
Wat Phra That Pha Ngao Wiang Subdistrict, Chiang Saen District, Chiang Rai Province



ความเป็นมา
วัดพระธาตุผาเงา ปัจจุบันตั้งอยู่ เลขที่ ๓๙๑ บ้านสบคำ หมู่ที่ ๕ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในอดีต เมื่อ พ.ศ. ๑๐๘๘ ภายหลังโยนกนาคพันธ์สิงหนวัติล่มสลายลง สถานที่นี้เป็นที่ตั้งของ เวียงปรึกษา / เวียงปรึกษานี้ ระบุไว้ในเอกสารโบราณล้านนาว่า สร้างขึ้นโดยขุนลัง และมีผู้ปกครองทั้งสิ้น ๑๕ ขุน เป็นเวลา ๙๓ ปี และสิ้นสุด เมื่อ พ.ศ. ๑๑๘๑

วัดพระธาตุผาเงา ได้ย้ายมาจากวัดเดิม คือ วัดสบคำ อยู่ติดแม่น้ำโขงถูกแม่น้ำโขง กัดเซาะตลิ่งของวัดพังลงทุกปี เหลือพื้นที่น้อย คณะศรัทธาจึงได้ลงความเห็นกันย้ายวัดขึ้นมาสร้างอยู่บริเวณเชิงดอยจันในปัจจุบัน ให้ชื่อว่าวัดพระธาตุผาเงา ชื่อวัดพระธาตุผาเงานี้ มาจากชื่อของพระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างคล้ายองค์ระฆังคว่ำ และมีก้อนหินอีกก้อนหนึ่งนอนลาดเอียงอยู่หน้าฐานก้อนหินที่สร้างพระธาตุนั้น ชาวบ้านจึงเรียกพระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินนี้ว่า พระธาตุผาเงา หมายถึง พระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินผาขนาดใหญ่ ซึ่งมีเงาเป็นก้อนหินเปรียบประหนึ่งเงาของพระธาตุ
วัดพระธาตุผาเงา จากเชิงเขาถึงยอดเขา มีพระธาตุสำคัญ ๓ องค์ คือ
- พระธาตุผาเงา เชิงเขา
- พระธาตุจอมจัน กลางเขา
- พระธาตุเจ็ดยอด ยอดเขา
พระธาตุสำคัญ ๓ องค์ ในอดีตได้สร้างขึ้นในสมัยเวียงปรึกษา ของผู้ปกครองเวียง คือขุนลัง แต่ปัจจุบันได้บูรณะให้เป็นที่สักการะบูชาเป็นที่เรียบร้อย

หอพระไตรปิฎก
เฉลิมเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐


ภายในหอพระไตรปิฎก

พระธาตุจอมจัน


พระพุทธรูปพระประธานในวิหาร
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธรูปนี้ว่า วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ นายจันทา พรมมา หนึ่งในคณะศรัทธาทั้งหมดที่เริ่มบุกเบิกแผ้วถางป่า ได้ฝันในเวลากลางคืนว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งรูปร่างสูงดำมาบอกว่าก่อนที่จะยกชิ้นส่วนองค์พระประธานที่เหลือครึ่งองค์ออกนั้น ให้ไปนิมนต์พระสงฆ์มา ๘ รูปทำพิธีสวดถอนเสียก่อน
พระประธานภายในอุโบสถ

อุโบสถ

วัดพระธาตุผาเงา ได้เริ่มพัฒนาในการสร้างวัดขึ้น เมื่อ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ หลังจากได้แผ้วถางป่าพบเห็นซากโบราณวัตถุกลาดเกลื่อนไปทั่วบริเวณ มีชิ้นใหญ่อยู่ชิ้นหนึ่ง เป็นพระพุทธรูปครึ่งองค์ ช่วงล่างหน้าตักกว้าง ๔ วา เชื่อว่าเป็นพระประธานในวิหารเก่า คณะศรัทธาจึงตั้งใจจะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สมบูรณ์เหมือนเดิม ต่อมาวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ พ่อจันทา พรมมา หนึ่งในคณะศรัทธาทั้งหมดที่เริ่มบุกเบิกแผ้วถางป่า ได้นอนหลับฝันในเวลากลางคืนว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งรูปร่างสูงดำมาบอกว่า “ก่อนที่จะยกชิ้นส่วนองค์พระประธานที่เหลือครึ่งองค์นั้นออกให้ไปนิมนต์พระมา ๘ รูป ทำพิธีสวดถอนเสียก่อน แล้วจะได้พบสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่านี้”

รุ่งขึ้นวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๑๙ พ่อจันทา พรมมา จึงได้นำเอาความฝันนั้นไปบอกให้ศรัทธาทั้งหมดฟัง และต่อจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปตามขั้นตอนของความฝันทุกประการ ได้ปรับพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยตอไม้รากไม้และก้อนหินน้อยใหญ่ งานปรับพื้นที่ได้ดำเนินไปด้วยความยากลำบากยิ่งนัก จากนั้นวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๑๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. เมื่อคณะศรัทธาได้ปรับพื้นที่ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มขุดและยกตอไม้ขนาดใหญ่ออก ทุกคนต่างตื่นเต้น และปิติยินดีเมื่อได้พบว่า ใต้ตอไม้นั้นมีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออกพบหน้ากาก(แผ่นทึบ) ก่อกั้นไว้ พอยกหน้ากากออกจึงได้พบพระพุทธรูปที่มีลักษณะสวยงามมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุได้วิเคราะห์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุระหว่าง ๗๐๐-๑,๓๐๐ ปี คณะศรัทธาทั้งหมดจึงได้พร้อมใจกันตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อผาเงา” ตามที่ พ่อจันทา พรมมา นิมิตฝันนั้น

เมื่อค้นพบพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา วัดเก่าแห่งนี้ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง การก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ก็ดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง ท่านเจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระอธิการคำแสน คมฺภีโร เป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ ท่านเป็นนักพัฒนา ท่านได้สร้างวิหารหลวงพ่อผาเงา กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญและได้บูรณะพระธาตุผาเงาและอื่นๆ อีกมากมาย สิ้นสุดลง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ คือ พระอธิการวันชัย สีลวณฺโณ เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๓๑ เป็นเวลา๑ ปี /เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ คือ พระพุทธิญาณมุนี เป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑-ปัจจุบัน อาตมาได้ต่อยอดโครงการพัฒนาวัดพระธาตุผาเงาร่วมกับคณะกรรมการศรัทธาอย่างต่อเนื่องมาตลอดดังปรากฏปัจจุบันนี้



วิหารหลวงพ่อผาเงา ประดิษฐานพระพุทธรูป หลวงพ่อผาเงา พระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเชียงแสน ๒ ด้านซ้ายขวาของวิหารมีรูปปั้นพระพุทธประวัติอย่างด้านซ้ายเป็นเจ้าชายสิทธัตถะปลงผมทรงออกผนวช



วัดพระธาตุผาเงา ได้พัฒนาในครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ในครั้งนั้น มีคณะกรรมการที่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ได้เดินทางมาที่วัด นำโดย อาจารย์บุญธรรม โพธิ์เพ่งพุ่ม ๑ ในคณะกรรมการเพื่อหาสถานที่ก่อสร้างพระเจดีย์ทางภาคเหนือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้เชิญ ท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา เป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง ท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา ได้กราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานทรงเจิมแผ่นศิลาฤกษ์สร้างพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ แต่พระองค์ ได้มอบหมายให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ เมื่อ วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๒๔
คณะกรรมการได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เมือ พ.ศ. ๒๕๓๖ ท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา ได้กราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมฉลอง เมื่อ วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๖
เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา มีโครงการก่อสร้างอุโบสถ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี บริเวณพราตุจอมจัน ได้กราบทูล พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ทรงเททองพระประธานเพื่อประดิษฐานในอุโบสถ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๘ และพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินต่อมาอีก ๕ ครั้ง
วัดพระธาตุผาเงา ได้พัฒนาถาวรวัตถุที่สำคัญ เช่น วิหาร / อุโบสถ /พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์/ หอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกรียติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ / หอวัฒนธรรมนิทัศน์ /พิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสน / กุฎิ /ศาลา /อื่นๆอีกมากมาย / ส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร เรียนนักธรรม – บาลี/เปิดศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ / อบรมเข้าค่ายคุณธรรม นักเรียน เยาวชน และ ส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชน/ ทอผ้า / ผลิตภัณฑ์สมุนไพร /เปิดโรงเรียนคนสามวัย แก่ผู้สูงอายุ ลฯล
ท่านใดที่ได้มาที่อำเภอเชียงแสน ขอเชิญเจริญพร แวะกราบนมัสการหลวงพ่อผาเงา พระธาตุผาเงา พระธาตุจอมจัน พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ และชมทัศนียภาพ ๓ แผ่นดิน คือ ไทย เมียนมา สปป.ลาว……..

พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์



ปาฏิหาริย์หลวงพ่อผาเงา
เรื่องจริงที่เคยมีมาแล้ว หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ เรื่องเหล่านี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณ คุณก็จะไม่รู้หลอกว่าหลวงพ่อผาเงาช่วยชีวิตคุณได้ และมีประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง ดังเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏกว่า ๓๐ ปี ที่ค้นพบหลวงพ่อผาเงา จะขอยกตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่ง เล่าสู่กันฟัง ดังนี้
เรื่อง รอดตายราวปาฏิหาริย์
รถบรรทุกขนาด ๖ ล้อคันหนึ่ง วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ในทันใดนั้นเอง รถได้ชนวัยกลางคนคนหนึ่งอย่างเต็มแรงจนเป็นเหตุให้ชายคนนั้นกระเด็นไปถึง ๑๐ เมตร ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ได้นำชายคนนั้นไปส่งโรงพยาบาลพระปิ่นเกล้า ถนนตากสิน กรุงเทพฯ หมอได้นำตัวเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินทันที พยาบาลได้ตรวจดูอย่างละเอียดก็พบว่าคนป่วยกำมือแน่นจึงแกะมือออกดูว่ามีอะไร ทันใดนั้นก็เห็นรูปพระครึ่งองค์ (โดยไม่ทราบว่าเป็นรูปหลวงพ่อผาเงา) จนกระทั้งชายคนนั้นได้รับการผ่าตัดและรู้สึกตัว เขาได้คลำสร้อยที่คอของเขา และทราบว่าหลวงพ่อผาเงาหายไป เพื่อนที่คอยดูแลอยู่นั้นจึงยื่นให้ พร้อมกันนั้นคุณประเสริฐ ชายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นได้เล่าให้เพื่อนฟังว่าไม่รู้สึกตัวเลยเป็นเวลา ๑ วัน ๑ คืน เมื่อเขานึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาก็คิดว่า นี้คงเป็นอภินิหาริย์ของหลวงพ่อผาเงาเป็นแน่ เพราะถูกรถชนอย่างแรงจนกระดูกขาหัก และไส้แตกหลายแห่ง แต่สภาพภายนอกไม่ผิดปรกติเลย จึงนึกเสมอว่า หลวงพ่อเท่านั้นที่ช่วยเขาให้พ้นจากความตาย ขณะนี้เขาก็ได้หายเป็นปรกติทุกประการ จึงนับว่าเป็นอภินิหารอย่างแท้จริง
เรื่องอภินิหารของหลวงพ่อนั้นมีมากมาย เช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ปรากฎให้เห็นอีก เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ มีหญิงสาวร่างบอบบางคนหนึ่งพร้อมด้วยหนุ่มอีก ๒ คน ได้ไปพบอาตมาที่วัด เธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลา ๐๓.๓๐ น. วันที่ ๒๔ ตุลาคม ที่ผ่านมา เธอได้นั่งรถตะวันทัวร์มาจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมบ้านที่บ้านห้วยน้ำราก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในขณะที่รถวิ่งมาถึงอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง รถได้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถซุง เป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทันที ๔ ศพ และไปตายที่โรงพยาบาลอีก ๑ ศพ เธอพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เธอรอดตายราวปาฏิหาริย์” เพราะว่าทุกคนที่ตายนั้นนั่งกระหนาบเธออยู่ คือเก้าอี้ตัวที่หนึ่งเป็นหญิงสาวบริการรถทัวร์ เธอนั่งตัวที่สอง ตัวที่สามและที่สี่ นั่งตัวละสองคนตายทั้งหมด นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก เธอไม่รู้อะไรเลยในขณะนั้น เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมดช่วยเธออย่างรีบด่วน คิดว่าเธอคงสาหัส เพราะตามตัวเต็มไปด้วยเลือด แต่เมื่อตรวจดูแล้ว ปรากฎว่าที่หน้าผากแตกเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อเลยว่า เธอจะรอดตายได้ จึงมั่นใจว่าหลวงพ่อผาเงาช่วยให้เธอได้เกิดใหม่แน่ เพราะในตัวของเธอแขวนรูปหลวงพ่อผาเงาเพียงองค์เดียวเท่านั้น ซึ่งได้บูชาไปเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๐ นี่เอง
เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ อาตมา(พระอาจารย์คำแสน คมฺภีโร) ได้ลงไปกรุงเทพฯ และได้ถือโอกาสไปเยี่ยมโยมด้วยความคิดถึงที่ได้จากกันไปอยู่จังหวัดเชียงรายเป็นเวลานาน จึงได้พูดคุยกันเรื่องต่าง ๆ จนมาพูดถึงเรื่องหลวงพ่อผาเงา และโยมก็ถามถึงเรื่องปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ที่ได้ประสบมาให้ฟัง ในขณะนั้นมีผู้ร่วมสนทนาประมาณ ๑๐ คน ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้นก็มีคุณเล็ก เกณฑ์ขุนทด ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในวงสนทนา ก็พูดขึ้นว่า
“อยากจะให้หลวงพ่อผาเงาแสดงอภินิหารให้ดู จะได้ไปนมัสการบ้าง” หลังจากนั้นอาตมาก็เห็นว่าดึกพอประมาณแล้วก็จะกลับวัด จึงได้แจกหลวงพ่อผาเงาให้ผู้ร่วมวงสนทนาทุกคน ในทันใดนั้นเหตุการณ์อันไม่มีใครคาดคิดฝันก็ได้เกิดขึ้น ขณะที่คุณแม่ทองเล็กได้นำเหรียญหลวงพ่อไปให้บุตรอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ อาตมา พอบุตรคนนั้นเห็นรูปหลวงพ่อผาเงาเท่านั้นร้องเสียงลั่นเลย “ไม่เอา ๆ ๆ ๆ กลัว ๆ” ทำให้ทุกคนขวัญหนีดีฝ่อไปตาม ๆ กัน แม้อาตมาเองก็นึกอะไรไม่ทันเพราะกระทันหันเหลือเกิน เมื่อนึกได้จึงหยิบเอารูปหลวงพ่อผาเงาในย่ามอธิษฐานบอกกล่าวเป่าน้ำมนต์ใส่เพียงครั้งเดียว ปรากฎว่าอาการดังกล่าวหายอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้นอาตมาก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะ ทุกคนจึงเชื่อถืออย่างสนิทใจว่า คงเป็นเพราะพระพุทธรูปนี้มีอภินิหารมาก
เรื่องการแสดงอภินิหารนี้ บางคนอาจจะเชื่อและบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดที่อาตมานำมากล่าวนี้มีหลักฐานยืนยัน และขอพูดด้วยความสัตย์ตามที่ได้ประสบมา สำหรับผู้นำเอารูปหลวงพ่อไปจะเป็นผลดียิ่งขึ้น อาตมาขอฝากคาถาดังนี้คือ ว่า นะโม ๓ จบ แล้วกล่าวว่า “สันติโต วิปุโล ธัมโม” ถ้าเป็นบาลีเขียนว่า “ สนฺติโต วิปุโล ธมฺโม” ๓ หน จะเป็นมงคลนักแลฯ

พระสยามภูมิพิทักษ์เดชเทวาธิราช

เลือดกำเดาหายแบบปฏิหาริย์
ลุงไชยวงศ์ สปปล.(ลาว)ไปอยู่ฝรั่งเศสหลบภัยสงครามการเมือง ปี ๒๕๑๘ ลุงเป็นโรคประจำตัวคือ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด เป็นเวลา ๒๐ ปีมาแล้วพยายามรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ทั้งๆ ที่ประเทศฝรั่งเศส มีวิทยากรทางการแพศย์ที่ทันสมัย แต่ก็รักษาไม่หาย จนคิดว่าคงหายพร้อมกับการตายนั้นแหละ ลุงพูดด้วยหมดความหวัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลุงไชยวง ได้นอนหลับและฝันเห็นหลวงพ่อจากที่ไหนไม่รู้ ลอยไปตามกระแสคลื่นทะเล ในขณะนั้น ลุงไชยวงศ์ ก็พยายามจะหยิบภาพพระพุทธที่ไหลไปตามกับคลื่นขึ้นมา ในขณะที่หยิบนั้นลุงให้เห็นแสงสว่างของหลวงพ่อออกจากภาพ สวยงามมาก ลุงตกใจมาก เมื่อได้เห็นองค์หลวงพ่อออกมาจากภาพ ช่วงนั้น ทั้งกล้าทั้งกลัวในเวลาเดียวกัน เมื่อได้สติจึงแสดงความเคารพด้วยความศรัทธายิ่ง และได้สนทนากับหลวงพ่อด้วย ท่านยังบอกว่า “ โรคที่โยมเป็นรักษาไม่หายหรอก แต่ถ้าอยากหายจริงๆ ต้องไปบวชขาวที่วัดหลวงพ่อนะ” แล้วหลวงพ่อท่านก็หายไป ลุงบอกว่า ในทันใดลุงก็ตื่นขึ้นมา
รุ่งเช้าลุงได้นำความฝันที่ตนได้ฝันไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง เมื่อเพื่อนบ้านได้ฟังเรื่องราวแล้ว จึงได้นำภาพที่เคยไปประเทศไทยมาให้ดู ซึ่งก็มีหลายวัด แต่ภาพที่ลุงเห็นลุงเอยปากว่า นี้แหละ ที่เห็นในฝัน ใช่เลย ซึ่งต่อมาจึงรู้ว่าเป็นภาพหลวงพ่อผาเงา
จากนั้นลุงไชยวงศ์ ก็พยายามหาโอกาสไปที่ประเทศไทย โดยยืมภาพจากเพื่อนบ้านในฝรั่งเศสไปด้วย จนกระทั่งถึงสนามบินดอนเมือง ก็ได้สอบถามผู้คนในสนามบินพอสมควร ลุงจึงได้ข้อมูลว่าภาพที่ปรากฏนั้นอยู่เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ทั้งที่ลุงก็รู้เลยว่ามีจริงหรือเปล่า ลุงตัดสิ้นใจขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมืองไปที่เชียงราย เมื่อลงสนามบินเชียงรายแล้ว ลุงได้นำภาพนั้นให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าก็บอกว่า นี้เป็นภาพหลวงพ่อผาเงา อยู่วัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสนโน้น ลุงจึงได้เมารถจากสนามบินไปที่อำเภอเชียงแสน โดยรถแท็กซี่สนามบินส่งที่วัดพระธาตุผาเงา เมื่อลงรถแล้วลุงรู้สึกขนลุก แบบไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อลุงได้ทำภารกิจในเบื้องต้นเสร็จแล้ว ลุงขึ้นไปวิหารหลวงพ่อผาเงาทันที สิ่งที่ลุงทึ่ง คือได้เห็นหลวงพ่อผาเงา ซึ่งเหมือนในความฝันจริงๆ ลุงก้มลงกราบด้วยปิติอิ่มใจ ที่ได้เห็นสิ่งที่ตนเองตามหาด้วยความยากลำบาก ในเวลานั้นลุงก็ได้นึกถึง คำที่ได้สนทนากับหลวงพ่อไว้ จึงถามหาเจ้าอาวาส ซึ่งในปัจจุบัน คือ พระพุทธิญาณมุนี ลุงได้กราบและขอบวชด้วยการห่มขาวตามที่เคยฝันไว้
ทันทีที่ปลงผมนั้นสิ่งมหัสจรรย์ก็เกิดขึ้นกับลุง คือ เมื่อปลงผมครั้งแรก เลือดกำเดาซึ่งไหลมาตลอดบัดนี้ได้หยุดแล้ว ลุงยังไม่มั่นใจว่าหยุดจริง หรือเปล่า จนปลงผมเสร็จเลือดกำเดาก็ออกอีก ลุงได้เห็นปาฎิหาริย์ครั้งนี้จึงได้บวชเป็นเวลา ๑๕ วัน เพื่อบูชาหลวงพ่อผาเงา ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเป็นช่วงปฏิบัติธรรมประจำของวัดพระธาตุผาเงาด้วย คือ ๗-๑๗มีนาคมของทุกปี ลุงไชยวงศ์ได้เล่าเป็นวิทยาทานแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมนับร้อย เมื่อปี ๒๕๕๐

พระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์


วิหารหลวงพระเจ้าล้านตื้อ (กำลังสร้าง)


พระราชวชิรคณี
เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา
เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย

หอระฆัง


อาคารเทพกาญจนา

ศูนย์กฎหมายเพื่อพระสงฆ์จังหวัดเชียงราย

โรงเรียนไฟศาลเพชรบุรี
โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกเขตบาหลี




สกายวอร์ค ผ่าเงา ๓ แผนดิน





ซุ้มประตู

