ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์
Wat Molee Wongsa
Truag District, Si Narong District, Surin Province
ความเป็นมา
วัดโมฬีวงษา มีชื่อตามที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดบ้านดุมหรือบ้านตรวจ สังกัด มหานิกาย อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ภาค ๑๑ ตั้งอยู่ที่บ้านตรวจ หมู่ที่ ๑ ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ มีเนื้อที่จำนวน ๑๓ ไร่ ๕๐ ตารางวา
วัดโมฬีวงษา แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญสร้างมานานนับร้อยปีเศษ ตั้งแต่เริ่มตั้งหมู่บ้านใหม่ ๆ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยพ่อตาแสงและชาวบ้านได้คิดริเริ่มสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่งทางด้านจิตใจของชาวบ้าน โดยตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดบูรพาตะวันออก และได้นิมนต์พระอาจารย์นนท์ มาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสปกครององค์แรก ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น วัดโมฬีวงษา ซึ่งวัดแห่งนี้ มีเจ้าอาวาสปกครองมาตามลำดับ ๑๒ รูป รูปปัจจุบันคือ พระครูกัลยาณธรรมโฆษ
สภาพวัด มีภูมิทัศน์สวยงาม สะอาด สงบ เป็นรมณียสถาน มีต้นไม้ร่ม เป็นสัปปายะในการบำเพ็ญบุญกุศลทางศาสนา และเป็นแหล่งการศึกษาเรียนรู้ทางวัฒนธรรม
ประวัติและผลงานพระครูกัลยาณธรรมโฆษ
พระครูกัลยาณธรรมโฆษ นามเดิม รุ่ง กลฺยาโณ อายุ 64 พรรษา ๓9 วิทยฐานะ นักธรรมชั้นเอก ประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส) พุทธศาสตรบัณฑิต (ปริญญาตรี) สาขาวิชา การจัดการเชิงพุทธ และพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สังกัดวัดโมฬีวงษา ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดโมฬีวงษา
รองเจ้าคณะอำเภอศรีณรงค์
พระอุปัชฌาย์
พระครูกัลยาณธรรมโฆษ ได้ปกครองสนองงานบริหารกิจการของทางคณะสงฆ์ด้วยความเรียบร้อยดีงามมาโดยตลอด ได้ใช้หลักการที่เป็นหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการปฏิบัติงานในหน้าที่และการดำเนินชีวิตด้วยหลัก ๓ ประการ คือ
๑. การครองตน โดยใช้หลักธรรมการพึ่งตนเอง ขยันหมั่นเพียร ประหยัดอดออม มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน
๒. การครองคน โดยใช้หลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ คือ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา เป็นหลักปฏิบัติในการครองคน
๓. การครองงาน โดยใช้หลักธรรม คือ อิทธิบาท ๔ ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา ในการปฏิบัติงาน
พระครูกัลยาณธรรมโฆษ ได้ปกครองสนองงานบริหารกิจการของทางคณะสงฆ์ด้วยความเรียบร้อยดีงาม ตลอดชีวิตได้ทุ่มเททำงานเพื่อพระพุทธศาสนา พัฒนาสังคม ชุมชนมาโดยตลอด จึงถือได้ว่าเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ก้าวจากดินสู่ดวงดาวเปล่งประกายจรัสแสงได้อย่างน่าชื่นชมยินดี
ต้นโพธิ์โมฬีบารมีธรรม
ต้นโพธิ์ เป็นต้นไม้ที่มีความเกี่ยวข้องผูกพันกับพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ดึกดำบรรพสมัยครั้งพุทธกาล เพราะเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เป็นพระอนุตระสัมมาสัมโพธิญาณ คนโบราณจึงให้ความเคารพนับถือ กราบไหว้สักการะบูชา จึงถือได้ว่าเป็น รุกขมรดกโลก
ความเป็นมาของต้นโพธิ์โมฬีบารมีธรรม อยู่ที่วัดโมฬีวงษา บ้านตรวจ หมู่ที่ ๑ ตำบลตรวจ
อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ มีอายุนับหลายร้อยปี ตั้งแต่ชาวบ้านมาตั้งรกรากเป็นหมู่บ้านขึ้นมา และได้สร้างวัดต่อมา เมื่อปี พ.ศ ๒๔๒๓ ก็พบเห็นต้นโพธิ์ต้นนี้เกิดอยู่ก่อนแล้ว เป็นต้นโพธิ์ใหญ่เก่าแก่ที่สำคัญของวัดและชุมชนหมู่บ้านในอำเภอศรีณรงค์ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของผู้พบเห็นทั่วไป มีความศักดิ์สิทธิ์ปรากฎให้คนพบเห็นหลายครั้งตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ว่า ใครที่เข้ามาในวัดแล้วไปแสดงอาการไม่เคารพ ดูหมิ่น
ต้นโพธิ์ เช่น ปัสสาวะรดโคนต้นโพธิ์ คนนั้นก็จะเกิดอาการผิดปกติตามร่างกาย มีกรากเกลื้อนปรากฏเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ นอนฝันร้าย คลุ้มคลั่งมีอาการเหมือนหวาดกลัว ญาติพี่น้องต้องพามาขอขมาลาโทษ อาการต่าง ๆ เหล่านั้นจึงหายไป นอกเหนือจากนั้นเวลาทางวัดและชาวบ้านจะก่อสร้างอาคารภายในวัดแห่งนี้ หรือจัดกิจกรรมงานภายในวัด เฉลิมฉลองตลอดถึงงานสำคัญต่าง ๆ ก็ต้องมีการเซ่นสังเวยบอกกล่าวเจ้าที่
เจ้าทาง รุกขเทวดาที่สิงสถิตในต้นโพธิ์ขอให้ปกปักรักษาคุ้มครองให้การดำเนินงานต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงด้วยดี ชาวบ้านบางคนที่มีศรัทธาได้กราบไหว้ขอพรให้ตนประสบความสุขความเจริญ ประสบความสำเร็จในชีวิต เหมือนได้อาศัยบารมีธรรมของต้นโพธิ์ต้นนี้ตลอดมา จึงได้ตั้งชื่อต้นโพธิ์นี้ว่า ต้นโพธิ์โมฬีบารมีธรรม มาถึงปัจจุบัน