วัดระแงงหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วัดบ้านระแงง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประกาศตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ 4 เดือนมีนาคมพ.ศ. 2433 นับจากวันที่ประกาศตั้งเป็นวัดมาจนถึงขณะนี้ พ.ศ. 2563 ก็ได้เวลา 130 ปีนับเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ของอำเภอศีขรภูมิ วัดระแงง เมื่อเริ่มตั้งนั้นชาวบ้าน อพยพมาจากบ้านหนองขวาว ตำบลหนองขวาวอำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ มาตั้งหมู่บ้านซึ่งเป็นเนินดอนป่าติ้ว ซึ่งภาษาเขมรเรียกต้นระแงง ต่อมาเมื่อตั้งแล้วถึงเวลาทำบุญก็พากันทำบุญที่วัดบ้านหนองขวาว ที่เป็นหมู่บ้านเก่านานมาหลายปีเกิดความไม่สะดวก ระยะทางไกล
จึงพากันคิดสร้างวัดขึ้นที่บ้านระแงง โดยรวมกันหาที่ดิน และสร้างวัด กุฏิ ศาลา บุคคลสำคัญที่คิดรวบรวมพรรคพวกสร้างวัดมี นายขุนราม บิดาของพ่อโป๊ะ และพ่อป้อง กันนุฬา นายสิม บิดาของ พ่อโต๊ะ และพ่อแป๊ะ ทรัพย์อนันต์ นายเหลา บิดาของนายแดง และนายแดง บิดาของผู้ใหญ่เฟื้อย กันนุฬา นายตั้น บิดาของ พ่อปั๊ก พ่อโหล นายกุล บิดาของผู้ใหญ่เป๊าะ จันทา นายเตื่อย(เป็นชาวกัมพูชา) บิดาของ แม่ผุย นายตุ่นบิดาของแม่เมา นายสีดาบิดาของพ่อมุก แม่น้อย เป็นต้นเมื่อเริ่มสร้างวัดนั้นชาวบ้านได้ไปนิมนต์พระอาจารย์คำ มาเป็นเจ้าอาวาสช่วยในการสร้างวัด พระอาจารย์คำ เป็นคนบ้านก้านเหลือง ตำบลหนองพวง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
พระอาจารย์คำ เป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดระแงงหลายปี ต่อมาพระอาจารย์คำ ได้ลากลับบ้านเดิม อาจารย์ป้องได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสประมาณปี 2460 ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือจึงได้ตัดผ่านเข้ามาและผ่านกลางบ้านระแงง เป็นหมู่บ้านระแงงเหนือ และระแงงใต้ ซึ่งต่อมาบ้านระแงง เหนือเป็นหมู่ 3 ระแงงใต้เป็นหมู่ 10 สำหรับวัดระแงงถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง คืออาณาเขตทางทิศใต้ทั้งหมด ทำให้อาณาบริเวณวัดเหลือน้อยและคับแคบลง แต่ภายหลังได้หาเงินซื้อเพิ่มเติมขยายอาณาเขตของวัดกว้างออกไปทางด้านทิศตะวันตกจึงกว้างขึ้น พระอาจารย์ป้อง จึงได้ลาสิขาบทในเวลาต่อมาพระอาจารย์นิ่ม เทียมทัน ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสประมาณปี 2477 อาจารย์นิ่ม เทียมทัน ได้ลาสิกขาบท
- พระอาจารย์พิมพ์ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสจนถึงปี 2487 พระอาจารย์พิมพ์ได้ลาสิกขาบท
- พระอาจารย์ดาวจากวัดบ้านหนองขวาวมาเป็นเจ้าอาวาสต่อจากนั้นชาวบ้านตลาดอำเภอศีขรภูมิ มีแม่ปุ๊ก รักไทย พ่อโป๊ะ กันนุฬา พ่อทอง สีหะวงศ์ แม่ตา แซ่ลิ้ม ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัดขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ชื่อว่าวัดใหม่ศรีวิหารเจริญ พระอาจารย์ดาว จึงได้จาก วัดระแงง มาสร้างวัดใหม่ตั้งแต่ปี 2488 และปล่อยวัดระแงงร้างไว้จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
- เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ปีพ.ศ 2489 ชาวบ้านระแงง ได้ปรึกษาหารือ และไปนิมนต์ พระอาจารย์พวง กนกฉันท์ จากวัดบ้านหนองขวาว มาเป็นเจ้าอาวาสทำการบำรุงวัดสืบต่อมาหลายปี พระอาจารย์พวง กนกฉันท์ ได้ลาสิกขาบท
- พระอาจารย์ทองพูน คำมาก พระลูกวัดได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าอาวาสพระอาจารย์ทองพูนสอบไล่ได้คุณวุฒิทางครูและสอบเป็นครูประถมศึกษาจึงลาสิกขาบท
- พระอาจารย์สงค์ พระลูกวัดได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าอาวาสต่อมาได้อาพาธ และมรณภาพ
- พระอาจารย์สก ได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทนพระอาจารย์สก นำทายกทายิกา บูรณะปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญก้าวหน้าจนตลอดจนขยายอาณาเขตได้ เนื้อที่ 14 ไร่เศษทำศาลาการเปรียญศาลาพักศพ เมรุเผาศพ สร้างห้องน้ำ น้ำประปาไฟฟ้า กำแพง ประตูวัด พัฒนาวัดอยู่หลายปี ต่อมาจึงลาสิกขาบท
- พระอาจารย์อุ่นพระลูกวัดได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าอาวาสในระยะเวลาสั้นๆแต่ชาวบ้านไม่นิยมจึงได้จากวัดระแงงไป
- พระอาจารย์สุวิทย์จาก วัดบ้านขุมดิน อำเภอรัตนบุรี มาเป็นเจ้าอาวาสในระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็ลากลับไป วัดบ้านขุมดินตามเดิม
- ชาวบ้านจึงได้ไปนิมนต์ พระกฤษณะ ฐิตปุญฺโญ จากวัดประสาทมาเป็น เจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2528
เมื่อพระกฤษณะ มาเป็นเจ้าอาวาสแล้วได้ปรึกษากับคณะกรรมการวัดสร้างกุฏิและอุโบสถ ต่อจากอาจารย์สก ที่ได้วางแผนไว้ พระอาจารย์สกได้ทำแผนพัฒนาวัดไว้ 6 โครงการและทำสำเร็จแล้ว 4 โครงการยังเหลืออีก 2 โครงการ คือกุฏิ และโบสถ์ สำหรับกุฏิวางศิลาฤกษ์เมื่อปี 2534 และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2538 ทำการเฉลิมฉลองในวันที่ 2 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 พร้อมกับวางศิลาฤกษ์โบสถ์และเริ่มก่อสร้างในปี 2540 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2544 และทำการเฉลิมฉลองยกช่อฟ้าในปี 2545 โดยใช้แบบการก่อสร้างของกรมศาสนา โดยมีพระสมบัติ ชุตินฺธโร พระลูกวัดเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างเนื่อง จากเจ้าอาวาสอาพาธและมรณภาพในภายหลัง ต่อมาในปี ๒๕๕๘ พระมหาสุรเดช สุทฺธิเมธี มาจากวัดศรีวิหารเจริญ มารับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสจนถึงปี 2560 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน หลังจากรับตำแหน่งได้มีการพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่องสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และพัฒนาบริบทวัดให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และยังคงมีการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน