื่อปฏิปทาของท่านได้อย่างใกล้ชิด อาทิเช่น จุดที่หลวงปู่นั่งผิงไฟ จุดบากเสาผูกเปล จุด ถ่ายภาพกับสานุศิษย์ลายมือหลวงปู่ ที่รวบรวมมาแต่ละพื้นที่

คลิกเพื่อนำทาง