ประวัติวัดพันษี

ประวัติความเป็นมา

วัดพันษี ตั้งขั้นเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๔๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๖ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ ๕ ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง แต่ปรากฏหลักฐานว่า สมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ตราพระราชบัญญัติปกครองท้องที่พ.ศ.๒๔๔๐ (ร.ศ.๑๑๖) ขึ้น โดยเปลี่ยนการปกครองเป็นมณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อบ้านและชื่อวัดว่า พันษี ตามภาษาเขมรพื้นบ้านเรียกว่า เซราะเตรียะ โดยตั้งขึ้นตามชื่อต้นไม้พื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีมากในชุมชน ตั้งอยู่ในเขตตำบลจารพัต เดิมเป็นบ้านจารพัต มีเชียงไชยปกครอง ต่อมาบ้านจารพัตได้รับการยกขึ้นเป็นเมืองศีขรภูมิพิสัย มีหลวงไชยสุริยง (เชียงไชย) เป็นเจ้าเมืองคนแรก บ้านพันษีจึงเป็นชุมชนเก่าแก่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านแหล่งประวัติศาสตร์ทางโบราณคดีแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ และวัดพันษี ได้รับการตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕) และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๖ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๖ ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ 

ที่ตั้งและอาณาเขตชองวัด

วัดพันษี  เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๘ หมู่ที่ ๕ ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่บ้านตำบลจารพัตจำนวน ๕ หมู่ คือ บ้านพันษี หมู่ที่ ๕ บ้านโคกเจริญ หมู่ที่ ๑๒ บ้านป่ายาว หมู่ที่ ๒๐  บ้านไทร-บ้านสวาย-บ้านอันทรายเอิด หมู่ที่ ๗  และบ้านตะแบก หมู่ที่ ๖ 

อาณาเขตของวัด

ทิศเหนือ จดถนนสาธารณะ 

ทิศใต้ จดถนนสาธารณะ 

ทิศตะวันตก จดถนนสาธารณะ 

ทิศตะวันออก จดถนนสาธารณะ

ที่ตั้งวัด มีที่วัด จำนวน ๖ ไร่ – งาน ๖๗ ตารางวา  ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๒๙๕๗ และมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน  – ไร่ ๒ งาน ๘๒ ตารางวา ตาม โฉนดที่ดินเลขที่  ๔๒๙๖๐ โดยโฉนดที่ดินทั้งสองฉบับ ทางวัดได้ส่งไปจัดเก็บไว้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์เมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๖

พระพุทธรูปสำคัญ/โบราณวัตถุ/ปูชนียวัตถุ ภายในวัด

พระประธานประจำอุโบสถปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก กว้าง ๕๓ นิ้ว สูง ๗๐ นิ้ว มอบถวายเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ โดยคณะผ้าป่า-กฐินสามัคคี กรุงเทพ – สุรินทร์ 

พระประธานประจำศาลาการเปรียญปางประทานพร

ขนาดหน้าตัก  กว้าง ๖๓ นิ้ว  สูง ๘๒ นิ้ว  มอบถวายเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๓ โดยเจ้าคณะจังหวัดนครพนม และ คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธาตุพนม

พระพุทธรูปไม้ทาสีทอง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณจากกรมศิลปากรเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๓ องค์ ดังนี้ 

๑. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างพื้นถิ่น พุทธศตวรรตที่ ๒๕ ชนิดไม้ทาสีทอง ขนาดสูงรวมฐาน ๘๗ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๓๙ เซนติเมตร

๒. พระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างพื้นถิ่น พุทธศตวรรตที่ ๒๕ ชนิดไม้ทาสีทอง ขนาดสูงรวมฐาน ๙๓.๕ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๓๖ เซนติเมตร

๓. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างพื้นถิ่น พุทธศตวรรตที่ ๒๕ ชนิดไม้ทาสีทอง ขนาดสูงรวมฐาน ๖๗ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๒๖ เซนติเมตร

เจดีย์สีลานุยุต เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๔ เมตร สูง ๑๒ เมตร สร้างเสร็จเมื่อพ.ศ. ๒๕๓๕  ใช้เป็นที่ประดิษฐานอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสทุกรูป

กุฏิสีลานุยุตานุสรณ์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว ๔ เมตร หลังคามุงกระเบื้องซีแพ็ค สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๕๕๐ ใช้เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระครูสีลานุยุต (ลาน รมณีโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดพันษี 

เสนาสนะสำคัญภายในวัด

อุโบสถ เป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร หลังคามุงสังกะสี ประดับช่อฟ้า ใบระกา พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  ขนาดหน้าตักกว้าง  ๕๐  นิ้ว  สูง  ๑๘๐  นิ้ว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๖ ใช้เป็นที่ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์

ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร หลังคามุงสังกะสีสรรไทย สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๕๕๐ ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญบุญกุศลและสาธารณะประโยชน์ต่างๆ

อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมหลังที่ ๑ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๐ เมตร ๒ ชั้น สร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๓๙ ใช้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร

อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมหลังที่ ๒  เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๑ เมตร ชั้นเดียว สร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๓๙ ใช้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร 

หอพระไตรปิฎก เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๔ เมตร 

ยาว ๘ เมตร  สร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๔๒ ใช้เป็นหอเก็บพระไตรปิฎกและหนังสือต่างๆเพื่อเป็นแหล่ง

ค้นคว้าศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร 

หอระฆัง เป็นหอก่ออิฐถือปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงจตุรมุข ขนาดกว้าง ๔ เมตร 

ยาว ๘ เมตร  สูง ๑๕ เมตร จำนวน ๓ ชั้น สร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๔๕ ใช้เป็นหอเก็บระฆังและกลอง 

เมรุ เป็นเมรุก่ออิฐถือปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๘ เมตร  สร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๓๙ ใช้เป็นที่ฌาปนกิจศพ

กุฏิสงฆ์รวม เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น หลังคามุงกระเบื้องซีแพ็ค มีขนาดกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๓๖ เมตร สูง ๑๐ เมตร มีจำนวน ๒๗ ห้อง ชั้นที่ ๑ และชั้นที่ ๒ ใช้เป็นที่พักของพระภิกษุสามเณร ห้องมุขกลางใช้เป็นห้องประชุม แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖

โรงครัว  เป็นอาคารทรงไทยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงสรรไท ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๐ เมตร ใช้เป็นที่ประกอบอาหาร เก็บอาหารของวัด แล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๖๑

การบริหารการปกครองของวัด 

วัดพันษี มีเจ้าอาวาสมาแล้วเท่าที่ทราบชื่อจำนวน ๗ รูป ลำดับเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนี้

ลำดับที่ ๑. หลวงตาปุย  (ไม่ทราบฉายา) ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๔๔ ถึง พ.ศ. ๒๔๖๙

ลำดับที่ ๒. หลวงตาสวรรค์  (ไม่ทราบฉายา) ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๖๙ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๐

ลำดับที่ ๓. พระสุน  ธมฺมโชโต ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๗๐ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๒

ลำดับที่ ๔. พระครูสีลานุยุต (ลาน รมณีโย)  ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๑๒ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๑

ลำดับที่ ๕. พระครูสุทนต์กิจจานุกิจ (ทิง  ทนฺตาจาโร)  ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๓๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๙

ลำดับที่ ๖. พระอธิการการุณย์   ธมฺมวโร   ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๔๙  ถึง พ.ศ. ๒๕๕๓

ปัจจุบัน พระมหาเสาร์  สีหสุวณฺณปุตฺโต    ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๓  ถึง ปัจจุบัน

งานการศึกษาและการศึกษาสงเคราะห์ของวัด 

โรงเรียนพระปริยัติแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๐ เปิดสอนตั้งแต่น.ธ.ตรี – เอก โดยมีหลวงตาปุย เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษารูปแรก

โรงเรียนพระปริยัติแผนกบาลี เปิดสอนเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ โดยมีพระครูสุทนต์กิจจานุกิจ เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษารูปแรก

โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เปิดสอนเมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๖ ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ชื่อว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมพันษีวิทยา พ.ศ. ๒๕๓๗ เปิดสอนตั้งแต่ ม.๑ – ๓ และได้รับอนุญาตให้ขยายเปิดเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.๑-๖ ปีพ.ศ. ๒๕๔๕  โดยมีพระครูสุทนต์กิจจานุกิจ เป็นผู้จัดการรูปแรก และพระมหาธำรงค์ ธมฺมปาโล เป็นครูใหญ่รูปแรก

ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๖ 

จดทะเบียนลำดับที่ ๑๐๑๕ เปิดสอนนักเรียน ๓ ระดับ คือ ชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นสูง  

โดยมีพระครูสุทนต์กิจจานุกิจ เป็นผู้อำนวยการรูปแรก

งานการเผยแผ่ของวัด 

สถานีวิทยุชุมชนวัดพันษี Fm ๑๐๖.๗๕ Mhz ออกอากาศเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๗

สำหรับเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ออกอากาศตั้งแต่เวลา ๐๔.๓๐ – ๒๒.๐๐ น. ทุกวัน

โครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่พระภิกษุสามเณรภาคฤดูร้อน เริ่มโครงการรุ่นแรกปีพ.ศ. ๒๕๓๕ จัดเป็นประจำทุกปี เพื่ออบรมเยาวชนและส่งเสริมพระภิกษุสามเณรให้เรียนต่อในโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลจารพัต 

โครงการอบรมค่ายคุณธรรม ค่ายพุทธภราดร จัดอบรมคุณธรรมสำหรับนักเรียนและนักศึกษาในสถานศึกษา ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๓๖ จนถึงปัจจุบัน 

กิจวัตรพระภิกษุสามเณรวัดพันษี 

เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง

เวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรสวดมนต์เช้า สมาธิภาวนา

เวลา ๐๖.๐๐ น. พัฒนาทำความสะอาดวัด

เวลา ๐๖.๓๐ น. สัญญาณระฆังบิณฑบาต

เวลา ๐๗.๓๐ น. ฉันภัตตาหารเช้า

เวลา ๐๙.๐๐ น. ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมภาคเช้า 

เวลา ๑๑.๑๐ น. ฉันภัตตาหารเพล

เวลา ๑๓.๐๐ น. ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมภาคบ่าย

เวลา ๑๗.๐๐ น. พัฒนาทำความสะอาดวัด

เวลา ๑๘.๓๐ น. ทำวัตรสวดมนต์เย็น สมาธิภาวนา

เวลา ๒๐.๐๐ น. ฉันน้ำปานะ

เวลา ๒๑.๓๐ น. จำวัด

วัดได้รับรางวัล/ใบประกาศเกียรติคุณดีเด่นด้านต่างๆ

   พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างอำเภอศีรภูมิ จากคณะสงฆ์อำเภอศีขรภูมิ

   พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับคัดเลือกเป็นอุทยานการศึกษาในวัด จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

  พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับการยกย่องเป็นวัดส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ระดับจังหวัด จากกรมอนามัย 

      กระทรวงสาธารณสุข