อาณาเขต
ทิศเหนือ จดทางสาธารณประโยชน์
ทิศใต้ จดที่ดินนายประสาท รวยทรัพย์
ทิศตะวันออก จดโรงเรียน
ทิศตะวันตก จดที่สาธารณประโยชน์
อาคารเสนาสนะ
อุโบสถ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑
ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๑ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔
กุฏิสงฆ์ จำนวน ๒ หลังเป็นอาคารไม้และศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗
ปูชนียวัตถุมีพระประธาน ๒ องค์

การปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ
รูปที่ ๑ พระสัมมนา พ.ศ. ๒๓๔๐ - ๒๓๕๘
รูปที่ ๒ พระพุฒ
รูปที่ ๓ พระทอน พ.ศ. ๒๔๗๘ - ๒๔๙๓
รูปที่ ๔ พระเริ่ม ปากโร พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๕๒๕
รูปที่ ๕ พระวีระ ติสสวโร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นต้นมา
การศึกษา มีศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เปิดสอน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖

ประวัติการอาพารและการมรณภาพ
พระครูอุดมธัญญูกิจ เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรงดีมาโดยตลอด ท่านเป็นบุคคลที่ขยัน หมั่นเพียรในกิจวัตรของพระสงฆ์ งานในหน้าที่ งานพระศาสนา งานภายในวัดก็ดี ภายนอกวัดก็ดี ท่านไม่เคยหยุดนิ่ง นำพาพระสงฆ์สามเณร พัฒนาวัดมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าเสนาสนะของวัดแห่งนี้ได้รับการพัฒนามาตลอด
      เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ท่านได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมปริวาสกรรม ที่อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ มีอาการปวดท้องรุนแรง คณะพระอาจารย์กรรม จึงได้นำตัวส่ง โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา และได้ทำการผ่าตัดไส้ติ่งแตก
      ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ท่านได้มีอาการปวดท้องรุนแรง จึงเข้าตรวจรับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลอุบลรักษ์ธนบุรี จังหวัดอุบลราชธานี แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในช่องท้อง จึงทำการผ่าตัดและพักรักษาตัวจนหายเป็นปกติ
      ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่านได้เกิดมีอาการพร่ามัวที่นัยน์ตาข้างขวา จึงเดินทางเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยว่า เส้นเลือดโป่งพองในตา แพทย์จึงให้ยาฉันรักษาตามอาการ และเป็นปกติ
      ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ท่านได้เข้าพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องรุนแรงอีกครั้งที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และทำการผ่าตัดเป็นครั้งที่ ๓ นอนพักรักษาตัว จนเป็นปกติ
      ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ท่านได้มีอาการปวดที่ลูกอัณฑะ จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ๕๐ พรรษา แพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัย เป็นไส้เลื่อน จึงทำการผ่าตัด และนอนพักรักษาตัว
      ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ท่านได้มีอาการปวดที่ช่องท้องอย่างรุนแรงอีกครั้ง และเข้ารับการตรวจท่านได้พักรักษาตัวที่วัดอุดมธัญญาวาสมาตลอดพรรษา
      เมื่อวันที่ ๕ เดือนพฤศจิกายน พ.ศปี พ.ศ. ๒๕๖๕ อาการของท่านก็ไม่ดีขึ้น และทรุดลงตามลำดับ ไม่มียาจะทำการรักษาจึงให้ท่านเข้ารับการรักษาเร่งด่วน โดยใช้เคมีบำบัด จนครบตามแพทย์กำหนดรักษา ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยว่าท่านเป็นโรคมะเร็ง
      ๒๕๖๕ เวลา ๐๓.๒๖ น. ท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ ๖๖ ปี พรรษา ๔๑