ประวัติความเป็นมาของวัด
วัดนิมิตรรัตนาราม จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ว่าเริ่มก่อตั้งขึ้นก่อนปี พ.ศ.๒๔๘๓ ได้สร้างวัดครั้งแรกขึ้นที่ป่าอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านประมาณ ๑ กิโลเมตร (ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของป่าสงวน) ซึ่งมีชื่อเดิมว่าวัดหนองคู เหตุที่ได้ชื่อวัดหนองคูนั้น เป็นเพราะว่าบริเวณพื้นที่สร้างวัดมีหนองน้ำเก่าโบราณอยู่ ลักษณะหนองน้ำนั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสมีคันดินเป็นคูล้อมรอบมีน้ำใสตลอดปีไม่เคยเหือดแห้งแต่อย่างใด ซึ่งผู้สูงอายุและคนรุ่นก่อนบอกเล่าว่า สมัยแต่ก่อนครั้งที่กรุงศรีอยุธยาปกครองเขมรได้มีการใช้เส้นทางในการสัญจรเดินทางผ่านบริเวณนี้และเป็นที่หยุดพักของกองทัพต่างๆในสมัยก่อนและเป็นเส้นทางคมนาคมค้าขายในอดีต พอมีการสร้างวัดขึ้นตรงนั้นจึงให้ชื่อว่าวัดหนองคู โดยคนสมัยเก่าถือเอาหนองน้ำเป็นที่ตั้ง ซึ่งสมัยนั้นได้ตั้งวัดอยู่ในที่ดังกล่าวประมาณ ๕ ปี โดยมีหลวงพ่อเขมาซึ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ต่อมาได้ย้ายวัดมาตั้งอยู่ทางทิศเหนือติดกับหมู่บ้านแต่ก็ไม่สะดวกเพราะว่าที่ตั้งวัดนั้นเป็นที่ราบต่ำมีเนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่เวลาฝนตกทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านไม่สามารถสัญจรเข้าออกและทำกิจกรรมทางศาสนาได้จึงได้ย้ายวัดมาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านในปัจจุบันนี้ต่อมาก็ได้มีพระสงฆ์มาจำพรรษาเรื่อยมาจนถึงปีพ.ศ.๒๕๐๕ หลวงพ่อชัยได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ก่อสร้างอาคารเสนาสนะถาวรขึ้นและได้มีพระภิกษุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆประกอบด้วยจำนวนชาวบ้านก็มาปลูกสร้างบ้านเรือนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันจนกลายเป็นหมู่บ้านกลุ่มใหญ่ มี 3 หมู่บ้านด้วยกัน คือ บ้านหนองคู บ้านโคกกระโดน บ้านตาปุมจนถึงปัจจุบันนี้
จนกระทั้งเมื่อปี 2543 พระสมุห์อนุรัตน์ อภิวณฺโณ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสได้ดำเนินการขอตั้งวัด และพัฒนาวัด มาจนถึงปัจจุบัน จนได้รับอนุญาตตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2557 วัดนิมิตรรัตนาราม ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีเนื้อที่บริเวณวัด ๗ ไร่ ๑ งาน ๓๖ ตารางวา
มีเจ้าอาวาสในอดีตถึงปัจจุบันมีจำนวน 9 รูปด้วยกัน คือ
รูปที่ 1 หลวงพ่อเขมา จากประเทศกัมพูชา
รูปที่ 2 พระอาจารย์สิง จากประเทศกัมพูชา
รูปที่ 3 หลวงพ่อชัย พุทธสโร
รูปที่ 4 พระอาจารย์สุทิน จากประเทศกัมพูชา
รูปที่ 5 หลวงพ่อเจน สิริมงฺคโล
รูปที่ 6 พระอาจารย์สายันต์ ปญญาโภ
รูปที่ 7 พระสุริยะ สุริโย
รูปที่ 8 พระคำพัน พลญาโณ
รูปที่ 9 พระสมุห์อนุรัตน์ อภิวณฺโณ องค์ปัจจุบัน