


อุโบสถป่าธรรมชาติ

ความเป็นมา
วัดป่าเวียงทอง เป็นวัดป่ากรรมฐาน ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มีหลวงตาธรรมดา (พระอธิการสุทธินันท์ สุทฺธิญาโณ) เป็นผู้ก่อตั้งวัด ได้เดินทางจาริกที่ทางภาคเหนือเมื่อปลาย ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ดำริจะจำพรรษาที่จังหวัดแพร่ และพักที่ป่าช้าบ้านเวียงทองหมู่ที่ ๓ ในขณะนั้นทางคณะครูจัดงานบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ได้มีโอกาสช่วยงานในครั้งนั้น เมื่อเสร็จงานญาติโยมได้ปวารณาเป็นโยมอุปัฏฐาก หลวงตาจาริกไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำจักรพรรดิ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ได้มาจำพรรษาป่าใช้หมู่บ้านเวียงทองใหม่หมู่ที่ ๙ เป็นสถานที่สงบและเหมาะที่จะปฏิบัติธรรมในครั้งนั้น ญาติโยมที่อุปัฏฐากทราบนิมนต์หลวงตาให้จำพรรษาต่อในพรรษาแรกนั้นพบอุปสรรคมากมาย


และตัดสินใจสร้างวัดเพื่อจะเกื้อกูลพระภิกษุสามเณรป่วยไข้ด้วยเหตุปัจจัยทำให้เกิดเป็นสำนักขึ้นมาและจนได้เป็นวัดและได้รับหนังสืออนุญาตให้สร้างวัดเมื่อเดือน กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ และได้รับประกาศเป็นวัดในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ และได้นามวัดว่า วัดป่าเวียงทอง ตามที่ทางกระทรวงศึกษาธิการตั้งให้ (เดิมวัดได้ขอเสนอชื่อวัดป่าแพร่นันทาราม) หลังจากนั้นทางวัดมีการก่อสร้างกุฏิและศาลามาตามลำดับ ได้รับอุปัฏฐากในการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มแรกโดยมีโยมตาจ๋อย ทองคำ เป็นผู้นำ และพร้อมด้วยคณะญาติธรรมมาโดยตลอดมิได้ขาด หลังจากนั้นทางวัดป่าเวียงทอง ได้พัฒนาสิ่งปลูกสร้างมีอุโบสถป่าธรรมชาติ ศาลาหอฉัน หอสวดมนต์ กุฏิกรรมฐานจำนวน ๒๗ หลัง โรงครัว ศาลาเอนกประสงค์ เมรุเผาศพ

และขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามกำลังศรัทธาของญาติธรรม วัดป่าเวียงทองขยายพื้นที่ปลูกป่าเพื่อความร่มรื่นและให้เหมาะที่จะเป็นวัดป่าและพื้นที่ ณ ปัจจุบันนี้ มีพื้นที่ประมาณ ๒๘ ไร่ และมีนโยบายขยายที่ปลูกป่าให้เป็นเสนาสนะป่าที่ร่มเย็นอย่างต่อเนื่อง วัดป่าเวียงทองได้พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ และก่อสร้างอุโบสถป่าธรรมชาติ เป็นอุโบสถใช้ต้นไม้เป็นหลังคาและเป็นที่จัดปฏิบัติธรรม เป็นลานธรรม และจัดงานกลางแจ้ง และกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด วัดป่าเวียงทองได้รับอุปการะจากญาติธรรม
ศิษยานุศิษย์วัดป่าเวียงทองและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ได้ถวายผ้าป่า ทอดกฐินทุกปี ตั้งเริ่มสร้างวัดจนถึงปัจจุบัน ญาติธรรมได้ทำนุบำรุงวัด และเข้าปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา


พระพุทธรูปภายในวัด

วัดป่าเวียงทอง ได้รับแต่งตั้งจากมหาเถรสมาคม เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแพร่แห่งที่ ๑ (ธรรมยุต) เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นสถานที่รองรับผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไปและมีหน่วยงานราชการ, เอกชน ที่มีความประสงค์นำคณะเจ้าหน้าที่ พนักงาน เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมของวัดทุกปี และได้รับสำนักปฏิบัติประจำจังหวัดดีเด่นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และทางวัดได้รับอนุญาตเป็น ศูนย์เรียนรู้สมาธิบำบัดแบบกายประสานจิต SKT ของรศ.ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัย เพื่อเป็นสถานที่เรียนรู้เรื่องสุขภาพผสมผสานกับวิปัสสนากรรมฐาน เรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน ประสานกายประสานจิต และมีทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแพร่และทีมราชการบำนาญมาร่วมเป็นจิตอาสาเป็นครูพอกบุญประจำศูนย์ฯ มีผู้สนใจเรื่องสุขภาพมาใช้บริการทั้งในสถานที่และนอกสถานที่อย่างต่อเนื่อง วัดป่าเวียงทองมีเจ้าอาวาสมาแล้วสองรูป คือ หลวงตาธรรมดา (พระมหาสุทธินันท์ สุทธิญาโณ) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกและพระครูภาวนาปัญญาคุณ วิ. เจ้าคณะอำเภอ จังหวัดแพร่ (ธรรมยุต) เป็นอาวาสรูปปัจจุบัน


เอกลักษณ์ของวัดป่าเวียงทอง
๑ วัดป่าเวียงทองเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแพร่แห่งที่ ๑ (ธรรมยุต)
๒ วัดป่าเวียงทองเป็นศูนย์การเรียนรู้สมาธิบำบัดแบบกายประสานจิต SKT ของศ.ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี เป็นสุขภาพแบบพอเพียง ๐ บาท และสุขภาพพึ่งตน
๓ มีอุโบสถป่าธรรมชาติจุดเด่นของวัด อุโบสถป่าธรรมชาติมีต้นไม้เป็นหลังคา ฐานอุโบสถก่ออิฐโชว์เป็นลานโล่ง ร่มรืนด้วยธรมชาติ อุโบสถได้พระราชวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓ และทำพิธีผูกพัทธสีมาเมื่อต้นปีพ.ศ.๒๕๖๘ และเป็นอุโบสถป่าธรรมชาติแห่งที่ ๔ ของประเทศ
๔ ภายในวัดเป็นมีต้นไม้นานาพันธ์เป็นป่าธรรมชาติร่มรื่นและมีลานธรรมเหมาะกับเป็นวัดปฏิบัติธรรมกรรมฐานอย่างยิ่ง
๕ วัดป่าเวียงทองทำงานสาธารณสงเคราะห์ ทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพและฌาปนกิจศพแก่ประชาชนทั่วไปแบบสงบเงียบเรียบง่าย ประโยชน์สูงประหยัดสุด
อาคารธรรม ศาลาอเนกประสงค์ ๕ ธันวา







พระมหาสุทธินันท์ สุทฺธิญาโณ (หลวงตาธรรมดา)
ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดป่าเวียงทอง


พระครูภาวนาปัญญาคุณ วิ.
เจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดป่าเวียงทอง





อาคาร ๖๐ ปี (โรงครัว)

กุฏิเจ้าอาวาส




