วัดสามราษฎร์บำรุง
ตำบลทมอ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
Wat Sam Rat Bamrung
Thamo Sub-district, Prasat District, Surin Province
พระครูอนุสรณ์ปิยธรรม(หลวงพ่อโย ปิยธัมโม)
เจ้าอาวาสวัดสามราษฎร์บำรุง
วัดสามราษฎร์บำรุง ตั้งอยู่เลขที่ ๒๓๙ บ้านโคกบุ หมู่ที่ ๕ ตำบลทมอ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ความเป็นมา
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านในระแวกนี้ได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือกันเห็นว่าควรที่จะสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ เพื่อพุทธศาสนิกชนจะได้มีโอกาสร่วมทำบุญ ฟังธรรมและประกอบศาสนกิจทางพระพุทธศาสนาต่อไป จึงได้ริเริ่มสร้างเป็นสำนักสงฆ์ เป็นการชั่วคราว โดยมีผู้นำหมู่บ้านที่เป็นเรี่ยวแรงในการสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ คือ คุณพ่อศรี ซะเนติยัง อดีตผู้ใหญ่บ้านยาง คุณพ่อปรวจ ฉวีทอง อดีตผู้ใหญ่บ้านโคกบุ, พ่อคลิม สุดจำนงค์ อดีตผู้ใหญ่บ้านอำปึล
เมื่อผู้นำหมู่บ้านทั้ง ๓ ท่าน พร้อมด้วยประชาชนทุกหมู่บ้าน พร้อมใจกันจัดสร้างสำนักสงฆ์เรียบร้อยแล้ว จึงเข้ามนัสการขออนุญาตต่อ หลวงพ่อร่วน วะระโธ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกบัวไรย์ เพื่อขออาราธนานิมนต์หลวงปู่บอน ปูชิโต มาประจำเดือนเจ้าอาวาสในสำนักสงฆ์แห่งนี้ ในที่สุดหลวงปู่จึงได้มาประจำที่สำนักสงฆ์แห่งนี้และได้เปลี่ยนจาก สำนักสงฆ์บ้านโคกบุ เป็น วัดสามราษฏร์บำรุง จนถึงปัจจุบัน
วัดสามราษฎร์บำรุงเริ่มก่อสร้าง พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับอนุญาตสร้างเมื่อวันที่ ๑๘ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้รับประกาศตั้งวัด เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้รับพระราชทานวิสุงสีมาเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ มีที่ธรณีสงฆ์ ๓ แปลง เนื้อที่รวมโดยรวมประมาณ ๖๐ ไร่ ๑๐ ตารางวา
ทำเนียบท่านเจ้าอาวาส
รูปที่ 1 พระครูประสาธน์ยติคุณ(หลวงปู่บอน ปูชิโต) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส/เจ้าคณะตำบลทมอ – โคกยาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 – พ.ศ. 2522
รูปที่ 2 พระครูอนุสรณ์ปิยธรรม (หลวงพ่อโย ปิยธัมโม) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส/เจ้าคณะตำบลโคกยาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปัจจุบัน
ประวัติ พระครูประสาธน์ยติคุณ
พระครูประสาธน์ยติคุณ (หลวงปู่บอน ปูชิโต) อดีตเจ้าคณะตำบลทมอ โคกยาง เจ้าอาวาสวัดสามราษฎร์บำรุง เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ที่บ้านสก็วน ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรของพ่อนิต – แม่แปะ มีมั่น หลวงปู่บอน เมื่ออายุครบ 19 ปี หลวงปู่บอน ปูชิโต ได้ขออนุญาตบิดามารดาเข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดปราสาทศิลาราม เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2479 และอีกหนึ่งปีต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดปราสาทศิลารามแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 โดยมีพระอธิการตัน พรัมมะปัญโญ เป็นพระอุปฌาย์ พระอาจารย์มอญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทศีลวัตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากการอุปสมบทแล้วได้มาจำพรรษาที่วัดโคกบัวไรย์จังหวัดสุรินทร์ เป็นเวลา 10 พรรษา ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ถือศิลวัตรปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างเคร่งครัดมีลูกศิษย์ลูกหาเข้ารับการศึกษาอบรมด้วยความเคารพและศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมา ชีวิตในบั้นปลายนั้น หลวงปู่ท่านมีภารกิจมากมาย เพราะมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาพึงอาศัยมากแทบทุกวันจนเป็นเหตุให้ร่างกายของท่านทรุดโทรมลงตามลำดับ และได้อาพาธลงเมื่อวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2518 ด้วยโรคอัมพาต นับเป็นเหตุอัศจรรย์อย่างยิ่ง