เมืองปัว ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน โดยห่างจากตัวอำเภอเมืองน่าน 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า คำว่า ปัว เพี้ยนมาจาก พลัว ปัว เป็นเมืองสีเขียวในหุบที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติแสนงดงาม เป็นที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลัวะ แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อที่มีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้านอย่างเช่น ผ้าทอไทลื้อ ที่สร้างชื่อมาช้านานกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอำเภอนี้ ในช่วงฤดูทำนาเราจะได้เห็นไร่นาเขียวขจีห้อมล้อมด้วยขุนเขาพร้อมสายหมอกบาง ในฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น สองฟากถนนสายหลักเป็นกลุ่มบ้านไม้ริมถนนรวมถึงซอกซอยที่เชื่อมถึงกันหมดที่ต่างซุกซ่อนชีวิตเรียบง่ายและเป็นหนึ่งเดียวกัน
มาเที่ยวปัวช่วงไหน
เมืองปัวเป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเที่ยวหน้าหนาวดีกว่าอากาศหนาวเย็นสบาย แต่ถ้าอยากเห็นเมืองปัวในแบบที่สวยที่สุดควรมาหน้าฝนช่วงฤดูทำนาตั้งแต่กลางเดือน กย – ตค คือ ถ้ามาหน้าหนาวก็จะได้แค่อากาศหนาวไม่ได้วิวทุ่งนาเขียวขจีเต็มเมือง ซึ่งเรามองว่าวิวทุ่งนาและเขาเขียวขจีเป็นจุดเด่นอีกอย่างของเมืองนี้ พื้นที่ของอำเภอปัวเกือบทั้งเมืองประชากรประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ตลอดสองข้างเต็มไปด้วยแปลงคันนา เหมือนเราไปเที่ยวแม่กลางหลวง แม่แจ่ม หากไปในช่วงไม่มีนาข้าวก็ไม่มีอะไรน่าชมมากเท่าช่วงที่มีนาข้าวเพราะไฮไลต์ของเค้าคือสิ่งนี้ หรือเราไปเที่ยวทะเลหน้าฝนถามว่าเที่ยวได้มั้ยก็เที่ยวได้เพียงแต่ความสวยของทะเลหน้าฝนจะไม่สวยเต็มที่เหมือนฤดูท่องเที่ยวของมันอย่างหน้าร้อน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.paiduaykan.com