

บ้านหนองสิม ม.๗ ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ๓๔๑๓๐
พระประธานภายในศาลาการเปรียญ

ความเป็นมาของการตั้งหมู่บ้าน
เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๐ โดยมีครอบครัวของนายผิว วามะชาติ และครอบครัวนายใหม่ สีมาฤทธิ์ได้ออกมาตั้งถิ่นฐานเพื่อประกอบอาชีพทำการเกษตรกรรมและต่อมาก็ได้มีหลายๆครอบครัวได้ตามาโดยอาศัยปลูกบ้านตามหัวไร่ปลายนาของตนจนกลายเป็นหมู่บ้าน ซึ่งตอนนั้นยังได้สั่งหัดเป็นหมู่บ้านของบ้านทม ม.๓ ตำบลคอนสาย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี(เดิม) ซึ่งตอนนี้กลายเป็น ม.๕ ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี และก็ยังมีจำนวนครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ จึงได้ขอแยกหมู่บ้านออกจากบ้านทม เพื่อก่อตั้งเป็นหมู่บ้านของตนเองอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ๒๕๒๖ โดยมีนายภนอม เจียงคำ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกกในชื่อหมู่บ้านว่า บ้านนาหนองสิม หมู่ที่ ๑๖ ตำบลคอนสาย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี โดยตั้งชื่อตามบ่อน้ำโบราณที่น้ำสิมอยู่กลางน้ำ(อุโบสถกลางน้ำ) ของชุมชนบ้านเก่า(ปัจจุบันไม่มีหมู่บ้านนั้นแล้ว) เนื่องจากการย้ายหมู่บ้านของชุมชนโบราณ และบ้านนาหนองสิมในคราวต่อมา ร่วมกับ ๙ หมู่บ้านได้ขอแยกตำบลใหม่ ตามความเปลี่ยนแปลงของระบอบการปกครอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ในสมัยที่นายวิน ไหลหลั่ง เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่ ๒ และมีนายบุญเติมคำแก้วเป็นกำนันคนแรกของตำบลบ้านแดง จึงกลายเป็นบ้านนาหนองสิม ม.๗ ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี จนถึงปัจจุบัน และมีผู้ใหญ่บ้านทำการปกครองคนที่ ๓ ชื่อ นายคง สีมาฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านคนที่ ๔ ชื่อนายสำเนียง พิทักษา คนที่ ๕ ชื่อนายบัวสี บำเพ็ญ คนที่๖ ชื่อนายทวี ทิลาธรรม และปัจจุบันคนที่ ๗ ชื่อนายอำคา สมานมิตร
(ข้อมูลวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๘)


ประวัติการตั้งวัด
วัดบ้านโนนหนองสิม ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ ๙๐ หมู่ ๗ บ้านนาหนองสิม ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ๓๔๑๓๐
โดยความเป็นมาก่อนการตั้งวัดที่อยู๋ปัจจุบันได้เคยมีสิมกลางน้ำ(อุโบสถกลางน้ำ) ของชุมชนโบราณได้มีปรากฎอยู่แล้ว ก่อนตั้งชุมชนบ้านนาหนองสิมซึ่งปรากฎให้เห็นเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ปรากฎให้เห็น คือ มีเสาโบราณปักเขตเป็นเขตวิสุงคามสีมอยู่กลางบ่อน้ำขนาดใหญ่(ซึ่งเป็นที่ทำสังฆกรรมในการบวชพระภิกษุในสมัยก่อน) ซึ่งปัจจุบัน สถานที่แห่งนั้นได้อยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยถ้ำแข้ ของกรมชลประทานและก็ได้มีการกักเก็บน้ำทำให้น้ำท่วมอยู่ในระกับน้ำลึกพอประมาณ แต่จะเห็นปรากฎได้ในฤดูแล้งของบางปีที่ระน้ำลดลงมากๆ จึงเห็นได้และสิ่งนี้ยังได้นำไปตั้งชื่อหมู่บ้านปัจจุบัน เป็นบ้านนาหนองสิม เพื่อเตือนความทรงจำของลูกหลานสืบไป
ศาลาการเปรียญ

สถานที่ตั้งวัดในปัจจุบัน
โดยประมาณเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ นางหมิง เรียงคำ พร้อมครอบครัว ได้มอบถวานที่ดินให้เป้นธรณีสงฆ์เพื่อตั้งวัดแห่งใหม่ในเนื้อที่ ๓ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา โดยมีหลวงปู่ใหม่ สีมาฤทธิได้เข้ามาตั้งเป็นที่พักสงฆ์เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามากราบไหว้บูชา ประกอบพิธีทางศาลาสนาและเป้นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่ยึดเหกนี่ยวจิตใจ และชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างกุฏิสงฆ์และหอฉันสำหรับภิกษุสงฆ์ตั้งแต่นั้นเป้นต้นมา และต่อมาได้มีพระภิกษุ สามเณร ได้เข้ามาจำพรรษาต่อเนื่องมาโดยตลอด จนมาถึงประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๐ พระภิกษุสงฆ์พร้อมด้วยชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนได้ร่วมใจกันสร้างศาลาการเปรียญหลังแรกขึ้นมาและได้สร้างสำเร็จในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ด้วยศรัทธาของชาวบ้านในชุมชนมและเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๐ ซึ่งในขณะนั้นพระอธิการโสภณ ปสันโน เป็นประธานที่พักสงฆ์ พร้อมด้วยชาวบ้านในชุมชนได้มีศรัทธา จัดหาระดมทุนจากการทำผ้าป่าสามัคคี เพื่อก่อสร้างศาลาหลังที่ ๒ โดยใช้เวลาหาทนก่อสร้างจนสำเร็จใช้ระยะเวลา ๖ ปี โดยใช้งบประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท และต่อมาได้ศรัทธาของนายคง สีมาฤทธิ(ผู้ล่วงลับ) ได้มอบไว้ก่อนตายให้นางคำขาน สีมาฤทธิและบุตรธิดาให้มอบถวายที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์เพิ่มจำนวนเนื้อที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ๒๘ ตารางวา พร้อมฉโนด ต่อมาก็ได้มีการก่อสร้าง หอกลอง หอระฆัง พร้อมศาลาประชารัฐตามลำดับ



ซึ่งในขณะนั้น อดีตพระฮาน พรชัยประธานภายในที่พักสงฆ์ในขณะนั้น ก็ได้ระดมทุนจากญาติะรรมเพื่อทำการก่อสร้าง ซุ้มประตูโขงทางด้านทิศตะวันออก ๑ หลังปละได้ซื้อที่ดินทางด้านทิศตะวันตกเพิ่มจำนวนเนื้อที่ ๑ งานรวมที่ดินทั้งหมดของวัดโนนหนองสิมมีเนื้อที่ทั้งหมด ๖ ไร่ เศษ และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๓ ด้วยสำนักพุทธศาศาสนาแห่งชาติได้ประกาศตั้งวัดบ้านโนนหนองสิม ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานีเป็นวัดในพุทธศาสนาตามประกาศลงวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ ยังไม่มีเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งทันทีมิได้ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ ๔ วรรค ๑ แห่งกฎมหาเถระสมาคม ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ แต่งตั้งให้พระครรธิต ฉายากิตติวณฺโณ เผ็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านโนนหนองสิม เมื่อวันที่ ๑๑ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ และต่อมาอาศัยอำนาจตามความใน ข้อ๗ แห่งกฎมหาเถระสมาคม ฉบับที่ ๑๘ พ.ศ.๒๕๖๓ ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอนไวยาจักรวัดโดยการอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอได้แต่งตั้งให้นายอำคา สมานมิตร นายฮวน พรชัย แะนายสุวิทย์ โชคน้อย จำนวน ๓ คน เป็นไวยาจักรวัดบ้านโนนหนองสิมและต่อมาเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ จึงได้รับหนังสือรับรองสภาพวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ข้อมูลเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
หอกลอง หอโปง


พระครรธิต กิตฺติวณฺโท
เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนหนองสิม

สถานะเดิม
ชื่อ ครรธิต นามสกุล เจียงคำ
วิทยฐานะ ป.๖ อาชีพ ทำนา
เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย
สัณฐาน สันทัด สีเนื้อ ดำแดง
ตำหนิ ลายสักที่แขนข้างขวา
บิดา นายถนอม มารดา นางเสถียร
เกิดวันจันทร์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือนสิงหาคม ปีมะเส็ง
บ้านเลขที่ ๗ หมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
อุปสมบท
ชื่อ พระครรธิต ฉายา กิตฺตวณฺโณ
พระอุปัชฌาย์ พระสุธรรมโฆสิต
พระกรรมวาจาจารย์ พระธีรราช จกฺกลโร
พระอนุสาวนาจารย์ พระอธิการรติพงษ์ ปภากโร
อุปสมบทเมื่ออายุ ๔๔ ปี ณ วันที่ ๖ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
เวลา ๐๔.๒๑ น. วัดมะลิวัลย์ ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
ให้ ณ วันที่ ๓๐ เดือนเมษยน พ.ศ. ๒๕๖๖
ซุ้มประตู


ศาลาอเนกประสงค์

