


ความเป็นมา
วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๑๖ ถนนเจริญเมือง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของศาลากลางจังหวัด เป็นวัดที่เกิดจากการรวมตัว ๒ วัด คือ วัดพระบาทกับวัดมิ่งเมือง เป็นวัดพระบาทมิ่งเมือง ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้ยกฐานะจากวัดราษฎร์ให้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สมัยครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดเวไนยสัตว์ ได้เสด็จลงมายังเมืองพลนครหรือยอดดอยโกสิยะ ( พระธาตุช่อแฮ) และได้มาประทับพักพระอิริยาบถ ณ ปากถ้ำพญานาคซึ่งมีลมออกจากปากถ้ำแรงจากนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จประทับรอยพระพุทธบาท ปิดปากถ้ำไว้เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่พุทธศาสนิกชนที่มา ณ สถานแห่งนี้ และถ้ำแห่งนี้มีโพลงลึกเข้าไปถึงพระธาตุซ่อแฮ สถานที่ดังกล่าวก็คือ วัดพระพุทธบาท ต่อมาเจ้ามหาอุปราชได้สร้างพระวิหาร ครอบรอยพระพุทธบาท ๔ รอย จากนั้นปากถ้ำก็ถูกปิดทันทีเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงนมัสการ
รอยพระพุทธบาทสี่รอย ณ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นรอยพระพุทธบาท ที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ของจังหวัดแพร่

พระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแพร่
พระประธานภายในอุโบสถ

การรวมตัววัดพระบาท กับวัดมิ่งเมือง เป็นวัดพระบาทมิ่งเมือง
ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๙๐ วัดพระบาท กับวัดมิ่งเมือง อยู่ห่างกันเพียงมีตรอกคั่น เจ้าอาวาสทั้ง ๒ วัดได้ปรึกษากับเจ้าตุ่น วังซ้าย ซึ่งเป็นศรัทธาต้น ( ศรัทธาเก๊า ) ของวัดมิ่งเมืองว่าจะจัดงานกิ๋นสลากที่วัดมิ่งเมือง แต่วัดมิ่งเมืองคับแคบ จึงได้ตกลงที่จะทุบกำแพงรวมวัดทั้งสองเข้าด้วยกัน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ พระปริยัติวงศาจารย์ ได้ทำหนังสือขออนุญาตสังฆมนตรี ให้รวมวัด ให้รวมวัดพระบาทกับวัดมิ่งเมืองเป็นวัดเดียวกัน เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศรวมวัดพระบาทกับวัดมิ่งเมืองเข้าด้วยกัน เป็นวัดพระบาทมิ่งเมือง มีฐานะเป็นวัดราษฎร์
อุโบสถ




พระพุทธรูปภายในศาลาการเปรียญ

ศาลาพุทธสถาน


พระพุทธรูปภายในหอคำสูงเฉลิมพระเกียรติ ร.๙



หอคำสูงเฉลิมพระเกียรติ ร.๙




พระพิฆเนศ

หอระฆัง


วิหารรอยพระบาท

ประวัติรอยพระพุทธบาท
สมัยครั้งพระพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดเวไนยสัตว์แล้วได้เสด็จลงมายังเมืองพลนครหรือนครพล และได้มาประทับพักพระอิริยาบถ ณ ปากถ้ำพญานาคซึ่งมีลมออกจากปากถ้ำแรง จากนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ปากถ้ำสถานที่ดังกล่าวก็คือ วัดพระพุทธบาทต่อมาเจ้ามหาอุปราช ได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาท ๔ รอย จากนั้นปากถ้ำก็ถูกปิดทันที
ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ พระยาบุรีรัตน์ ( หนู มหายศปัญญา ) หรือเจ้าบุรีรัตน์ได้สร้างวิหารพระบาทต่อมาเนื่องจากวิหารพระพุทธบาทหลังเดิมชำรุดตามธรรมชาติที่สร้างมานาน ทางวัดจึงรื้อแล้วสร้างเป็นรูปมณฑปหลังคาเทคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ สำเร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖

วิหาร


พระวิหารมหาโพธิวงศาจารยานุสรณ์



พระธาตุมิ่งเมือง

ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ
พระบรมสารีริกธาตุ หลวงพ่อพระพุทธโกศัยสิริชัยมหาศากยมุนี ( พระคู่บ้านคู่เมืองแพร่ ) หลวงพ่อพระพุทธมิ่งขวัญเมือง พระเจดีย์มิ่งเมืองและมณฑปรอยพระพุทธบาท เป็นต้น

พระราชเขมากร (ประยุทธ ภูริทตฺโต)
เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร พระอารามหลวง

รายนามเจ้าอาวาสวัดพระบาทเท่าที่สืบได้ มี ๖ รูป คือ
- พระครูพุทธวงศาจารย์ ( ทองคำ พุทฺธวํโส ) พ.ศ. ๒๔๑๐ – พ.ศ. ๒๔๕๕
- พระปลัดคันธะ คนฺธวิชโย พ.ศ. ๒๔๕๕ – พ.ศ. ๒๔๖๔
- พระอธิการคำลือ กญฺจโน พ.ศ. ๒๔๖๔ – พ.ศ. ๒๔๗๔
- พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ( ฟู อตฺตสิโว ) พ.ศ. ๒๔๗๔ – พ.ศ. ๒๔๙๒
- หลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสารมหาเถร) พ.ศ. ๒๔๙๓ – ๒๕๕๔
- พระราชเขมากร (ประยุทธ ภูริทตฺโต) พ.ศ. ๒๕๕๕ – ปัจจุบัน

โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา




กุฏิเจ้าอาวาส





