
พญาเต่า

ประวัติของบ้านเหล่าบูด (ก่อนที่จะเกิดเป็นบ้านตับเต่า)
ความเป็นมาอันยาวไกล ความมีอยู่ว่า มีพ่อค้ากลุ่มหนึ่งได้ใช้เกวียนเป็นพาหนะเดินทางมาค้าขายตามหมู่บ้านต่างๆ พ่อค้าที่ว่าคือ ท้าวฝ้ายกับท้าวพรมหมา เป็นหัวหน้าได้เดินทางมาจากอำเภอหนองหาร จังหวัดสกลนคร เมื่อเดินทางมาค้าขายที่ยโสธรในสมัยนั้นได้มาพักที่ดอนป่าข้างลำห้วย ทุกครั้งที่เดินทางมา ท้าวฝ้ายกับท้าวพรหมมา จะเอาข้าวที่เหลือจากการรับประทานมาหมักเป็นสาโท แล้วก็เดินทางไปค้าขายต่อ แต่เมื่อถึงเวลากลับมาสาโทที่หมักไว้ได้เน่าเสียบูดกินไม่ได้ จึงได้ตั้งชื่อดอนแห่งนี้ว่า "ดอนเหล่าบูด" ตามชื่อสาโทบูด ต่อมาท้าวฝ้ายกับท้าวพรหมมา จึงได้พูดกันว่าเราควรอพยพมาอยู่ที่ดอนแห่งนี้ไหม ท้าวฝ้ายกับท้าวพรหมมา ก็ได้พากันย้ายจากอำเภอหนองหาร จังหวัดสกลนคร มาอยู่ ณ ป่าเหล่าบูดแห่งนี้ พอมาอยู่ลูกหลานก็ได้ย้ายมาอยู่ด้วย เพราะเห็นว่ามันอยู่ใกล้ลำห้วย ทำมาหากินก็สะดวก สบาย พอมาอยู่หลายหลังคาเรือน ก็เลยตั้งหมู่บ้าน โดยใช้ชื่อว่า "บ้านเหล่าบูด" อยู่หลายปีมีบ้านมากขึ้น ชาวบ้านเหล่าบูดจึงปรึกษาหารือกันเราควรมีวัดประจำหมู่บ้านของเรา เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้าน พอตกลงกันเสร็จเรียบร้อยชาวบ้านก็พากันสร้างวัดขึ้นชื่อว่า "วัดเหล่าบูด" ตามชื่อของหมู่บ้าน พอบ้านอุดมสมบูรณ์แล้ว ท้าวฝ้ายกับท้าวพรหมมาได้พากันมาทำไร่ ทำสวน ที่ป่าทิศตะวันตกของหมู่บ้านเหล่าบูด ซึ่งที่ตั้งของหมู่บ้านเหล่าบูดใน
อดีตนั้นปัจจุบันคือ บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลน้ำคำใหญ่ และสำนักงานแขวงทางหลวงชนบท (รพช.)


ประวัติบ้านตับเต่า
ท้าวฝ้ายกับท้าวพรมหมาได้ย้ายมาจากบ้านเหล่าบูด มาทำไร่ทำสวนที่ป่า ซึ่งที่ทำไร่ทำสวนนั้นอยู่ใกล้หนองน้ำพอดีและอยู่ริมหนองน้ำนั้น มีต้นไม้ชนิดหนึ่งอยู่ข้างหนองน้ำ ชาวบ้านเรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า “ต้นตับเต่า” ท้าวฝ้ายกับท้าวพรมหมาจึงตั้งชื่อหมู่บ้านแห้งนี้ว่า “บ้านตับเต่า” ตามชื่อของหนองน้ำและมีผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่ากันมาอีกเรื่องเกี่ยวกับหนองตับเต่า ซึ่งท่านกล่าวว่า มีนายพรานคนหนึ่งได้ไปล่าเนื้อเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งนายพรานล่าเนื้อไม่ได้ ได้แต่เต่า นายพรานเลยเอาเต่ามาฆ่าริมหนองน้ำนี้และได้นำเต่าไปล้างน้ำในหนองน้ำ ตับของเต่าหล่นลงในหนองน้ำหาไม่เจอ จึงได้ขนานนามว่า หนองตับเต่า แต่นั้นเป็นต้นมา พออยู่มาหลายปีหมู่บ้านตับเต่าก็เจริญขึ้นตามลำดับ อยู่มาหลายปีท้าวฝ้ายกับท้าวพรมหมาก็ได้หารือกันกับชาวบ้านตับเต่าเราควรสร้างวัดอีก เป็นวัดประจำหมู่บ้านตับเต่า ในการสร้างวัดตับเต่านั้นสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๒ ผู้ที่สร้างหมู่บ้านและวัดคือ ท้าวฝ้ายและท้าวพรหมมา นั้นเอง
พระประธานภายในอุโบสถ

สาเหตุที่บ้านเหล่าบูดร้าง
ต่อมาบ้านเหล่าบูดเกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่บ้านซึ่งชาวบ้านเรียกว่า โรคอีสุก โรคอีใส ฝี หนอง ผุ พองไม่มียารักษาโรคดังกล่าว ชาวบ้านเหล่าบูดจึงได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านตับเต่ากับญาติพี่น้อง แต่ในการเข้ามาอยู่นั้น โรคร้ายก็ติดตามเข้ามาด้วย ชาวบ้านตับเต่าก็ติดโรคนี้ไปด้วยไม่สามารถรักษาหาย ชาวบ้านตับเต่าจึงพากันออกจากบ้านตับเต่าไปอยู่ตามไร่ ตามนาของตน จึงเกิดเป็นหลายหมู่บ้านดังนี้
๑. บ้านหนองผือ
๒. บ้านโพนสิม
๓. บ้านโนนค้อ
๔. บ้านโพนขาว
๕. บ้านหนองนาผาย
การไปอยู่ที่ต่างๆ หลายหมู่บ้านนั้นหลายปีโรคร้ายจึงหมดไปทั้ง ๕ หมู่บ้านดังกล่าว จึงพากันกลับเข้ามารวมกันที่บ้านตับเต่าอีก ในครั้งนี้การเข้ามารวมกันทั้ง ๕ หมู่บ้าน บ้านตับเต่าก็เกิดเป็นหมู่บ้านใหญ่ ทางการจึงตั้งบ้านตับเต่าเป็นตำบลตับเต่า ซึ่งมีอานาเขต ดังนี้
๑. บ้านตับเต่า
๒. บ้านน้ำคำใหญ่
๓. บ้านน้ำคำน้อย
๔. บ้านห้องข่า
๕. บ้านโนนขี้เหล็ก
๖. บ้านกุดจอก
๗. บ้านห้องพอก
๘. บ้านหนองเสียตาย
๙. บ้านสมสะอาด
๑๐. บ้านหนองแวง
๑๑. บ้านดอนหัวหมู
๑๒. บ้านวังแคน
๑๓. บ้านหนองไม้ตาย
๑๔. บ้านหนองชองแมว
๑๕. บ้านทุ่งอีโอก
นี้คืออาณาเขตของตำบลตับเต่า สำหรับผู้นำตำบลตับเต่า มีกำนันจำนวน ๔ ท่านดังนี้
๑. กำนันพล หลักหาญ
๒. กำนันบุด ศุภผลา
๓. กำนันหล้า ยาวโนภาส
๔. กำนันพรหมจักร มาณจักร
อุโบสถ

การยุบตำบลตับเต่า
อยู่ต่อมาทางการได้ยุบตำบลตับเต่า เพื่อไปขึ้นกับตำบลในเมือง ชาวบ้านตับเต่าได้ไปขึ้นกับตำบลในเมืองอยู่ประมาณ ๑๕ ปี กำนันตำบลในเมืองชื่อ นายไพร จันทร์ศิริ
การแต่งตั้งตำบลน้ำคำใหญ่
หลัง ๑๕ ปี ผ่านไป ทางการได้ตั้งตำบลน้ำคำใหญ่ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ สาเหตุที่ตั้งหมู่บ้านเล็กๆ เป็นตำบลนั้นคือ ในสมัยนั้นได้มีพระผู้ใหญ่ในอำเภอมาจำพรรษาที่วัดน้ำคำใหญ่ พระผู้ใหญ่ที่ว่าคือ พระครูพิศาล ศีลคุณเจ้าคณะแขวงยโสธร ซึ่งย้ายมาจากวัดศรีธรรมมาราม มาอยู่จำพรรษา ทางการจึงให้ความสำคัญต่อพระผู้ใหญ่ จึงตั้งบ้านน้ำคำใหญ่ขึ้นเป็นตำบล ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ด้วยสาเหตุนี้เอง สำหรับตำบลน้ำคำใหญ่ มีอาณาเขตทั้งหมดจำนวน ๑๕ หมู่ ดังนี้
หมู่ที่ ๑ บ้านน้ำคำใหญ่
หมู่ที่ ๒ บ้านน้ำคำน้อย
หมู่ที่ ๓ บ้านห้องข่า
หมู่ที่ ๔ บ้านโนนขี้เหล็ก
หมู่ที่ ๕ บ้านกุดจอก
หมู่ที่ ๖ บ้านห้องพอก
หมู่ที่ ๗ บ้านหนองเสียตาย
หมู่ที่ ๘ บ้านสมสะอาด
หมู่ที่ ๙ บ้านหนองแวง
หมู่ที่ ๑๐ บ้านวังแคน
หมู่ที่ ๑๑ บ้านตับเต่า
หมู่ที่ ๑๒ บ้านตับเต่า
หมู่ที่ ๑๓ บ้านดอนหัวหมู
หมู่ที่ ๑๔ บ้านห้องข่า
หมู่ที่ ๑๕ บ้านน้ำคำน้อย

สำหรับผู้นำของตำบลน้ำคำใหญ่ มีกำนันรวม ๕ ท่านคือ
๑. นายเกตุ ทองแก้ว
๒. นายเหลือ หลักหาญ
๓. นายแสวง ศุภผลา
๔. นายไพรบูรณ์ แสวงดี
๕. นายเทพพิทักษ์ โคตรสมบัติ
ประวัติบ้านตับเต่า-บ้านเหล่าบูด และตำบลน้ำคำใหญ่พอสังเขป ใครเกิดหลัง พ.ศ.๒๔๖๘
หมายเหตุ:
๑. ผู้ใดเกิด พ.ศ.๒๔๖๙ - พ.ศ.๒๔๘๔ เกิดในตำบลในเมือง ใครเกิดพ.ศ.๒๔๘๕ เกิดในตำบลน้ำคำใหญ่ ปัจจุบัน
๒. สาเหตุที่บ้านตับเต่ามีนามสกุล "หลักหาญ" มากกว่านามสกุลอื่นมีสาเหตุดังนี้
- คำว่า หลัก ท่านเอามาจากผู้ที่มาตั้งหลักปักฐานลงที่ตรงนี้
- คำว่า หาญ ท่านเอามาจาก อำเภอหนองหาร รวมเข้ากันเรียกว่า "หลักหาญ" ตรงนี้เอง


พระประธานภายในศาลาการเปรียญ



ศาลาการเปรียญ



หอระฆัง

หอกลอง

วัดตับเต่านี้มีเจ้าอาวาสมาหลายรูป เท่าที่ทราบนามมี ๖ รูปดังนี้
รูปที่ ๑ พระมณี
รูปที่ ๒ พระวัน
รูปที่ ๓ พระทอก
รูปที่ ๔ พระครูกันศิลสุนทร
รูปที่ ๕ พระครูอนันต์ โฆสโก
รูปที่ ๖ พระครูวิจิตรปัญญาธร
พระครูวิจิตรปัญญาธร
เจ้าอาวาสวัดตับเต่า

สถานะเดิม
ชื่อ ชอบ นามสกุล วรรณชาติ
วิทยฐานะ ป.๔ อาชีพ ทำนา
เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย
สัณฐาน สันทัด สีเนื้อ ดำแดง
ตำหนิ แผลเป็นที่แขนซ้าย
บิดา นายหนู มารดา นางจันสี
วันที่ ๒๑ เดือน กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๖
บ้านเลขที่ ๑๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
อุปสมบท
ชื่อ พระชอบ ฉายา ปญฺญาธโร
พระอุปัชฌาย์ พระอธิการกินทร์ ธมฺมธโม
พระกรรมวาจาจารย์ พระครูอนันต์โมลโก
พระอนุสาวนาจารย์ พระปลัดสุวรรณ โชติธมโม
อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วันที่ ๙ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๑๗
เวลา ๒๓.๓๐ น. วัดตับเต่า ตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ให้ ณ วันที่ ๒๗ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๗

ซุ้มประตู



อาคารเสนาสนะ




