วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

วัดสว่างโพธิ์ศรี

วัดสว่างโพธิ์ศรี ตั้งอยู่ที่บ้านหัวนา หมู่ที่ ๘ ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕ ไร่ ๑ งาน ๗๖ ตารางวา

ปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือน ๖๕๐ ครัวเรือน มีประชากร ๒๘๑๓ คน แยกเป็นชาย ๑๒๖๔ คน
เป็นหญิง๑๕๔๙ คน อาชีพของราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำนา ทำสวน รับจ้าง ค้าขายเจ้าหน้าที่ของรัฐ นับถือศาสนาพุทธ มีหน่วยราชการในพื้นที่ คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลหัวนา และเทศบาลตำบลหัวนา

อาณาเขต

ทิศเหนือ จด บ้านชาติเจริญ ตำบลหัวนา
ทิศใต้ จด บ้านดาวคะนอง ตำบลหัวนา
ทิศตะวันออก จด บ้านดอนติ้ว ตำบลเจียด
ทิศตะวันตก จด บ้านโคกสว่างและบ้านอี่เติ่ง ตำบลหัวนา

อาคารเสนาสนะประกอบด้วย

อุโบสถกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔
ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๗ เมตร ยาว๒๗ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗
กุฏิสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง เป็นอาคารไม้
ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง๑๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๗
และศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒ หลัง

ปูชนียวัตถุมี

พระประธานในอุโบสถ ๑ องค์
ศาลาการเปรียญ จำนวน ๓ องค์

ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านเท่าที่ทราบ คือ
๑. นายทัง สว่างวัน
๒. นายงอน แดงโสภา
๓. นายดั้ว ป้องพันธ์
๔. นายพูล อุปเสน
๕. นายนนท์ แดงโสภา
๖. นายยี่ ขันธ์พาดี (อดีตกำนันตำบลเจียดเจียด)
๗. นายจักรี ประสมพลอย (อดีตกำนันคนแรกของตำบลหัวนา)
๘. นายบุญมี ใจใหญ่
๙. นายณรงค์ชัย ประสมพลอย (ปัจจุบันเป็นกำนันตำบลหัวนา)

ประวัติเจ้าอาวาส
พระครูสุมนโพธิกิจ ฉายา สุมโน วัดสว่างโพธิ์ศรี บ้านหัวนา หมู่ที่ 6 ต.หัวนา อ.เขมรารู จ.อุบลราชธานี
สถานะเดิม
ชื่อ นายบัวลา นามสกุล สังขะทา อายุ ๖๒ ปี
เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๔
ที่บ้านเลขที่ ๑๔๓ หมู่ที่ ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อ นายทา นามสกุล สังขะทา มารดาชื่อ นางดม นามสกุลคุณลือชา
วิทยฐานะ ป.๔ น.ธ.เอก
อาชีพ ทำนา
เชื้อชาติ ไทย
สัญชาติ ไทย
การบรรพชา/อุปสมบท
บรรพชาเมื่อ วันที่๑ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓๒
อุปสมบทเมื่อ วันที่ ๑ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓๒
ชื่อ พระบัวลา ฉายา สุมโน
ที่วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ชื่อพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการฝั่น ถิรญาโณ วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัด อุบลราชธานี
ชื่อพระกรรมวาจาจารย์ พระสอน มหาปุญโญ วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัด อุบลราชธานี
ชื่อพระอนุสาวนาจารย์ พระเยื่อง
วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
ประวัติการศึกษา
ทางโลก พ.ศ.๒๕๑๕ จบ ชั้น ป.๔ โรงเรียนบ้านม่วงเฒ่าเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ สอบได้นักธรรม ชั้นตรี สำนักเรียนวัดสว่างโพธิ์ศรีเมื่อปี พ.ศ ๒๕๓๔ สอบได้นักธรรม ชั้นโท สำนักเรียนวัดสว่างโพธิ์ศรีเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สอบได้นักธรรม ชั้นเอก สำนักเรียนวัดสว่างโพธิ์ศรี วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

เลขานุการเจ้าคณะตำบลหัวนาเขต ๑

ข้อมูลทั่วไปของวัดสว่างโพธิ์ศรี
วัดสว่างโพธิ์ศรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ ๒๔๐๑ ได้มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา และชาวบ้านหัวนาได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาตลอดมา
วัดสว่างโพธิ์ศรี ได้รับการประกาศให้ตั้งเป็นวัด ตามประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ มีข้อมูลทั่วไปดังนี้
พระภิกษุสงฆ์ที่เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสว่างโพธิ์ศรี เท่าที่ทราบมีดังนี้
๑.๑ พระบุญมี เขมปญโญ เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๐-๒๙๔
๑.๒ พระสำราญ สมาจาโร เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๔-๒๕๐๐
๑.๓ พระครูโอภาสโพธิวัฒน์ เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐-๒๕๔๔
๑.๔ พระครูสุมนโพธิกิจ เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ จนถึงปัจจุบัน
๒. ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาอยู่ ๖ รูป คือ
๒.๑ พระครูสุมนโพธิกิจ เจ้าอาวาสวัด
๒.๒ พระบุญเลี้ยง เขมปญฺโญ ลูกวัด
๒.๓ พระครูสังฆรักษ์บุญมี กิตติภทุโท รองเจ้าอาวาส
๒.๔ พระสมุห์บุญมี จารุธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
๒.๕ พระณิชกุล สุทฺธญาโณ ลูกวัด
๒.๖ พระประไพ ฐานวิโร ลูกวัด
๒.๗ พระวิเชียร ลูกวัด
๒.๘ พระสุรัตน์ ลูกวัด

ประวัติและข้อมูลบ้านหัวนา
บ้านหัวนา ก่อตั้งเมื่อไหรไม่ปรากฏ คนเฒ่าคนแก่ได้บอกเล่าสืบมาว่า มีสองครอบครัวพี่น้องมาจากหนองบัวลำภูมาตั้งรกรากอยู่ที่ห้วยหินห่อม (อยู่ทิศตะวันออกอ่างเก็บน้ำห้วยกุดขุ่นในปัจจุบัน) เพราะที่นั่นมีน้ำตลอดทั้งปี
คนโบราณต้องอาศัยแนวลำน้ำเป็นหลักในการตั้งบ้านเรือน (ชื่อบ้านน้ำเกลี้ยงในอดีต) พออาศัยได้หลายสิบปีมีครอบครัวลูกหลานขยายเพิ่มอีกประมาณ ๑๐ หลังคาเรือน ปีนั้นเกิดโรคระบาด จึงหาที่สร้างบ้านใหม่โดยถอยร่นลงมาตามลำน้ำทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านเดิมประมาณ ๕ กิโลเมตร (อยู่ทิศตะวันตกโรงเรียนบ้านม่วงเฆ่าในปัจจุบัน) ซึ่งมีลำห้วยสองสายไหลผ่านคือมีห้วยทางทิศเหนือและทิศใต้จึงได้สร้างที่อยู่อาศัยกันอีกหลายปีและหวังจะลงหลักปักฐานที่นั่น จึงหาที่เหมาะเพื่อสร้างวัดเพื่อเยาวชนรุ่นหลัง (คือบ้านเก่าในปัจจุบัน) พออยู่มานานหลายปีได้เกิดฝนตกหนักเกิดบ้านเรือนทุกคนเสียหายมากและเกิดน้ำท่วมติดต่อกันเป็นประจำทุกปีจึงมีความคิดที่จะไปตั้งบ้านเรือนใหม่เพื่อให้พ้นจากภาวะน้ำท่วม จึงตกลงกันได้ ๓ ตระกูล ตระกูลแรกไปสร้างบ้านเรือนทางทิศเหนือ (คือบ้านชาติเจริญในปัจจุบัน) ตระกูลที่สอง ถอยลงมาตามลำห้วยกุดขุ่น(คือบ้านม่วงเฒ่าในปัจจุบัน) อีกตระกูลหนึ่งพาครอบครัวพร้อมลูกหลานข้ามห้วย กุดขุ่นมาตั้งบ้านเรือนที่หัวไร่ปลายนาของตัวเองซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านเดิม ห่างจากบ้านเดิมประมาณ ๒ กิโลเมตร คือบ้านหัวนาในปัจจุบัน

ที่ดินตั้งวัด มี ๓ แปลง (มีเอกสารประกอบ)
๑ แปลงที่ ๑ มีเนื้อที่๓ไร่ ๑ งาน๖๔ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๕๙๗ เล่ม ๒๒๖ หน้า๙๗ ปัจจุบันได้ใช้ก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง ห้องน้ำ และกฏิพระ
๒ แปลงที่ ๒ มีเนื้อที่๑ ไร่๑ งาน ๖๕ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๓๑๐๔ เล่ม๒๓๒ หน้า๔ โดยมีนางบุตร คุณลือชา บริจาคให้วัดเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ ปัจจุบันได้ใช้ ก่อสร้าง กุฏิพระ๒ หลัง และศาลาคู่เมรุ
๓ แปลงที่ ๓ มีเนื้อที่ –ไร่๒ งาน๙๖ ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๕๓ เล่ม๒๒๗หน้า ๓ โดยมีนางบุตร นามสกุล คุณลือชา บริจาคให้วัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ ปัจจุบันได้ ใช้ก่อสร้างกุฏิเจ้าอาวาส และเมรุเผาศพ

มีสิ่งปลูกสร้างและอาคารเสนาสนะ ดังนี้
๑ อุโบสถ ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
๒ ศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๗ เมตร
๓ ศาลาเอนกประสงค์ ขนาดกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
๔ หอตักรบาตรสวรรค์ ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว๖ เมตร
๕ กุฎิเจ้าอาวาส ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๘ เมตร
๖ กุฏิรับรองพระสงฆ์ ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร
๗ กุฏิสงฆ์ (๑) ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๖ เมตร
๘ กุฏิสงฆ์ (๒) ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๕ เมตร
๙ กุฏิสงฆ์ (๓) ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
๑๐ กุฏิสงฆ์ (๔) ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว๕ เมตร
๑๑ กุฎิสงฆ์(๕) ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๖ เมตร
๑๒ กุฏิสงฆ์(๖) ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๖ เมตร
๑๓ กุฏิสงฆ์(๗) ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๕ เมตร
๑๔ ห้องน้ำ (๑) ขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว๘ เมตร
๑๕ ห้องน้ำ (๒) ขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว ๘ เมตร
๑๖ ห้องน้ำ (๓) ขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว ๔ เมตร
๑๗ หอระฆัง – หอกลอง ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๔ เมตร
๑๘ ห้องครัว ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
๑๙ เมรุ ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑๑ เมตร
๒๐ ศาลาคู่เมรุ ขนาดกว้าง ๒๔ เมตร ยาว๒๔ เมตร

รายชื่อไวยาวัจกร
๑ นายคำดี จุใจล้ำ

รายชื่อคณะกรรมการวัดสว่างโพธิ์ศรี
๑ นายบุญมี ใจใหญ่
๒ นายที บู่คำ
๓ นายหนูศิลป์ ศรีหงษา
๕ นายอ่อนสี สังขะทา