

วัดโศภนาลัย รหัสวัด ๐๓๕๔๐๑๑๕๐๐๔ ตั้งอยู่ที่ บ้านนาแหลมใต้ เลขที่ ๑๒๙ หมู่ที่ ๒ ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ ๐๘ ๔๔๘๔ ๘๗๖๓ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
พระประธานภายในอุโบสถ




ความเป็นมาของวัด วัดโศภนาลัย ตั้งวัดเมื่อพ.ศ.๒๔๗๕ แต่เดิมมีชื่อว่า วัดหลวงพลูสร้อย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๙ หมู่ที่ ๒ ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๒ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ มีเนื้อที่ของวัดตามโฉนดเลขที่ ๖๓๑๑๒ เล่มที่ ๖๓๒ หน้า ๑๒ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่จำนวน ๒ ไร่ ๓ งาน ๙๓ ตารางวา และที่ธรณีสงฆ์ ๒ แห่งคือ แห่งแรก ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๓๗๓๒ เล่มที่ ๖๓๘ หน้า ๓๒ (ปัจจุบันสถานีอนามัยตำบลทุ่งกวาว ขออนุญาตสร้าง) และแห่งที่ สอง ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๓๖๘๔ เล่ม ๖๓๗ หน้า ๘๔ (เป็นสถานที่ทำการของกลุ่มพัฒนาสตรีแม่บ้าน) ซึ่งทางวัดอนุญาตให้สร้างเพื่อใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ) โดยมีเจ้าอาวาสเท่าที่สืบถามจากท่านผู้รู้ทั้งหลาย ต่อมาประมวลเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามที่สร้างวัดขึ้นมา คือ ครูบาปินใจ ครูบาอภิชัย พระครูกองแก้ว ปญฺญาพโล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๘๔ จนถึง วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๐ จากนั้น พระมหาประเสริฐ ธีรปญฺโญ เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2541 ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ราชทินนามที่ "พระครูพิบูลพัฒนโกศล" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๔ พร้อมกันนี้ ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสชั้นโทเป็นชั้นเอก เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ในปี พ.ศ.๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูเทียบผู้ช่วย เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่ มีถาวรวัตถุภายในวัด คือ อุโบสถ 1 หลัง สร้างเมื่อพ.ศ.2520 ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ กุฎิหลังเก่า สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ กุฎิหลังใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓ ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ โดยทำการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ และในปี ๒๕๕๔ ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาบำเพ็ญบุญขึ้นอีก ๑ หลัง ลักษณะทรงไทย ๒ ชั้น หลังคาทำด้วยโครงเหล็ก หลังคามุงด้วยกระเบื้องซีแพค มีขนาดความกว้าง ๙ เมตร ความยาว ๒๘ เมตร และวัดโศภนาลัยได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลทุ่งกวาว เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๒
อุโบสถ





อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ถนนสายนาแหลม-เหมืองหม้อ
ทิศใต้ ห้วยแม่แคม
ทิศตะวันออก ทางสาธารณประโยชน์
ทิศตะวันตก ถนนสายนาแหลม-เหมืองหม้อ ซอย ๕
เอกสารสิทธิ์ที่ดิน
ที่ดินที่ตั้งวัด เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๓๑๑๒ เนื้อที่ ๒ ไร่ ๓ งาน ๙๓.๕๐ ตารางวา
ประเภทวัด
พัทธสีมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๔ เขตวิสุงคามสีมา ความกว้าง ๒๐ เมตร ความยาว ๔๐ เมตร
ที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๒ แปลง เนื้อที่รวม ๑ ไร่ ๒ งาน ๓๑.๗๐ ตารางวา ได้แก่
โฉนดที่ดินเลขที่ ๖๓๗๓๒ มีเนื้อที่ ๑ ไร่ ๑ งาน ๔๙ ตารางวา (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสถานีอนามัยตำบลทุ่งกวาว
โฉนดที่ดินเลขที่ ๖๓๖๘๔ มีเนื้อที่ ๐ ไร่ ๐ งาน ๘๒.๗๐ ตารางวา (เป็นสถานที่ทำการของกลุ่มพัฒนาสตรีแม่บ้าน)
ปูชนียวัตถุ
- พระประธานประจำอุโบสถ ปางสมาธิ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๓๐ นิ้ว สูง ๔๙ นิ้ว สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๔
- พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางสมาธิ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๒ นิ้ว สูง ๑๒ นิ้ว สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๕๔๐
ถาวรวัตถุภายในวัด อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๔ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๖ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญบุญ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฎิสงฆ์ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๙ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฎิสงฆ์ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้ มีหอระฆัง จำนวน ๑ หลัง ห้องน้ำ จำนวน ๓ แห่ง การศึกษา - เป็นสำนักศาสนศึกษาวัดโศภนาลัย ได้รับแต่งตั้งเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๖๑ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา - เป็นหน่วยอบรมประขาชนประจำตำบลทุ่งกวาว ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ - เป็นวัดที่มีการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล ๕
เจดีย์ ๙ ก้อน



พระเจ้าทันใจ
พระพุทธรูปภายในศาลาการเปรียญ


ศาลาการเปรียญ



หอระฆัง


ศาลาบำเพ็ญบุญ


ลำดับเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
รูปที่ ๑ ครูบาปินใจ
รูปที่ ๒ ครูบาอภิชัย
รูปที่ ๓ พระครูกองแก้ว ปญฺญาพโล ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๔ - พ.ศ.๒๕๔๐
รูปปัจจุบัน พระครูพิบูลพัฒนโกศล ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๑ จนถึงปัจจุบัน
รูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส

พระครูพิบูลพัฒนโกศล
เจ้าอาวาสวัดโศภนาลัย เจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่
พระครูพิบูลพัฒนโกศล (ประเสริฐ ฟุ่มเฟือย ป.ธ.๕, น.ธ.เอก,พธ.บ.,ศน.ม ) ฉายา ธีรปญฺโญ อายุ ๕๑ พรรษา ๒๙
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดโศภนาลัย เจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่

สถานะเดิม ประเสริฐ นามสกุล ฟุ่มเฟือย ณ บ้านเลขที่ ๗ หมู่ที่ ๕ ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
วันเดือนปีเกิด เกิดวัน ๗ ฯ๕ ๑ ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๙ บิดา นายสมบูรณ์ ฟุ่มเฟือย มารดา นางหลวน ฟุ่มเฟือย
อุปสมบท วัน ๑ฯ๗๘ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๙ เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ณ พัทธสีมาวัดเหมืองค่า ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พระอุปัชฌาย์ พระครูสิทธิธรรมโกวิท วัดเหมืองหม้อ ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
วิทยฐานะ
- พ.ศ.๒๕๒๗ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จาก โรงเรียนนารีรัตน์ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๓๖ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนคณะจังหวัดแพร่ จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๐ สอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค จากสำนักเรียนคณะจังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๗ สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๗ สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู (ป.วค.) รุ่นที่ ๕ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๙ สำเร็จการศึกษาศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา
- พ.ศ.๒๕๕๒ สอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค จากสำนักเรียนคณะจังหวัดแพร่
- การศึกษาพิเศษ สามารถอ่านเขียนภาษาพื้นเมืองได้
- ความชำนาญการ ด้านพิมพ์ดีด คอมพิวเตอร์
การปกครอง
- พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นพระคู่สวดกรรมวาจาจารย์สังฆกรรม
- พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโศภนาลัย ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดโศภนาลัย ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นพระวินยาธิการจังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นคณะกรรมการฝ่ายการปกครอง ตามมติคณะสงฆ์จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่
- พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นคณะกรรมการดำเนินการอบรมผู้เข้าสอบ พระอุปัชฌาย์และพระกรรมวาจารย์
- พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นคณะกรรมการโครงการพระช่วยพระของคณะสงฆ์จังหวัดแพร่
- พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่

การศึกษา
– พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สำนักศาสนศึกษาวัดเหมืองหม้อ
– พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สำนักศาสนศึกษาวัดทุ่งกวาว
– พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวงชั้นตรี
– พ.ศ.๒๕๔๕ เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน บ้านนาแหลม (กองแก้วราษฏร์อุปถัมภ์)
– พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน รัฐราษฏร์บำรุง
– พ.ศ.๒๕๔๗ เป็นพระปริยัตินิเทศก์จังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
– พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนประจำวิทยาเขตแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นอาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นคณะกรรมการอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวง คณะสงฆ์ภาค ๖
– พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นคณะกรรมการประจำวิทยาลัยสงฆ์แพร่
– พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นผู้ประสานงานโครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ประจำวิทยาเขตแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นคณะกรรมการพัฒนามหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา จังหวัดแพร่
การเผยแผ่
– พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นรองประธานกรรมการหน่วยอบรมประชาชน ประจำตำบลทุ่งกวาว
– พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นพระเปรียญอาสาพัฒนาประจำจังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นพระธรรมฑูตเฉพาะกิจจังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำ ตำบลทุ่งกวาว
– พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นนักเผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นพระวิทยากรอบรมศีลธรรมแก่ประชาชน
– พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตามมติมหาเถรสมาคม
– พ.ศ.๒๕๕๕ เป็นกรรมการมูลนิธิคณะสงฆ์อำเภอเมืองแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๕ เป็นคณะกรรมการบริหารงานสถานีวิทยุ พระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่
– พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย

ผลงานและเกียรติบัตรที่ได้รับ
- พ.ศ.๒๕๔๘ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากองค์การบริหารส่วน จังหวัดแพร่ ในฐานะเป็นผู้ให้ความอนุเคราะห์วัตถุโบราณแก่พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่
- วันที่ ๒๕ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก คณะสงฆ์จังหวัดแพร่ เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๐ ด้านศึกษาสงเคราะห์
- พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับประกาศเกียรติคุณจากจังหวัดแพร่ เป็นคนดีศรีเมืองแพร่ ส่งเสริมประชาธิปไตย
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับอนุโมทนาบัตรจากคณะสงฆ์ ภาค ๖ เป็นผู้ให้การสนับสนุนการอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวง ประจำปี ๒๕๕๓
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับวุฒิบัตรจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ผ่านโครงการอบรมภาคปฏิบัติการทำยาสมุนไพร
- วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแพร่ แห่งที่ ๒ วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นวิทยากรอบรมหลักสูตรศาสนศึกษาระยะสั้นของกรมการศาสนา
- วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับประกาศเกียรติคุณจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นรางวัลพุทธคุณูปการ รัชตเกียรติคุณ
- วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ผ่านการอบรมหลักสูตร พระสงฆ์ผู้นำการพัฒนาสังคมไทยที่ยั่งยืน
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับอนุโมทนาบัตรจากคณะสงฆ์ภาค ๖ เป็นผู้ให้การสนับสนุนการอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวง ประจำปี ๒๕๕๔
- วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับประกาศเกียรติคุณจากสำนัก ศาสนศึกษาวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ได้ให้การสนับสนุนและอุปถัมภ์สำนัก ศาสนศึกษา
- วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ เป็นผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับอนุโมทนาบัตรจาก วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้บริจาคทรัพย์ในการออกบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ เป็นผู้ประสานงานโครงการ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ประจำวิทยาเขตแพร่
- วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับเกียรติบัตรจากคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ เป็นผู้ให้การสนับสนุนถวายจอคอมพิวเตอร์ประจำห้องประชุมสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ เป็นคณะกรรมการพัฒนามหาวิทยาลัย ตัวแทนภาคคณะสงฆ์
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับวุฒิบัตรจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ผ่านการอบรมพระปริยัตินิเทศต้นแบบ
- วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับอนุโมทนาบัตรจากโรงเรียน รัฐราษฎร์บำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต ๑ ได้บริจาคทุนทรัพย์ในการพัฒนาการศึกษา
- วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต ๑ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนรัฐราษฏร์บำรุง
- วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต ๑ ได้เป็นกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนรัฐราษฏร์บำรุง
- วันที่ ๒๓ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับเกียรติบัตรจากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ เป็นผู้เข้าร่วมสัมมนาพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ประจำวิทยาเขตแพร่
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับเกียรติบัตรจากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้บริจาคทรัพย์ในการออกบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
- วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับเกียรติบัตรจากคณะสงฆ์ภาค ๖ เป็นผู้ได้สนับสนุนการประชุมสัมมนาพระอุปัชฌาย์และประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๖
- วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๕
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับอนุโมทนาบัตรจาก วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้บริจาคทรัพย์ในการออกบำเพ็ญกุศล พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์
- วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับอนุโมทนาบัตรจาก วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้บริจาคทรัพย์ในการออกบำเพ็ญกุศลพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับอนุโมทนาบัตรจากคณะสงฆ์ภาค ๖ เป็นผู้ให้การสนับสนุนการอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวง ประจำปี ๒๕๕๖
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา
- วันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับเกียรติบัตรจากคณะสงฆ์ภาค ๖ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับเกียรติบัตรจากโรงเรียน พุทธโกศัยวิทยา วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้ได้สนับสนุนส่งเสริมงานทำบุญตั้งธรรมหลวงเทศน์มหาชาติ ฉลองพระชันษา ๑๐๐ ปี
- วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ ได้รับอนุโมทนาบัตรจากคณะสงฆ์ ภาค ๖ เป็นผู้ให้การสนับสนุนการอบรมบาลีสนามหลวงประจำปี ๒๕๕๗
สมณศักดิ์
- พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ ชั้นโท ราชทินนามที่ “พระครูพิบูลพัฒนโกศล ”
- พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
- พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นพระครูสัญญาบัตร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
- พ.ศ.๒๕๕๗ เป็นพระครูสัญญาบัตร เทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ
- พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ
สำนักงานเจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่


ซุ้มประตู




กุฏิเจ้าอาวาส เจ้าคณะอำเภอเมืองแพร่

กุฏิสงฆ์

งานสลากวัดโศภนาลัย




วัดพระธาตุเจดีย์
วัดโสภณาลัย(ร้าง)
วัดพระธาตุเจดีย์เป็นวัดเก่าแก่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาชาวบ้านมักจะเรียกว่า "วัดพระธาตุ"ไม่ปรากฏหลักฐานว่า สร้างโดยใคร สร้างในสมัยใด จากศิลปะอันโดดเด่นของเจดีย์เชื่อว่าผู้สร้างน่าจะเป็นบุคคลสำคัญและตั้งอยู่ในชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง ในบริเวณใกล้เคียงยังปรากฏหลักฐานซากของวัดเก่าแก่อีก ๒ วัดคือ "วัดป่าสูง" และ "วัดผก๋าเสนโต"
จากการสืบเสาะค้นคว้าของพระราชวิสุทธี(ตุ๊ปู่ก๋วน), คณะเถราจารย์, กลุ่มอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมชุมชนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ล้านช้าง, ล้านนา, หริภุญชัยพบว่าเป็นพระธาตุเจดีย์เหลี่ยมทรงปราสาทศิลปะ "ล้านช้างผสมหริภุญชัย" เป็นสถาปัตยกรรมที่ใกล้เคียงกับ "พระธาตุอิงฮัง" ที่เมืองสะหวันเขต สปป.ลาว จึงสันนิษฐานว่าวัดพระธาตุเจดีย์มีอายุมากกว่า ๙๐๐ ปี เป็นลักษณะเจดีย์ที่ค้นพบเพียงองค์เดียวในประเทศไทย

ภายในบริเวณวัดมี "พระธาตุเจดีย์" และ "โบสถ์มหาอุด" ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นสถานที่ที่ทหารทำพิธีศาสตราคมก่อนออกรบและพิธีปลุกเสกเครื่องลางของขลัง
ปี พ.ศ.๒๕๓๐ พระราชวิสุทธี(ตุ๊ปู่ก๋วน), คณะเถราจารย์และคณะศรัทธาร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์และหลังคาโบสถ์ที่ผุพัง
ปัจจุบันมีการสืบสานพิธีเข้ากรรมรุกขมูลหลักสูตรธุดงควัตร เป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๔ (เหนือ) ของทุกปี


วัดโสภณาลัย หรือ วัดพระธาตุเจดีย์ (ร้าง) ตั้งอยู่ที่บ้านนาแหลม หมู่ที่ ๖ ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ภายในวัดมีโบราณสถานสำคัญ คือ อุโบสถที่สร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและเจดีย์ทรงปราสาทยอดอยู่ด้านหลังอุโบสถ


เจดีย์ทรงปราสาทยอด ประกอบด้วยชุดฐานเขียงสี่เหลี่ยมรองรับเรือนธาตุในผังสี่เหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกันสามชั้นแต่ละชั้นมีซุ้มจระนำด้านละหนึ่งซุ้ม เสาซุ้มจระนำและมุมเรือนธาตุประดับด้วยลายกาบบน-ล่างและประจำยามอกบัวคว่ำบัวหงายของเสาซุ้มจระนำทำเป็นปากแลแบบศิลปะล้านช้าง เหมือนกับพระธาตุเนื้อ วัดพระหลวง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เหนือเรือนธาตุที่รูปแบบเดิมน่าจะมีต้นแบบมาจากเจลีย์กู่กุดวัดจามเทวี จังหวัดลำพูน แต่ส่วนยอดเจดีย์องค์นี้น่าจะมีการบูรณะในภายหลังเป็นทรงระฆังและปล้องไฉนในผังสี่เหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกัน ส่วนบนสุดเป็นทรงกลมลดหลั่นกันคล้ายปล้องไฉนอีกชุดหนึ่งและปลี

อุโบสถ เป็นอุโบสถขนาดเล็กกอด้วยอิฐ เครื่องบนเป็นไม้ หลังคาเดิมมุงด้วยกระเบื้องดินเผา อุโบสถไม่มีเสาคู่กลาง แต่ใช้เทคนิคการถ่ายน้ำหลังเครื่องบนลงผนังที่ค่อนข้างหนา อุโบสถเดิมเป็นอุโบสถที่เรียกกันว่า "มหาอุด" คือเป็นอุโบสถที่มีผนังทึบต้นรอบด้าน ไม่มีช่องหน้าต่าง มีช่องประตูทางเข้าด้านหน้าเพียงซองเดียว ต่อมาจึงมีการเจาะช่องหน้าต่างขนาดเล็กที่ผนังด้านข้างข้างละหนึ่งช่อง

จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์เจดีย์และผลจากการขุดคัน-ขุดตรวจโดยกรมศิลปากรเมื่อพ.ศ.๒๕๖๔ พบโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ คือเศษภาชนะดินเผาเนื้อกระเบื้องสมัยราชวงศ์หมิง และชิ้นส่วนสันกระเบื้องดินเผามุงหลังคามีจารึกด้วยอักษรไทยนิเทศและตัวเลขโหรา ความว่า "ศักราช ๑๐๖๓ ตัว" หรือ พ.ศ.๒๑๔๔ จึงสันนิษฐานว่าวัดโสภณาลัย หรือ วัดพระธาตุเจดีย์ (ร้าง) สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศิลปะล้านช้างเริ่มเข้ามาใน ล้านนาในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จากนั้นมีการบูรณะทั้งเจดีย์และอุโบสถอีกครั้งหนึ่งในพุทธศตวรรษที่ ๒๔
