วัดเกาะแก้วยานนาวา ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
Wat Koh Kaew Yannawa S̄ra khut Subdistrict,Chumponburi District Surin Province
ประวัติวัดเกาะแก้วยานนาวา
(ที่ตั้งวัดเก่า)
เดิมวัดบ้านม่วงน้อยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน มีลักษณะเป็นเกาะ ล้อมรอบไปด้วยน้ำ อยู่ตรงกลางระหว่างห้วยลำพังชูและหนองเลิง ต้องสัญจรเข้าออกทางเรือเท่านั้น (ต่อมาจึงมีการสร้างสะพานไม้) ชาวบ้านจึงขนานนามว่า “วัดเกาะแก้ว” โดยมีผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๐
(ที่ตั้งวัดใหม่)
ต่อมา ทางราชการได้ยกบ้านสระขุดขึ้นเป็นตำบลสระขุด แยกการปกครองออกจากตำบลเมืองบัว กำนันคนแรกของตำบลสระขุด คือ กำนันพรมมา พุชะโลนา ซึ่งเป็นชาวบ้านม่วงน้อย และเป็นผู้ผลักดันให้บ้านม่วงน้อยตั้งโรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งที่ผ่านมา เด็กๆบ้านม่วงน้อยต้องเดินเท้าไปกลับร่วม ๔ กิโลเมตรเพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านสระขุด การเดินทางไปเรียนนั้นค่อนข้างลำบาก ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝน เด็กๆต้องเดินลุยน้ำไปเรียน เสี่ยงต่ออันตรายไม่น้อย เมื่อเกิดการปรึกษาหารือกัน ชาวบ้านและพระสงฆ์จิงมีมติสละที่วัดให้ตั้งโรงเรียนประถมศึกษา โดยย้ายวัดมาตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านด้านทิศตะวันออก ได้มีชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่นาคนละแปลงเล็กๆรวมเป็นเนื้อที่สามไร่เศษ และได้สร้างเสนาสนะตั้งเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๑๓ เป็นต้นมา ส่วนโรงเรียนประถมศึกษาได้มีชื่อว่า โรงเรียนบ้านม่วงน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะแก้วที่วัดเก่า มีนายสิริวัฒน์ สุขหนองบึง ผู้ซึ่งบุกเบิกดำเนินเรื่องตั้งโรงเรียนและได้เป็นรักษาการครูใหญ่คนแรก
ต่อมาเป็นเวลาหลายสิบปี จนถึงปีพ.ศ.๒๕๔๗ สามเณรวิษณุ เดชบุญ ชาวบ้านม่วงน้อย ได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร จนสำเร็จเปรียญธรรม ๖ ประโยค ในปีพ.ศ.๒๕๕๑ ตลอดระยะเวลที่พำนักอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวรารามแห่งนี้ ได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้หลักธรรมหลายแขนง ทั้งนักธรรม บาลี การฝึกเทศนา ทั้งได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษร่วมด้วย และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การได้มีโอกาสถวายการอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์อาจารย์ พระเถรานุเถระทั้งในและต่างประเทศ และด้วยการรับหน้าที่ปฏิสันถารเช่นนี้มาโดยตลอด จึงได้มีความสนิทสนมคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งกับพระมหาเถระจากประเทศศรีลังกานับตั้งแต่พระมหานายกะประมุขสงฆ์สูงสุดลงมา กาลเวลาล่วงเลยมา ในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๑ สามเณรวิษณุ เดชบุญ ป.ธ.๖ ได้รับการอุปสมบท ณ พัทธสีมา พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีพระวิสุทธาธิบดี (ต่อมาเลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วีระ ภทฺทจารี ป.ธ.๙) เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสิริสุทัศน์ธรรมาภรณ์ เป็นกรรมวาจาจารย์ พระธรรมรัตนดิลก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ประชุมสงฆ์ร่วม ๓๐ รูป โดยมีพระมหานายกะ ทั้งนิกายสยามอุบาลีวงศ์ และนิกายอมระปุระเข้าร่วมหัตถบาส โดยการนิมนต์ของพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนฯ ด้วยประสงค์จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดีงามด้านพุทธศาสนาของทั้งสองประเทศ ไทย-ศรีลังกา ให้ยิ่งๆขึ้นไป และเพื่อเป็นเกียรติแก่วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งก่อตั้งเป็นพระอารามหลวงมาครบ ๒๐๐ ปี ในอุปสมบทกรรมครั้งนี้ พระมหาวิษณุ ได้รับฉายาว่า “กนฺตาจารี”
เพื่อเป็นนิมิตหมายและสัมพันธไมตรีอันดีงามของพระพุทธศาสนาเถรวาทของไทยและศรีลังกา จึงได้มีโครงการสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นที่วัดเกาะแก้วยานนาวา โดยมีพระวิสุทธาธิบดี(สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นผู้ประเดิมทุนสร้าง ๑๐๐,๐๐๐บาท พระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์(ในขณะนั้น)เป็นประธานดูแลการก่อสร้าง และได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ ๓๐ มิถุนาน ๒๕๕๑ โดยมีพระมหานายกะเถระ พระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์และนายพูนศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการสุรินทร์ เป็นประธาน ประกอบพิธีดังกล่าวหลังจากพระมหาวิษณุได้รับการอุปสมบทเพียงแค่วันเดียวและได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าสำนักที่พักสงฆ์ในเวลาต่อมา
ด้วยเหตุที่ตามกฎระเบียบบ้านเมือง สำนักสงฆ์ต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า ๖ ไร่ จึงจะตั้งเป็นวัดได้ นายนอ เดชบุญ (โยมปู่ของพระมหาวิษณุฯปฐมเจ้าอาวาส) ซึ่งมีที่นาจำนวน ๕ ไร่เศษ ติดกับที่พักสงฆ์ด้านทิศเหนือ ได้มีกุศลศรัทธาอย่างแรงกล้า สละที่นาแปลงดังกล่าวถวายเพื่อสร้างวัด เมื่อรวมกับที่ดินเดิมของวัดจึงเป็นเนื้อที่ ๘ ไร่เศษ เพียงพอต่อการตั้งวัด หลังจากนั้นจึงได้ดำเนินการขอสร้างวัดและขอตั้งวัดมาตามลำดับระเบียบปฏิบัติ สุดท้ายจึงได้รับเอกสารรับรองการตั้งวัดจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยได้ชื่อว่า “วัดเกาะแก้วยานนาวา” ซึ่งนายนิคม เดชบุญ (โยมบิดาของพระมหาวิษณุฯ ไวยาวัจกรวัด)เป็นผู้ขอสร้างและขอตั้งวัด
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ได้ประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยอดพระธาตุเจดีย์ โดยมีพระเทพปริยัติมุนี จภ.๑๑ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน และต่อมาวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ได้ประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐาน โดยมีพระธรรมโมลี พระราชวรคุณ และผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน คงเหลืองานสลักป้ายแผ่นชื่อและเปิดแผ่นป้ายฉลองสมโภชพระธาตุเจดีย์ครั้งใหญ่ ซึ่งอนุมานไว้ว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปลายปี ๒๕๖๓
ประวัติบ้านม่วงน้อย
หมู่ที่ ๓ ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๑๙๐ (โดยสังเขป)
ชาติภูมิ
บ้านม่วงน้อย เดิมชื่อ บ้านโนนส้มโฮง เพราะมีต้นส้มโฮงใหญ่(ต้นสำโรง)ยืนต้นอยู่ตรงกลางโนน(เนินดิน) เป็นพื้นที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง มีป่าไม้เบญจพรรญมากมายพร้อมทั้งต้นไผ่ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ด้านทิศตะวันตกของเนินดินดังกล่าวเป็นที่ลุ่มมีห้วยลำพังชูไหลผ่าน มีหนองน้ำขนาดใหญ่ ๒ แห่ง ชื่อ หนองเลิง(ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน) และหนองสระ(ตั้งอยู่ทิศเหนือของหมู่บ้าน) เมื่อประมาณปีพ.ศ. ๒๔๓๐ มีชาวบ้านเดินทางมาอาศัยอยู่กลุ่มแรกจากบ้านลุงปุง บ้านหนองไม้ถี่(หนองเมธี) อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยการนำของหลวงฤทธิ์ ขุนทิพย์ และนางพา ทั้ง ๓ พี่น้องนี้เป็นคนตระกูลพุชะโลนา ย้ายถิ่นฐานมากันเป็นครอบครัว กาลต่อมาขุนผจงราษฎร์ กำนันตำบลยะวึกได้มาตรวจราชการที่บ้านโนนส้มโฮง(สำโรง)แห่งนี้ ซึ่งชื่อโนนสำโรงนี้ไปพ้องกับบ้านสำโรง ตำบลศรีณรงค์ จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านให้ใหม่ว่า “บ้านม่วงน้อย” เพราะเห็นต้นมะม่วงป่าต้นหนึ่งยืนต้นเคียงคู่กับต้นสำโรงและผลของมะม่วงป่ามีขนาดเล็ก ประกอบกับหมู่บ้านเป็นแต่เพียงหมู่บ้านเล็กๆเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านม่วงน้อยมาจนถึงทุกวันนี้
ที่ตั้ง
บ้านม่วงน้อยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองอำเภอชุมพลบุรี มีระยะห่างประมาณ ๓๔ กิโลเมตร ทิศตะวันตกติดเขตอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศเหนือติดเขตอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ราว ๑๒๔ กิโลเมตร
ทิศเหนือ จรดบ้านเหล่า-บ้านหารฮี ต.เม็กดำ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
ทิศตะวันออก จรดบ้านสำโรง ต.สระขุด อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์
ทิศใต้ จรดบ้านสระขุด ต.สระขุดอำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
ทิศตะวันตก จรดห้วยลำพังชู บ้านยางนกคู่ อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
อาจกล่าวได้ว่า พื้นที่แหลมตรงนี้ เป็นเหมือนสามเหลี่ยมทองคำ ที่มีลำห้วยแบ่งเขตแดนถึง ๓ จังหวัดอยู่ตรงจุดเดียวกัน คือ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ มหาสารคาม
พระเดชพระคุณอัคคมหาบัณฑิต ดาวุลเดนะ ญาณิสสระ มหานายกะเถระ อมระปุระนิกาย (ประมุขสงฆ์นิกายพม่า) ประเทศศรีลังกา มอบพระบรมสารีริกธาตุและหน่อพระศรีมหาโพธิ์แด่วัดเกาะแก้วยานนาวา
โดยพระธรรมโมลี เป็นประธานรับมอบ เมือวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๑
พิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุเจดีย์ ๓๐ มิถุนาน ๒๕๕๑
พระมหานายกะ อมระปุระนิกาย (ประมุขสงฆ์นิกายพม่า) ประเทศศรีลังกา เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ นายอำเภอชุมพลบุรี ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอชุมพลบุรี และผู้ทรงเกียรติอีกหลายท่าน ได้เมตตาร่วมกันวางศิลาฤกษ์พระธาตุเจดีย์
พระมหานายกะ อมระปุระนิกาย (ประมุขสงฆ์นิกายพม่า) ประเทศศรีลังกา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่แผ่นศิลาฤกษ์ และปลูกหน่อพระศรีมหาโพธิ์จากเมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา