วัดป่าสนามชัย ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

วัดป่าสนามชัย

วัดป่าสนามชัยตั้งอยู่บ้านสนามชัย หมู่ที่ ๑๖ ตำบล โพธิ์ไทร อำเภอ พิบูลมังสาหารจังหวัด อุบลราชธานี

ประวัติวัดป่าสนามชัย

วัดป่าสนามชัยตั้งอยู่บ้านสนามชัย หมู่ที่ ๙ (ปัจจุบันหมู่ที่ ๑๖ ) ตำบล โพธิ์ไทร อำเภอ พิบูลมังสาหารจังหวัด อุบลราชธานี วัดป่าสนามชัยได้จัดตั้งเป็น สำนักสงฆ์ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยการดำริของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์( พิมพ์ ธัมมธโร ) เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายอ่อนตา แสนทวีสุข น้องชายของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้มอบที่ดินของตนในหมู่บ้านสนามชัย จำนวน ๒๗ ไร่ ให้เป็นที่สร้างวัดโดยพระบัญชาของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ พระครูพิบูลธรรมภาณ เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร (ธรรมยุต)ได้นิมนต์ หลวงปู่กิ ธัมมุตตโม มาประจำที่วัดป่าสนามชัย ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ เสาร์ กันตสีโลและหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงมีศิษย์ยานุศิษย์ อุบาสก อุบาสิกา ตลอดทั้งพุทธบริษัทเลื่อมใสปฏิบัติธรรม มากมาย และได้มีจิตศรัทธา ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาเสนาสนะถาวรวัตถุโดยมี หลวงปู่กิ ธัมมุตตโม เป็นประธานสงฆ์ร่วมพัฒนา ทั้งศาสนวัตถุและจิตใจ จนเจริญรุ่งเรืองสืบมาถึงทุกวันนี้ ในปีพ.ศ. ๒๕๔๒ หลวงปู่กิ ธัมมุตตโม ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ วัดป่าสนามชัยจึงเป็นอนุสรณ์สถานพระบูรพาจารย์ หลวงปู่กิ ธัมมุตตโม

ประวัติหลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม

หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม เป็นพระสายกรรมฐานที่มีชีวิตอุทิศตนในพระธรรมวินัยอย่างมั่นคง และมีความใกล้ชิดกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยเฉพาะหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ศิษย์ร่วมสายเดียวกัน

การธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่เสาร์

ในปี พ.ศ. 2484 หลวงปู่กิได้ร่วมธุดงค์กับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และพระกรรมฐานคณะใหญ่ เดินทางไปยังเมืองจำปาศักดิ์ แขวงลาวใต้ (ปัจจุบันคือ สปป.ลาว) เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่ครูบาอาจารย์ในอดีต โดยเฉพาะ “หลวงปู่ยาครูสีทา ชยเสโน” พระอาจารย์ของหลวงปู่เสาร์

คณะธุดงค์ประกอบด้วยพระสายกรรมฐานทั้งธรรมยุตและมหานิกาย รวม 11 รูป และฆราวาสอีก 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พระราชธรรมสุธี (หลวงตาพวง สุขินฺทริโย) ซึ่งในขณะนั้นอายุเพียง 14 ปี และยังเป็นฆราวาส

ในการเดินทางครั้งนั้น หลวงปู่กิมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ดูแลและประสานงาน โดยเฉพาะเมื่อหลวงปู่เสาร์มีอาการอาพาธ ท่านก็เป็นหนึ่งในพระที่ร่วมปรึกษาและพยายามนิมนต์ให้หลวงปู่เสาร์กลับขึ้นมายังฝั่งไทยเพื่อพักรักษาตัว

การมรณภาพของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

หลวงปู่เสาร์เดินทางจากจำปาศักดิ์ขึ้นฝั่งไทยโดยทางเรือ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องหลายประการ ทำให้คณะผู้ไปรับอย่างหลวงปู่กิและพระอาจารย์บุญมากไม่สามารถพบกันกลางทาง เรือของหลวงปู่เสาร์ถึงวัดอมาตยารามก่อน และที่นั่นท่านได้มรณภาพในอิริยาบถนั่งสงบนิ่ง ด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย ณ พระอุโบสถวัดอมาตยาราม เมืองจำปาศักดิ์

หลังจากมรณภาพ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ได้นำศพหลวงปู่เสาร์มาบำเพ็ญกุศลและประดิษฐานไว้ที่วัดบูรพาราม จังหวัดอุบลราชธานี

เหตุการณ์สำคัญช่วงปลายพรรษา

ในปี พ.ศ. 2542 ขณะมีพรรษา 52 หลวงปู่กิได้ไปร่วมงานทอดกฐินสามัคคีที่วัดถ้ำซับมืด อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีหลวงปู่ทา จารุธัมโม ซึ่งเป็นสหธรรมิกและเคยอุปัฏฐากหลวงปู่มี ญาณมุนี (ศิษย์หลวงปู่เสาร์) เป็นประธานสงฆ์ ในงานนี้ หลวงปู่กิได้กล่าวเล่าความหลังในอดีตแก่ญาติโยมอย่างอารมณ์ดี ทำให้ศิษยานุศิษย์ประทับใจในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพระอาวุโสทั้งสองที่ไม่ได้พบกันมากว่า 60 ปี

ต่อมาในวันที่ 11–12 ธันวาคม ปีเดียวกัน หลวงปู่กิได้เดินทางไปร่วมงานทำบุญวันเกิด 85 ปี ของหลวงปู่หลอด ปโมทิโต ที่วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) กรุงเทพมหานคร โดยในค่ำคืนวันที่ 11 ธันวาคม หลวงปู่กิยังได้ร่วมเจริญพระพุทธมนต์และนั่งฟังธรรมเทศนาจากพระเถระสำคัญ อาทิ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่ท่อน ญาณธโร และหลวงตาพวง สุขินฺทริโย จนเกือบรุ่งสาง

หลังเสร็จสิ้นงานวันที่ 12 ธันวาคม 2542 หลวงปู่กิยังได้ร่วมพิธีเททองหล่อรูปเหมือน 3 บูรพาจารย์ ได้แก่
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ก่อนเดินทางกลับอุบลราชธานี หลวงปู่กิได้เมตตาให้ญาติโยมถ่ายรูปกับหลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งภายหลังไม่มีใครคาดคิดว่า นี่คือกิจนิมนต์ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่กิในกรุงเทพฯ