

ข้อมูลพื้นฐาน
วัดทุ่งโห้งเหนือ รหัสวัด ๐๓๕๔๐๑๐๕๐๐๒ ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งโฮ้ง เลขที่ ๙๐ หมู่ที่ ๕ ตำบล ทุ่งโฮ้ง อำเภอ เมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ ๐๘๒-๓๘๑-๗๓๔๑ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ความเป็นมาของวัด
วัดทุ่งโห้งเหนือ ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๒๗๒ วัดทุ่งโห้งเหนือ ที่ชาวพวนบ้านทุ่งโฮ้งเรียกขานกันมานาน ด้วยภาษาและวัฒนธรรมอันเรียบง่าย พระพุทธรูปปูนปั้น ที่สร้างขึ้นโดยศรัทธาของชาวพวนบ้านทุ่งโฮ้ง ร้อยกว่าปีมาแล้ว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย อิริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก)
พระหัตถ์ขวาวางบนพระชานุ (เข่า) นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี พระพักตร์ยิ้ม ใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยบารมี เดิมพระประธานมีเพียง ๑ องค์ ภายหลังมีผู้ศรัทธาสร้างถวายอีก ๓ องค์รวมเป็น ๔ องค์ ในฐานเดียวกันซึ่งหมายถึง พระพุทธเจ้าที่
อุบัติในภัทรกัลป์นี้ จำนวน ๔ องค์ เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารมีเล่าลือกันมามากมาย เช่น ในวันพระ
ที่พระจันทร์เพ็ญหรือเต็มดวง มักจะได้ยินเสียงสวดมนต์หรือไม่ก็เห็นลูกแก้วลอยออกจากพระอุโบสถ ลอยไปยัง
พระอุโบสถหลังเดิม (โรงเรียนทุ่งโฮ้งฯเดิม) บ้างก็เล่าว่ามีผู้พบเห็นชายชรารูปร่างสง่างามมีรัศมีเปล่งปลั่งนุ่งขาวห่มขาวเข้ามาหาหลวงพ่อแล้วก็หายไปตรงพระพักตร์ของพระพุทธรูปองค์นี้ และที่สำคัญชาวบ้านทั่วไปที่มากราบไหว้บูชาต่างประสบลาภผลในการทำมาหากิน และด้าน โชคลาภ และในยามที่จะต้องไปเผชิญโชค หรือมีปัญหาก็จะตั้งจิตอธิษฐานให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีซึ่งก็มักเป็นผล ชาวบ้านบางคนไปกราบขอพรมาได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็มีโชค แบบลาภลอย บ้างก็เชื่อกันว่า ผู้ใดได้กราบสักการบูชา ในภพนี้ นอกจากได้ในสมปรารถนาแล้ว แรงอธิฐานยังส่งผลเมื่อเกิดในภพหน้า จะเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความสุข มีใบหน้าที่งดงาม ผิวพรรณผ่องใส มีคนรักคนหลง ด้วยเพราะบารมีจากการกราบสักการะขอพรจากพระพุทธรูปนั่นเอง
ความเป็นมาชื่อบ้านกับชื่อวัดไม่เหมือนกัน เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๔ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฯพณฯ ท่านจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ได้ตัดตัวอักษรที่มีเสียงคล้ายกัน (ซ้ำกัน) ออกไป ๑๗ ตัว เหลือเพียง ๒๗ ตัว และสระอีก ๑ ตัว ฤ-รึ, ฦ-รือ, ฤา-ลึ, ฦา-ลือ ก็ถูกตัดไปหมด เมื่อ ฮ โดนตัดออกก็ใช้ตัว “ห” แทน ดังนั้น “โฮ้ง” ก็เลยมาเป็น “โห้ง” พอหมดยุคสมัยของท่าน ก็กลับมาใช้ตัวอักษรตามเดิม ส่วนบ้านหรือตำบลอยู่ในการปกครองของ กรมการปกครองได้เปลี่ยนเป็น “ฮ” ตามเดิม ส่วนวัดอยู่ในการปกครองของ “กรมศาสนา” ไม่มีใครเปลี่ยนเลยใช้ตัวอักษร “ห” มาจนถึงทุกวันนี้พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ จากการบอกเล่าสืบมาว่า บรรพชนของชาวทุ่งโฮ้งถูกกวาดต้อนจากเมืองเชียงขวางประเทศลาวสมัยพระยาชัยเจ้าเมืองแพร่ประมาณ พ.ศ.๒๓๔๐-๒๓๕๐ ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกกำแพงเมืองด้านเหนือใกล้ประตูยั้งม้าบริเวณบ้านหัวดง-บ้านใหม่ มีหลักฐานที่ยังปรากฏอยู่คือบ่อน้ำไทยพวนอยู่หน้าอุโบสถวัดสวรรคนิเวศและได้เคลื่อนย้ายไปตั้งหมู่บ้านใหม่บริเวณที่เป็นบ้านทุ่งโฮ้งใต้ในปัจจุบัน ประมาณ พ.ศ.๒๓๖๖-๒๓๘๐ มีกลุ่มไทยพวนกลุ่มใหม่อพยพเข้ามาและตั้งหมู่บ้าน ห่างจากหมู่บ้านเดิมปะมาณ ๒๐๐ เมตรเป็นบ้านทุ่งโฮ้งเหนือปัจจุบัน อาชีพในสมัยก่อนคือการตีเหล็กเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ซึ่งวัสดุที่ใช้รองรับการตี คือทั่ง ครั้นเมื่อถูกตีเป็นเครื่องตีเป็นประจำนานๆเข้าจึงเกิดการสึกลึกลงไปภาษาไทยพวน เรียกว่า มันโห้งลงไป จึงมีการเรียกว่า บ้านทั่งโฮ้ง และภายหลังเรียกเพี้ยนไปเป็น ทุ่งโฮ้งในปัจจุบัน ศาสนศิลป์ อุโบสถ ขนาดกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๓๒ เมตร ทรงล้านนาสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ ๒๕๐๙ หน้าบันตกแต่งด้วยการตัดกระจกสีเป็นลวดลาย เครือเถาว์เคล้าภาพพระพุทธเจ้า นก กินรี ซึ่งเป็นลักษณะการตกแต่งอันแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่ดำเนินการก่อสร้างคือพระครูวิบูลย์วริยวัตรอดีตเจ้าอาวาส พระพุทธรูปเดิมพระประธาน มีเพียง ๑ องค์ ปางมารวิชัยสร้างด้วยปูนปั้น ฝีมือช่างพื้นบ้านภายหลังมีผู้ศรัทธาสร้างถวายอีก ๓ องค์รวมเป็น ๔ องค์ ในฐานเดียวกันซึ่งหมายถึง พระพุทธเจ้าที่อุบัติในภัทรกัลป์นี้จำนวน ๔ องค์ อาคารจัดแสดงวิถีชีวิตในอดีต ภายในจัดแสดงวิถีชีวิต สิ่งของ เครื่องใช้ ในชีวิตประจำวันแต่ครั้งอดีต เช่น ที่ทอผ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องมือกสิกรรม"

พระบรมธาตุ




อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ทางหลวงสุขาภิบาล
ทิศใต้ ทางหลวงสุขาภิบาล
ทิศตะวันออก ทางหลวงสุขาภิบาล
ทิศตะวันตก ทางหลวงสุขาภิบาล
เอกสารสิทธิ์ที่ดิน
ที่ดินที่ตั้งวัด มีเนื้อที่ ๔ ไร่ ๑ งาน ๓๑ ตารางวา เป็นโฉนดที่ดิน (น.ส. ๔ จ) เลขที่ ๔๖๗๒๖
ประเภทวัด
พัทธสีมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๑
เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร
พระประธานภายในอุโบสถ

ที่ธรณีสงฆ์
มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๕ แปลง มีเนื้อที่รวม ๒ ไร่ ๒ งาน ๘๕.๒๐ ตารางวา ได้แก่
โฉนดเลขที่ ๒๗๕๓ มีเนื้อที่ ๐ ไร่ ๒ งาน ๗๖.๓๐ ตารางวา
โฉนดเลขที่ ๔๖๗๒๕ มีเนื้อที่ ๐ ไร่ ๑ งาน ๘๓ ตารางวา
โฉนดเลขที่ ๓๕๗๔๕ มีเนื้อที่ ๐ ไร่ ๑ งาน ๕๒.๖๐ ตารางวา
โฉนดเลขที่ ๓๗๕๒ มีเนื้อที่ ๐ ไร่ ๐ งาน ๔๖.๓๐ ตารางวา
น.ส.๓ ก เลขที่ ๑๖๙๗ มีเนื้อที่ ๑ ไร่ ๐ งาน ๒๗ ตารางวา
ถาวรวัตถุภายในวัด
อุโบสถ กว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๓๒ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙
ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๖.๗ เมตร
ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๒๑ เมตร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้
ศาลาบำเพ็ญกุศล กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑ หลัง
นอกจากนี้มี หอระฆัง/หอกลอง ๑ หลัง โรงครัว ๒ หลัง เรือนรับรอง ๑ หลัง
ปูชนียวัตถุ- พระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก กว้าง ๒ เมตร สูง ๓ เมตร
– พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก กว้าง ๒ เมตร สูง ๓ เมตร
อุโบสถ


พระพุทธรูปภายในศาลาการเปรียญ

ศาลาการเปรียญ


หอระฆัง

ลำดับเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
รูปที่ ๑ เจ้าหัวพ่อเฒ่าธรรมิกะ
รูปที่ ๒ พระคำมา
รูปที่ ๓ พระครูวิจารย์สิขกิจ
รูปที่ ๔ พระครูวิบูลวิริยวัตร ตั้งแต่ พ.ศ. - ถึง พ.ศ. ๒๕๓๒
รูปที่ ๕ พระอธิการแสวง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๘
รูปที่ ๖ พระอธิการจำเริญ กิตติวณฺโณ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๑
รูปที่ ๗ พระเฉลิมชัย เตชวโร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๖
รูปปัจจุบัน พระครูสมุห์ทรงพล กตปุญโญ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึง พ.ศ. ปัจจุบัน
พระครูสมุห์ทรงพล (กตปุญฺโญ)
เจ้าอาวาสวัดทุ่งโห้งเหนือ

ซุ้มประตู


พระสีวลี

หอพระอุปคุต



หอพระพุทธรูปทันใจ



โรงเรียนพระปริยัติ


อาคารเสนาสนะ





