วัดไพรพัฒนา

ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

Wat Phrai Phatthan

Phrai Phatthana Subdistrict, Phu Sing District, Sisaket Province

ความเป็นมา

วัดไพรพัฒนา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๕๘ หมู่ที่ ๓ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มีพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เป็นเจ้าอาวาสวัด มีพระสงฆ์สามเณรในสังกัด ๒๐ รูป และวัดไพรพัฒนายังขอประทานพระบรมสารีริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานบรรจุไว้ ณ มณฑปปราสาทหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา และเป็นสถานที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ และประชาชนทั่วไป ได้มาเคารพกราบไหว้ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั่วไป

ประวัติหลวงปู่สรวง

หลวงปูุสรวงเป็นคนพูดน้อย และไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครทราบประวัติและอายุที่แท้จริงของท่านได้ มีเพียงคำบอกเล่าปากต่อปากที่ยังคงเป็นปริศนา บ้างก็ว่าท่านเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ บ้างก็ว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา มาจำพรรษาที่ประเทศไทยหลายแห่ง จึงไม่มีใครที่จะทราบเรื่องราวประวัติที่แน่นอน ชาวบ้านในสมัยนั้นเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา) หลวงปู่สรวงเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ตลอดระยะเวลา หลวงปูุสรวงจะจำวัด ณ สำนักสงฆ์แห่งหมู่บ้านไพรบึงน้อย (วัดไพรพัฒนาในปัจจุบัน) และอยู่ตามกระท่อมนาเล็ก ๆ มีกระดานไม้ปูแค่พอนอนได้ทุกแห่งที่หลวงปูุจำ วัดจะมีเสาไม้สูงปักอยู่ มีเชือกขาวขึงระหว่างกระท่อม เสาไม้หรือต้นไม้ข้างเคียงมีว่าวขนาดใหญ่ที่บุด้วยจีวรหรือกระดาษแขวนไว้เป็นสัญลักษณ์ ที่ขาดไม่ได้คือจะต้องให้ลูกศิษย์ก่อกองไฟไว้เสมอ บางครั้งลูกศิษย์เอาของถวายท่านก็จะโยนเข้ากองไฟ ฉะนั้น ถ้าเห็นว่ากระท่อมใดมีสิ่งของดังกล่าว ก็หมายถึงว่าเป็นที่ที่หลวงปูุเคยจำวัดหรือเคยอยู่มาก่อน

อาคารเสนาสนะ

  1. ใน พ.ศ. ๒๕๓๕ ดำเนินการก่อสร้าง อุโบสถ จำนวน ๑ หลัง ลักษณะ ทรงไทยทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๓ เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้างเป็นเงินจำนวน ๕,๐๖๐,๐๐๐ บาท ( ห้าล้านหกหมื่นบาท )
  2. ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ ดำเนินการก่อสร้าง ศาลาใหญ่จำนวน ๑ หลัง ลักษณะทรงไทยทำด้วยไม้พันชาติเนื้อแข็ง กว้าง ๑๔ เมตร  ยาว ๓๒  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นเงินจำนวน ๖,๐๐๕,๐๐๐ บาท ( หกล้านห้าพันบาท )
  3. ใน พ.ศ. ๒๕๓๖  ดำเนินการก่อสร้าง กุฏิ จำนวน  ๑  หลัง ลักษณะ ทรงไทยทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง  ๘  เมตร ยาว  ๘  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๑,๒๐๐,๐๐๐  บาท  ( หนึ่งล้านสองแสนบาท )
  4. ใน พ.ศ. ๒๕๕๐  ดำเนินการก่อสร้าง กุฏิ จำนวน  ๑  หลัง ลักษณะ ทรงไทยทำด้วยไม้เนื้อแข็ง กว้าง  ๖  เมตร ยาว  ๖  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๖๓,๐๐๐ บาท ( หกหมื่นสามพันบาท )
  5. ใน พ.ศ. ๒๕๕๔  ดำเนินการก่อสร้าง ห้องน้ำ – สุขา จำนวน  ๒๐  ที่ ลักษณะ ทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง  ๘  เมตร ยาว  ๑๒  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๖๔๐,๕๐๐  บาท  ( หกแสนสี่หมื่นห้าร้อยบาท )
  6. ใน พ.ศ. ๒๕๕๔  ดำเนินการ ก่อสร้าง กุฏิ จำนวน  ๑  ที่ ลักษณะทำด้วยไม้ กว้าง  ๖  เมตร  ยาว  ๗  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน  ๕๓,๐๐๐  บาท ( ห้าหมื่นสามพันบาท )
  7. ใน พ.ศ. ๒๕๕๕  ดำเนินการก่อสร้าง ซุ้มประตู จำนวน  ๑  ที่ ลักษณะ ทำด้วยไม้ตะเคียน – ไม้ประดู่ กว้าง  ๑๒  เมตร  สูง  ๘  เมตร  เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๑,๓๐๐,๕๐๐  บาท  ( หนึ่งล้านสามแสนห้าร้อยบาท )
  8. ใน พ.ศ. ๒๕๕๗  ดำเนินการก่อสร้าง กุฏิ จำนวน  ๑  ที่  ลักษณะทรงประยุกต์ทำด้วยไม้ตะเคียน – ไม้ประดู่ กว้าง  ๑๒  เมตร  ยาว  ๑๔  เมตร  เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๑๖,๕๐๐,๐๐๐  บาท  ( สิบหกล้านห้าแสนบาท )
  9. ใน พ.ศ. ๒๕๕๗ ดำเนินการ  ก่อสร้าง  กุฏิ  จำนวน  ๑  ที่  ลักษณะ  ทรงไทยทำด้วยไม้เนื้อแข็ง กว้าง  ๑๒  เมตร  ยาว  ๑๒  เมตร  เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๘๐๐,๕๐๐  ( แปดแสนห้าร้อยบาท )
  10. ใน พ.ศ. ๒๕๕๕  บูรณะปฏิสังขรณ์  ศาลาหอฉัน  จำนวน  ๑  หลัง  ทำด้วยไม้ กว้าง  ๑๒  เมตร  ยาว  ๒๘  เมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน ๑,๖๓๕,๐๐๐ บาท ( หนึ่งล้านหกแสนสามหมื่นห้าพันบาท
  11. ใน พ.ศ. ๒๕๕๖  บูรณะปฏิสังขรณ์ ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ จำนวน  ๑  หลัง ลักษณะ ทรงไทยทำด้วยไม้กว้าง  ๑๐  เมตร  ยาว  ๑๖  เมตร  เสร็จสมบูรณ์แล้ว จนสามารถใช้การได้แล้ว ราคาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน  ๖๕๐,๐๐๐  บาท  (หกแสนห้าหมื่นบาท )

คลิกเพื่อนำทาง